เปิดหมู่บ้านอนุรักษ์ทุเรียนโบราณอายุ 300 ปี สูงใหญ่ให้ผลผลิตปีละ 600 ลูกต่อต้นบนดินแดนน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์พื้นที่ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง "นายก อบจ.สตูล" พร้อมดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงธรรมชาติ
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สตูล พร้อมผลักดันหมู่บ้านโตนปาหนัน และหมู่บ้านน้ำร้อนในพื้นที่ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ทุเรียนพื้นเมือง หลังพบต้นทุเรียนพื้นเมืองอายุ 300 ปีที่มีความสูงใหญ่ให้ผลผลิตปีละ 600 ลูกต่อต้น และยังพบเป็นหมู่บ้านที่ร่วมกันอนุรักษ์ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่มีมากกว่า 50 ต้นในพื้นที่ และยังพบว่าพื้นที่แห่งนี้ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย บ่อน้ำพุที่ศักดิ์สิทธิ์จะนำน้ำจากแหล่งนี้ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เพียง 1 กิโลเมตร ทำให้ทุเรียนและผลไม้ในพื้นที่สมบูรณ์รสชาติอร่อย
ทำให้ อบจ.สตูล พร้อมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง ระหว่างหมู่บ้านอนุรักษ์ทุเรียนพื้นเมืองโบราณ ไปยังบ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย และน้ำตกโตนปาหนัน ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนและยังได้สัมผัสต้นทุเรียนโบราณที่มีอายุกว่า 300 ปี ขนาด 6 คนโอบ มากกว่า 10 ต้นและพันธุ์พื้นเมืองอื่น ๆ ไม่น้อยกว่า 50 ต้น แต่ละต้นที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามรูปลักษณ์อย่างต้นทุเรียนสาวสูง เป็นต้นที่มีลักษณะสูงมาก ๆ รสชาติหวาน เนื้อนิ่ม เหมาะกับการทำน้ำแกงทุเรียน หรือ (ข้าวเหนียวทุเรียน) ส่วนต้นทุเรียนสาวเขียว ต้นนี้มีผลเป็นสีเขียว เนื้อหนึบอร่อย และยังมีต้นทุเรียนชื่อ มด-สอด (ภาษาถิ่น) เพราะมดชอบชอนไช และทุเรียนเหลืองขมิ้น
นายอนุชัย เส็นสัน (บังเหม) อายุ 61 ปี ผู้ดูแลสวน กล่าวว่า ต้นทุเรียนโบราณนี้มีชื่อเรียกหลายชนิดเช่น ทุเรียนสาวสูง สาวหวาง (สว่าง) สาวเขียว และ มด-สอด ซึ่งชื่อ สาวสูง เพราะต้นโตไวสูงมากออกลูกตามกิ่งเป็นแถว ให้ผลผลิตประมาณ 600 ลูก ขายกิโลกรัมละ 60 บาท หากอยากกินให้มาที่บ้านโตนเปิดขายทุกวัน
ด้านนายบีสอน ลัสมาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านโตนปาหนัน ต.ทุ่งนุ้ย กล่าวว่า ในพื้นที่โตนปาหนันมีทุเรียนพื้นเมืองโบราณไม่น้อยกว่า 50 ต้น ตอนนี้ตัวเองอายุ 60 ปีแล้ว คำนวณแล้วต้นทุเรียนโบราณนี้อายุประมาณ 300 ปี เพราะโตมาต้นทุเรียนก็สูงใหญ่เท่านี้อยู่แล้ว ทุเรียนพื้นบ้านแต่ละต้นแม้จะอยู่ติดกันรสชาติก็ไม่เหมือนกัน บางต้นหวานขม บางต้นหวานมัน บางต้นหวานนำ รสชาติหวานน้อย หวานมากแตกต่างกัน ตอนนี้เราขยายพันธุ์อยู่หากมีกิ่งหักเราก็เอายอดไปขยายพันธุ์ต่อ โดยร่วมกับทีมงานบ้านน้ำร้อนในการขยายพันธุ์ผลไม้พื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นจำปาดะ ทุเรียน เพราะโดยธรรมชาติแล้วมันจะหายไปเรื่อย ๆ จึงต้องอนุรักษ์ไว้
ด้านนักท่องเที่ยว บอกว่า รสชาติทุเรียนอร่อย หวาน มัน สมคำร่ำลือ คำว่าหมู่บ้านผลไม้นี่คือใช่เลย มาครั้งแรกประทับใจ บรรยากาศดี สมบูรณ์ไปด้วยผลไม้ต่าง ๆ อยากให้นักท่องเที่ยวได้มาลองชิมผลไม้บ้านโตนกัน
นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่าย ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง และผลไม้ตามฤดูกาลอย่าง เงาะ มังคุด ทุกๆ เช้าจะคึกคักเป็นพิเศษจะมีชาวสวนผลไม้นำผลผลิตออกมาขาย ที่ร้านก๊ะหรี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ร้านจำหน่ายผลไม้ในหมู่บ้าน สำหรับร้านก๊ะหรีตั้งอยู่ซ้ายมือฝั่งขาเข้าก่อนถึงบ่อน้ำพุร้อน ที่ห่างกันเพียง 1500 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถแวะซื้อผลไม้ติดมือกลับไปได้ โดยทุเรียนพื้นเมือง ราคากิโลกรัมละ 60 บาท ทุเรียนหมอนทอง ราคา 150 บาท
นายยูโสบ ยูฮันนัน อายุ 51 ปี ชาวสวนบ้านโตนปาหนัน ขี่รถจักรยานยนต์นำทุเรียนพื้นบ้านมาขาย โดยบอกว่า เป็นทุเรียนพื้นเมืองทั้งหมด จากต้นที่ส่งต่อมาจากรุ่นพ่อ เพราะรุ่นนี้เขาไม่ปลูกแล้วทุเรียนพื้นเมืองจะปลูกทุเรียนหมอนทอง สำหรับชื่อต้นทุเรียนแล้วแต่คนโบราณตั้งมาเพื่อง่ายในการจัดการ ในพื้นที่ยังมีเยอะหลายสิบต้นส่วนใหญ่เป็นต้นใหญ่ๆ ออกลูกต้นนึงประมาณ 300-400 ลูก แล้วแต่ต้น เม็ดใหญ่ บางต้นเนื้อดี บางต้นเนื้อน้อย เมื่อได้ปุ๋ยก็ทำให้เนื้อเยอะมากกว่าในอดีตที่เลี้ยงตามธรรมชาติ
หากเดินทางมายังบ้านโตนปาหนัน หรือ หมู่บ้านทุเรียนพื้นเมืองแล้วสามารถชมสวนฉีกทุเรียนกินใต้ต้นหรือซื้อกลับไปเป็นของฝาก จะไปเล่นน้ำตกโตนปาหนัน หรือไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นสบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ เป็นทริปที่เหมาะกับทุกกลุ่มวัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้ใหญ่บ้าน 084-750-8674, นายอนุชัย [บังเหม] 089-295-4244
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี