30 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผุ้ใช้เฟสบุ๊คเป็นหัวหน้าเทศกิจท่านหนึ่ง ชื่อ จ่าเอกขิง บัวนาค อยู่ที่สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โพสต์ข้อความว่า “ฝากไปถึงทุกร้านนะครับ
ดื้อดึง ท้าทายระบบ ใช้หลักรัฐศาสตร์แล้วก็แล้วถึงคราวที่ต้องใช้หลักนิติศาสตร์บ้าง...ไม่ทำพวกผมก็โดน 157คุณไม่เห็นใจคนส่วนรวมเลย ไม่อยากทำเลยแต่มันเป็นหน้าที่ พร้อมกับมีภาพเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เปิดขายตอนกลางคืนที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองบ้านดุง เอาเก้าอี้วาง พร้อมเขียนติดป้ายว่า ที่จอดรถลูกค้าก๋วยเตี๋ยว และภาพพูดคุยกับลุงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของร้าน ได้ไปบอกตักเตือนแล้ว และยังมีคลิปที่จ่าเอกขิง หน.เทศกิจฯ ได้โพสต์คลิปแจ้งว่า “จากกรณีเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่รุกล้ำทางสาธารณะ ผมได้ไปตักเตือน เจ้าตัวก็ยอมรับได้ล้ำทางสาธารณะ เจ้าตัวก็จะปรับปรุง แต่มาวันอาทิตย์ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ขับรถผ่านไปดู เจ้าของร้านก็ยังดื้อดึง ท้าทายระบบ รถขายก๋วยเตี๋ยว และโต๊ะเก้าอี้ก็ไม่ยอมเก็บ การทำแบบนี้ถือว่าไม่เหมาะสม ทำให้คนใช้รถใช้ถนนและทางเท้าเดือดร้อน และเจ้าหน้าที่ฯไม่ได้กลั่นแกล้ง ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟังต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานขณะไปยกรถซาเล้งและอุปกรณ์ทั้งโต๊ะเก้าอี้ โดยจ่าเอกขิงบอกไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และท้าทายระบบอำนาจรัฐ เจ้าหน้าที่ฯ ไม่ได้กลั่งแกล้ง เคยบอกไปแล้วถ้าอยากขายให้เก็บให้เรียบร้อย ให้ประชาชนพิจารณาเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปจ่าเอกขิง เผยทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ทางเทศกิจทำตามหน้าที่ ขออนุญาตไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพราะทางเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็ยอมรับผิดแล้ว แต่ขอย้ำว่า เราเตือนแล้ว เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็รับปาก แต่ยังดื้อดึง ท้าทายระบบ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปบริเวณจุดที่เทศกิจยกร้านก๋วยเตี๋ยว พบว่าเป็นหน้าร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดเทศบาลเมืองบ้านดุง เฮียแจ๊ค เจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า ลุงศักดิ์เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวได้มาขอเช่าที่ขายในช่วงกลางคืน ตนเองเห็นเขาเป็นคนสู้ชีวิตและอยู่กับลูกสาว 2 คนก็เลยให้ขาย ขายมาหลายปี พอเห็นข่าว คิดว่าอาจจะมีการร้องเรียนที่ลุงขายก๋วยเตี๋ยวร้ำที่สาธารณะ ผมก็เคยแนะนำให้เอาขึ้นมา แต่ก็เข้าใจเจ้าหน้าที่เทศกิจฯ เขาก็ทำตามหน้าที่ เตือนมาหลายครั้ง แต่ลุงขายก๋วยไม่ปฏิบัติตาม เห็นใจลุงเหมือนกัน แต่บางทีเราก็ต้องคำนึงถึงส่วนรวม อยากให้อะลุ้มอล่วยกัน ไม่อยากให้ขัดแย้งกัน ก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่เราก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายจิระศักดิ์ เวียงชัย อายุ 55 ปี หรือ ลุงศักดิ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ที่บ้านหลังหนึ่งในต.บ้านดุง เล่าให้นักข่าวฟังว่า ผมไปขายก๋วยเตี๋ยวที่หน้าร้านทองมา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดโควิด โดยเช่าร้านทองเดือนละ 2,000 บาท ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเลิกกับภรรยา อยู่กับลูกสาว 2 คน แต่ละวันจะไปตั้งแต่สี่โมงเย็นจะไปขายกับลูกสาววัย 9 ขวบช่วยกัน กว่าจะเลิกกลับถึงบ้านก็ 6 โมงเช้าอีกวัน ส่วนเรื่องที่เอาร้านซาเล้งขายก๋วยเตี๋ยวและโต๊ะเก้าอี้วางทางเท้าไม่เก็บ เรื่องนี้ผมยอมรับผิดไม่แก้ตัว โดยเทศกิจแจ้งว่าต้องจ่ายค่าปรับ 2,000 บาท ตนเองจึงขอต่อรองเหลือ 1,000 บาท นัดจ่ายวันนี้ (30 ก.ค.67) ก็จะรีบไปขายก๋วยเตี๋ยวกับลูกสาวเพื่อหาเงินค่าปรับให้ทันที และตอนนี้ได้ไปขอชุดขายก๋วยเตี๋ยวของเทศกิจมาขายที่เดิม ขายเสร็จก็จะเอาไปเก็บไว้ในตลาด เช่าที่ไว้เก็บเลย
เรื่องที่เกิดขึ้น ผมยอมรับผิดว่าอาจจะไม่เก็บทั้งโต๊ะเก้าอี้และรถขายก๋วยเตี๋ยวผมคงไม่ไปโต้แย้ง ไม่อยากมีเรื่อง กับเจ้าหน้าที่ แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เข้าทุกจุดไม่อยากให้เลือกปฏิบัติหน่อยก็ดี เพราะยังมีอีกหลายที่ที่รุกล้ำทางเท้า ผู้สื่อข่าวถามว่า อยู่บ้านหลังนี้กับใคร ลุงศักดิ์บอกว่า ผมอยู่กับลูกสาว 2 คน ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ป.4 พอเลิกเรียนเสร็จก็ไปรับลูกสาวพาไปขายก๋วยเตี๋ยวทุกวัน เพราะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลำพังผมก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ต้องขับรถจยย.พาลูกสาวไปจากบ้านเกือบ 5 กม.ไปในตัวเมืองเพื่อขายก๋วยเตี๋ยว กว่าจะเลิกก็รุ่งเช้าอีกวัน ขายแต่ตอนกลางคืน เงินที่ได้ก็ให้ลูก จ่ายงวดรถจยย.จ่ายดอกเอาบ้านไปจำนำ แต่เราก็สู้ ยังคิดอยู่เหมือนกันหากผมเป็นอะไรไป ลูกสาวจะอยู่อย่างไร ห่วงแต่ลูกสาวคนเดียวคนนี้ ลุงศักดิ์พูดไปก็น้ำตาคลอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี