9 สิงหาคม 2567 บรรยากาศการจัดกิจกรรมวันแม่คึกคักในหลายพื้นที่ เนื่องในวันใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมปีนี้อีกไม่กี่วัน ในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าดอกไม้สด ต่างเตรียมตัวเพื่อร้อยพวงมะลัยดอกไม้สดขายวันแม่ ต่างพากันบ่นไปตามๆกันเนื่องจากราคาดอกมะลิที่เป็นวัตถุดิบหลักในการจะนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยขาย

ในปีนี้มีการปรับราคาสูงขึ้นจนสู้ราคาต้นทุนที่สูงไม่ไหว และพากันหันไปหาดอกไม้อื่นอื่น อย่างดอกพุด มาทำร้อยเป็นพวงมาลัยขายในวันแม่ปีนี้แทน ทีมข่าวได้ลงพื้นสำรวจความคิดเห็นโดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าดอกไม้สด และพวงมาลัยในปีนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน 

โดยนางประทุมศรี เพชรล้ำ อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายพวงมะลัยดอกไม้สดมานานหลายสิบปี ในย่านตลาดอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เล่าให้ฟังว่า ราคาปกติของดอกมะลิที่ยังไม่ถึงใกล้วันช่วงวันแม่ปีนี้ จะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-400 บาท แต่พอมาถึงขณะนี้ที่ใกล้ถึงวันแม่แห่งชาติ ต่างมีการปรับราคาพุ่งสูงขึ้นกว่า 4 เท่าตัว มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,200-1,400 บาท จนไม่กล้าสั่งดอกมะลิมาขายแล้ว เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหวในปีนี้ และต้องหันไปหาเก็บดอกพุดต่างๆ-ดอกมะลิบางส่วน ที่ได้ปลูกไว้เองมาร้อยเป็นพ่วงมาลัยขายได้บางส่วนเพื่อเพื่อมีรายได้บ้าง

ในวันแม่ปีนี้ ที่การปรับราคาครั้งนี้เนื่องจากปีนี้ดอกมะลิออกน้อยเพราะฝนตกชุบทำให้ดอกเน่าและหนอนลงได้ความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้ดอกมะลิที่จะนำมาส่งขายมีจำนวนน้อยลงราคาปรับขึ้นสูงเป็นหลายเท่าตัวในช่วงวันแม่ปีนี้ รวมทั้งในกลุ่มแม่ค้าพวงมะลัยดอกไม้สดในย่านตลาดอำเภอภูเขียว 

ด้านนางหนูขัน สัมถะ อายุ 54 ปี ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ตนก็ต้องเก็บดอกมะลิที่ตนเองได้ปลูกไว้บางที่สวน เพื่อมานำไว้เสริมสำรองในช่วงวันแม่ทุกปีที่ดอกมะลิจะมีการปรับราคาสูงขึ้นมาก ในแต่ละปีก็จะพอนำได้ขายให้ขาประจำได้ ส่วนเรื่องราคาขายหน้าร้านช่วงวันแม่จะมี 3ขนาด ที่ขายเริ่มต้นที่พวงละ 20-50 บาท จนถึงราคาพวงละ 100 บาท

ส่วนตลาดดอกมะลิที่ส่งมาขายให้แม่ค้าในตลาดในขณะนี้ ที่เป็นดอกมะลิบ้านที่มีกลิ่นหอมราคาอยู่ที่ กก.ละ 1,400 บาท จากเดิมก็ขายไม่เกิน 300-500 บาท และมะลิพันธุ์อินโดจะอยู่ที่ 800-1,200 บาท จากเดิมไม่เกิน 300-400 บาท ที่ถือว่าราคาสูงมาก จึงต้องหันไปหาเก็บดอกพุดมาร้อยเป็นพวงมาลัยขายแทนในปีนี้ด้วย