nn...สมกับที่เคยเป็น “ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่ทำให้ “ดร.กานต์ – รัชดา ธนาดิเรก”อดีตรองโฆษกรัฐบาล ต้องเดินทางล่องใต้บ่อยมาก เดี๋ยวไปประชุม เดี๋ยวไปร่วมกิจกรรมกับพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเจ้าตัวก็ชื่นชอบวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมนำเสนอของดี เด่น เป็นเอกลักษณ์แต่ละพื้นที่สม่ำเสมอ ทั้งของกิน แหล่งท่องเที่ยว เสื้อผ้า ฯลฯ และถึงจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่พี่กานต์ก็ยังเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นนิจ ...ล่าสุดเห็นอดีตรองโฆษกรัฐบาลผู้นี้ ผันตัวไปเป็น “ไกด์อาสา” พาเพื่อนสมัยมัธยมทัวร์จังหวัดชายแดนใต้ จัดทริปจัดทัวร์วางแผนเดินทางเหมือนไกด์อาชีพเป๊ะ เริ่มตั้งแต่ลงเครื่องหาดใหญ่ แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่เกาะยอ บ่ายอยู่ปัตตานี ก่อนเดินทางต่อไปตากใบ นราธิวาส ก่อนจะจบทริปวันสุดท้ายที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยมีสโลแกนประจำทัวร์ครั้งนี้ว่า “เที่ยวสนุก อาหารอร่อย สาระเพียบ ต้องไปทัวร์กับ “รัชดา ธนาดิเรก” ...แหม..มมม....เห็นโปรแกรมแล้ว น่าสนุกเพราะไกด์กานต์พาไปล่องเรือรับประทานอาหาร ชมอุโมงค์โกงกาง เมนูสำรับพื้นบ้าน ที่ทำเอาลูกทัวร์อิ่มท้องอิ่มอกอิ่มใจ ติดใจทริปนี้กันเป็นแถว และไม่วายจะแวะทำบุญไหว้พระที่วัดช้างให้ แถมด้วยแวะชิมราชาแห่งผลไม้ขึ้นชื่อของปัตตานี “ทุเรียนทรายขาว” ด้วย.... ก่อนจะจบทริปด้วยการพาเพื่อนๆไปช็อปปิ้งอุดหนุนผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น ผ้าสวยๆหอบหิ้วกันคนละถุงสองถุง กลับบ้านเป็นที่ระลึก ..เรียกว่า ชื่นมื่นทั้งคนที่เป็นไกด์ และลูกทัวร์ จบทริปนี้แล้ว สงสัยต้องมีทริปต่อไปแล้วล่ะ เพราะลูกทัวร์ติดใจไกด์อาสากันเป็นแถว...อิอิ...nn

nn...ทำงานฉับไวไม่รีรอ สมเป็นเจ้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ “วราวุธ ศิลปอาชา” เจ้าของสโลแกน “วราวุธรับฟังทำจริง” หลังได้เบาะแสจากสื่อโซเชียลนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ “คนไร้บ้าน” ซึ่งใช้พื้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าดังแห่งหนึ่ง หลับนอนจำนวนมาก หน่วยเคลื่อนที่เร็ว ศรส. โดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้ลงพื้นที่ทันที ก็พบคนไร้บ้าน 5 คน และได้เข้าไปพูดคุยซักถาม เพื่อหาทางแก้ไข ปรากฏว่าทั้ง 5 คนไม่ประสงค์เข้ารับการคุ้มครอง สาเหตุที่มาพักนอนตรงนี้ เนื่องจากรายได้จากการรับจ้างทั่วไปไม่เพียงพอ ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 2 คนซึ่งมีปัญหาครอบครัว ลูกหลานไม่สามารถดูแลได้ รวมทั้งเป็นผู้พ้นโทษที่ไม่รู้จะขอรับการช่วยเหลือทางไหน เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำบริการ และช่องทางการช่วยเหลือ ผ่านสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และแผนการดำเนินการต่อจากนี้ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักงานเขตบางกะปิ และสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว จะติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อคนไร้บ้านและประชาชนทั่วไป...หลังปฏิบัติการลงพื้นที่เสร็จสรรพรมต.ท็อปก็จะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบความคืบหน้าพร้อมแนวทางป้องกันปัญหาเกิดซ้ำในอนาคต ซึ่งเจ้าตัวก็เข้าใจดีว่า กรณีคนไร้บ้าน และปัญหาผู้สูงอายุขาดการดูแลเป็นปัญหาที่ไม่สามารถบรรเทาได้โดยง่ายและรวดเร็วด้วยสาเหตุจากหลายปัจจัยรอบด้าน แต่กระทรวง พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามดูแลสอดส่องและคลี่คลายปัญหาเต็มที่งานนี้...ถ้าใครพบเห็นปัญหาคนไร้บ้าน คนเร่ร่อน ผู้สูงอายุขาดการดูแลไร้ที่พึ่ง ก็ติดต่อแจ้งให้กระทรวง พม.เข้าไปดูแลได้ รมต.พี่ลูกท็อปพร้อมลุยเต็มที่ขอรับ...nn