อันตรายถึงชีวิต!!! "อ.เจษฎา"โพสต์เตือนซ้ำๆอีกทีวิธีการสังเกต"เห็ดระโงกพิษ-เห็ดระโงกขาวที่กินได้"
17 ก.ค.67 รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ พร้อมข้อความระบุว่า เตือนซ้ำๆ เรื่อง "เห็ดระโงกพิษ" ครับ... มีคนแชร์รูปนี้มาถามว่าจริงหรือเปล่า ? ที่ถ้ากินเห็ดระโงกเข้าไป จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงนะครับ มีเคสเกิดขึ้นทุกปี และก็เตือนไปหลายครั้งแล้วครับ ... อย่างในรูปนี้ จุดสังเกตก็คือ เมื่อผ่าเห็ดตูม แล้วถ้าเนื้อข้างในเป็นสีขาวล้วน อันนั้นเป็นเห็ดพิษ ห้ามกิน ! (ส่วนเห็ดที่กินได้ หรือ "เห็ดระโงกขาว" นั้น เมื่อผ่าแล้วจะเห็นสีเหลืองอยู่ที่เปลือกชั้นที่ 2)
สรุปที่เคยโพสต์ไว้อีกทีครับ
- วิธีการสังเกตเห็ดระโงกพิษ : เห็ดระโงกพิษ มีหมวกขาวล้วน ทั้งแก่และอ่อน มีปุยเล็กน้อย ไม่เรียบมัน ก้านกลวงบ้าง ตันบ้าง
- ส่วน เห็ดระโงกขาว กลางหมวกมีสีเหลืองเล็กน้อยตอนอ่อน ตอนแก่มีสีเหลืองมากขึ้น หมวกเรียบมัน ไม่มีปุย ก้านตัน
- ชาวบ้านนิยมเก็บช่วงเห็ดอ่อน ซึ่งมีลักษณะดอกเห็ดตูมคล้ายไข่ กลมรี ยากต่อการจำแนก
- ควรหลีกเลี่ยงการเก็บเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงาก ขณะที่ยังเป็น “ดอกอ่อน” ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมรีคล้ายไข่ มารับประทาน เนื่องจากลักษณะดอกตูภายนอกจะเหมือนกัน จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือไม่มีพิษ
- หากจะเก็บเห็ดระโงกช่วงเห็ดอ่อน ต้องนำมาผ่าเพื่อดูชั้นผิวด้านใน ถ้าผ่าเห็ดตูมแล้วเห็น “สีเหลือง” อยู่ที่เปลือกชั้นที่ 2 จากด้านบนคือ เห็ดระโงกขาวกินได้ / แต่หากผ่าแล้วเห็นเป็น “สีขาวล้วน” คือ เห็ดระโงกพิษ” ฉะนั้นต้องผ่าเห็ดทุกครั้ง ก่อนเก็บหรือต้ม
- ถ้าเจอใครที่น่าจะได้รับพิษจากเห็ด ให้พยายามทำให้ผู้ป่วยอาเจียน โดยการล้วงคอ หรือให้ทานไข่ขาว จากนั้น รีบพาส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
- ชนิดของเห็ดพิษในประเทศไทย มีหลากหลาย แต่ที่สำคัญ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ เช่น เห็ดระโงกหิน หลังรับประทานเห็ดพิษกลุ่มนี้จะไม่มีอาการในตอนแรก แต่จะเริ่มมีอาการเมื่อผ่านไปแล้ว 4-6 ชั่วโมงเป็นต้นไป อาการเริ่มต้นคือคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางรายอาจมีอาการเกิดขึ้นช้ามากกว่า 10 ชั่วโมงหรือข้ามวันไปแล้ว หลังจากมีอาการผ่านไป 2-3 วัน การทำงานของตับจะเริ่มแย่ลง เอนไซม์ตับสูงขึ้น มีภาวะตับอักเสบ หากรุนแรงอาจเกิดตับวายและเสียชีวิตได้
2. กลุ่มที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ เช่น เห็ดเหลืองนกขมิ้น เห็ดถ่าน อาการเริ่มต้นคือคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย โดยจะมีอาการเร็วภายใน 6 ชั่วโมงหลังรับประทาน จากนั้นจะมีอาการของการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย รวมถึงปัสสาวะมีสีดำหรือสีโค้ก เนื่องจากมีของเสียในกล้ามเนื้อรั่วออกมาปนอยู่ในปัสสาวะ ในรายที่รุนแรงจะมีเกลือโพแทสเซียมที่รั่วออกมาจากกล้ามเนื้อมากจนมีหัวใจเต้นผิดจังหวะเสียชีวิตได้ นอกจากยังมีสารมัยโอโกลบินในกล้ามเนื้อรัวออกมาทำให้เกิดไตวายร่วมด้วย
3. กลุ่มที่ทำให้เกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น เห็ดแดงน้ำหมาก เห็ดหัวกรวดครีบเขียว กลุ่มที่ทำให้เกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหาร หลังรับประทานเกิดความผิดปกติกับระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย โดยจะมีอาการเร็วภายใน 6 ชั่วโมงหลังรับประทาน พิษจากเห็ดกลุ่มนี้จะไม่รบกวนอวัยวะในระบบอื่น ผู้ที่มีอาการรุนแรงสามารถเสียชีวิตได้เหมือนกับอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษที่รุนแรง ทำให้ขาดน้ำรุนแรง เกิดภาวะช็อคหรือความดันตกและเสียชีวิตได้
- เมื่อรับประทานเห็ดพิษ หากเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หลังรับประทานนานกว่า 6 ชั่วโมง ต้องระวังว่าเป็นเห็ดที่จะทำให้มีตับอักเสบ ควรรีบไปพบแพทย์
- ถ้าหากเพิ่งรับประทานเห็ดไปไม่เกิน 6 ชั่วโมง แล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อาจรักษาตัวเองเหมือนอาการอาหารเป็นพิษก่อนได้
- แต่ถ้าหากอาการรุนแรง เช่น รับประทานไม่ไหว ดื่มน้ำเกลือแร่ไม่ไหว ปัสสาวะมีสีเข้มหรือสีโค้ก ท้องเสียมาก อ่อนเพลียมาก ปวดเมื่อยเนื้อตัวร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์
- วิธีการเบื้องต้น ได้รับพิษจากเห็ดซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นเห็ดชนิดใด หรือได้รับพิษจากสารชีวพิษกลุ่มใดพยายามทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยการล้วงคอ หรือให้ทานไข่ขาว จากนั้นรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาให้เร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี