ช่างเย็บผ้าร้องสื่อ ลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเป็นปี คดีไม่คืบ

28 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าว จ.ระยอง ได้รับรายงานว่ามีชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานใจมานานนับปี หลังลูกสาวไปทำงานต่างจังหวัด แล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เวลาล่วงเลยมานานนับปี แต่คดีไม่คืบหน้า

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดสามย่าน ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อไปพบกับนางบัวแก้ว อายุ 60 ปี อาชีพช่างตัดเย็บผ้า เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นางบัวแก้ว เล่าว่า ตนมีลูกสาวคนเดียวชื่อ น.ส.สินิตตรา หรือตั๊ก อายุ 34 ปี หลังจากส่งเสียจนเรียนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ก็ได้ไปทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ที่บริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ฝ่ายจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ กระทั่งวันที่ 13 มี.ค.66 ลูกสาวประสบอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ที่บริเวณ ถนนกิ่งแก้ว ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากจัดงานศพลูกสาวแล้วจึงไปติดตามเรื่องคดีความจากทางตำรวจ สภ.บางพลี

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันผ่านมาปีกว่า ตำรวจบอกกับตนว่า “ยังไม่สรุปสำนวนคดี” ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า ตนต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามคดี ทวงความยุติธรรมให้ลูก แต่ไปทีไรก็พบแต่ความผิดหวัง ไม่รู้ว่าตำรวจติดขัดปัญหาอะไร

นางบัวแก้ว กล่าวว่า ตนอายุมากแล้ว ตอนนี้ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายหลายอย่าง และยังต้องส่งบ้านให้ลูกสาว ด้วยอาชีพตัดเย็บผ้า ตนทำไม่ไหว มีลูกสาวคนเดียวและรักมาก กว่าจะส่งเสียเรียนจนจบก็หวังจะพึ่งพาลูกสาว แต่กลับต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแบบนี้ ตนเป็นชาวบ้านตาดำ ๆ จึงกราบวิงวอนผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตนด้วย

ด้านนายไพรัช งามขำ ทนายความที่มารับดูแลเรื่องคดีให้กับนางบัวแก้ว กล่าวว่า หลังจากนางบัวแก้ว นำเรื่องลูกสาวเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตมาปรึกษา ตนได้เดินทางไปถึง สภ.บางพลี เพื่อไปติดตามคดีให้ ตามไปจนพบกับตำรวจเจ้าของคดี ซึ่งเป็นถึงระดับสารวัตร ตอนนี้ได้ย้ายจาก สภ.บางพลีไป อยู่ สภ.สุวรรณภูมิ ทางตำรวจเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่าได้ส่งสำนวนคืนกลับไปที่ สภ.บางพลี จนเรื่องเข้าที่ประชุม รอง ผกก. ท่านหนึ่งบอกว่าได้มอบหมายให้สารวัตรท่านหนึ่งรับสำนวนคดีต่อแล้ว จึงโทรประสานกับสารวัตรท่านนี้และสอบถามข้อมูล แต่ได้รับคำตอบว่าทำคดีให้ไม่ได้เพราะคดีล้นมืออยู่แล้ว ต้องติดต่อตำรวจเจ้าของสำนวนคดีคนเดิม จนล่าสุดคดีลูกสาวของนางบัวแก้ว ยังไม่มีการสรุปสำนวนคดีใดๆทั้งสิ้น ผ่านมาปีกว่าแล้ว

นายไพรัช กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ตนขอฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องอยากให้ช่วยมาสอดส่องดูแลด้วย เพื่อที่ลูกสาวของผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรม

-005