วันที่ 27 มิถุนายน 2567 นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ โพสต์เฟซบุ๊กในเพจ คุยกับหมอฆนัท ระบุว่า ทำไมเราถึงมีน้ำตา เพราะอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า?

เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า ทำไมเมื่อเราทุกข์ใจ หรือแม้แต่สุขใจ มักจะมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตา เราเลยเรียกกันว่า “น้ำตา” แล้วทำไมเราถึงมีน้ำตากันได้ล่ะ เพราะอ่อนแอหรือเปล่านะ

หมอจะมาเล่าให้ฟังครับ ว่า น้ำตาผลิตขึ้นโดยต่อมน้ำตา ซึ่งอยู่ในเบ้าตาตรงมุมบนหัวตาไปถึงมุมหางตา จากนั้นจะส่งผ่านหลอดน้ำตา ในเปลือกตาบนและล่าง ตรงมุมหัวตา เพื่อไปเก็บเอาไว้ที่ถุงน้ำตา ซึ่งอยู่หลังผิวหนังบริเวณระหว่างมุมหัวตาของเปลือกตากับดั้งจมูก

ถ้าน้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมกับความรู้สึกเราจะเรียกว่า น้ำตาจากอารมณ์ (emotional tears) เป็นน้ำตาที่ถูกกระตุ้นโดยความรู้สึกที่แตกต่างกันทั้งใน ด้านบวก และด้านลบ แต่ถ้าน้ำตาไหลออกมาเฉยๆ ก็จะเรียกว่า น้ำตาหล่อเลี้ยงลูกตา (basal tears) เป็นน้ำตาที่ช่วยหล่อลื่น บำรุง ทำความสะอาดและปกป้องดวงตา หรืออาจจะเป็น น้ำตาที่หลั่งออกมาเมื่อมีสิ่งระคายเคือง (reflex tears) เป็นน้ำตาที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อมีอาการ ระคายเคืองครับ

แท้จริงแล้ว “น้ำตา” ไม่เพียงแต่บอกว่าเรามีอารมณ์ ความรู้สึก แต่ยังมีความสำคัญต่อสุขภาพของดวงตาอย่างมาก เพราะการที่ต่อมน้ำตาผลิตน้ำใสๆ มาคลอๆ ที่ดวงตา เป็นการป้องกันดวงตาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันฝุ่น และสิ่งระคายเคืองอื่นๆ ได้ครับ ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่ไม่มีน้ำตา เมื่อนั้นคือสัญญาณที่ไม่ดี ต้องมาพบแพทย์ให้ตรวจเช็กดีกว่าครับ

แต่น้ำตาไหล ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ เพราะมีประโยชน์กับสุขภาพจิตของเรา โดยมีการศึกษาพบว่า การร้องไห้ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดของคนเราได้ดี ทำให้ร่างกายปลดล็อกความกดดันภายในออกมา จากนั้น ก็จะรูสึกผ่อนคลายมากขึ้น

ดังนั้น การร้องไห้ไม่ได้แปลว่า “อ่อนแอ” กลับกันนั้น การร้องไห้เป็นวิธีการจัดการกับอารมณ์ที่ชาญฉลาดมากครับ