ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสานมาถึงแล้ว หลายคนคงจำภาพว่า "อีสาน" นั้นมีแต่ความแห้งแล้ง อากาศร้อน แต่จะบอกว่าคุณคิดผิด เพราะในภาคอีสานนั้น มีสถานที่ที่ต้องมนต์หลายพื้นที่มาก ถ้าไม่เชื่อต้องลองไปสักครั้งรับรองว่าจะติดใจ
วันนี้ “แนวหน้าออนไลน์” จะพาไปสัมผัสความงดงามถือเป็นการเปิดฤดูแห่งการท่องเที่ยวหน้าฝน ในหัวข้อ "ฤดูอีสานเขียว I-san Green Season" เพื่อเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวอีสานหน้าฝน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการมาท่องเที่ยว และอยากกลับมาซ้ำอีกครั้ง
ก่อนอื่นเลย... เราดิ่งตรงมาที่สนามบินขอนแก่น เมื่อมาถึง จ.ขอนแก่น แวะ สักการะศาลหลักเมืองขอนแก่น เพื่อเป็นสิริมงคล โดยศาลหลักเมืองแห่งนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเสมาหินทรายสมัยทวารวดี ที่มีร่องรอยการลงรักปิดทองเป็นลวดลายไทย ตรงโคนเสาก่อเป็นฐานปูนเป็นลายดอกบัว และมีผู้คนเข้ามาสักการะจำนวนมาก
ทริปนี้มีเรื่องเล่า... เมื่อเราสักการะศาลหลักเมืองขอนแก่นเสร็จแล้ว เราก็พากันขึ้นรถ เพื่อไปตามหาโครงกระดูกของ “ไดโนเสาร์” ใช่ฟังไม่ผิดแน่นอน... เพราะเราจะพาไปดูสถานที่ที่เก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่ค้นพบไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งอยู่ที่ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” หรือ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ไทยนั้นเอง
โดยพิพิธภัณฑ์สิรินธร ตั้งอยู่ใน ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ และในปี 2537 ได้มีการพบโครงกระดูกของไดโนเสาร์กินพืช ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน ที่เป็นหลุมขุดค้นในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์สิรินธร ทำให้ตื่นตาตื่นใจมากเมื่อได้มาเที่ยวชมศึกษาเรียนรู้ เรื่องราวของไดโนเสาร์และสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ถูกถ่ายทอดและรวบรวมไว้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้
หลุมกระดูกไดโนเสาร์
จากนั้นก็แวะเติมพลังกันที่ “Good day Riverside” แพร้านอาหาร เป็นจุดเช็คอินที่น่าสนใจ วิวสวยมองเห็นสะพานเทพสุดา และมีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย
ตามหารอยตีนไดโนเสาร์...
เมื่อไปเห็นโครงกระดูกไดโนเสาร์แล้ว แน่นอนเราก็อยากเห็นรอยตีนของไดโนเสาร์ ก็ต้องมุ่งหน้าไปที่ “วนอุทยานแห่งชาติภูแฝก” ตั้งอยู่ที่ ต.ภูแล่นช้าง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยา เป็นจุดพบรอยเท้าไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ และชัดเจนที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ถูกค้นพบเมื่อปี 2539 อายุราวๆ ประมาณ 140 ล้านปี มีทั้งหมด 21 รอย แต่ที่เห็นชัดเจนมี 7 รอย และในปี 2565 ได้ถูกค้นพบรอยตีนใหม่เพิ่มอีกประมาณ 10 กว่ารอย หากใครอยากเห็นรอยตีนไดโนเสาร์สามารถเดินทางไปชมให้เห็นกับตาได้ที่วนอุทยานแห่งชาติภูแฝก บอกเลยว่าได้ตื่นตาตื่นใจแน่นอน และสถานที่แห่งนี้ยังเปิดให้แคมป์ปิ้งธรรมชาติ สูดดมโอโซนให้เต็มปอด แต่ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างที่จริง
ไม้กลายเป็นหิน
หมดไปอีก 1 วัน ยังไม่จุใจเลย...
เรามุ่งตรงมาเข้าพักที่ “Nadee 10 Resort&Hotel” และแวะกินข้าวที่ “ถึง ขอน-แก่น” เป็นคาเฟ่อาหารอีสานพื้นบ้าน ที่แซบ แบบหาทานยาก กับหลากหลายเมนู บรรยากาศดี
เริ่มเช้าวันใหม่ที่สดใส...
เราออกเดินทางจากที่พักมุ่งตรงไปยัง “อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน” ตั้งอยู่ที่ ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงก็ต้องร้อง ว๊าววว... เทือกเขา หินปูนที่สูงชันสลับซ้อนกันเป็นแนวยาว ตรงหน้าผาเป็นริ้ว ๆ คล้ายกับ “ผ้าม่าน” ผืนขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 200 - 1,000 เมตร
สัมผัสได้ถึงสภาพป่าที่ยังสมบูรณ์เต็มไปด้วยป่าดิบและป่าไม้เบญจพรรณต่าง ๆ สูดอากาศเข้าเต็มปอด วันนี้เราจะพาไปชมจุดเช็คอินหลัก ๆ อับดับแรก “น้ำตกพลาญทอง” สายน้ำที่ไหลลงมาเหมือนม่านขนาดใหญ่ เล่นน้ำกันชุ่มฉ่ำเลยทีเดียว
จากนั้นไปชมทิวเขาที่สะท้อนกับอ้างเก็บอ่าง แน่นอนว่าเป็นสถานที่ที่สวยมาก ๆ เหมาะกับการมาเช็คอินท่องเที่ยว ภูเขาขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนม่านทอดเงาลงในน้ำเห็นเงาสะท้อนเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ๆ แนะนำให้มาสักครั้งหนึ่ง
“ถ้ำค้างคาว” คือสถานที่ที่เราจะไปชมกัน เมื่อไปถึงจะเห็นโพรงถ้ำเป็นที่อาศัยของฝูงค้างคาว และมักจะเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำตอนเย็น ๆ แต่เสียดายช่วงที่เราไปนั้นเป็นตอนกลางวัน สงสัยค้างคาวคงหลับอยู่ อิอิ
เที่ยงพอดีเราแวะกินข้าวกันที่ “อ.กุ้งเผา ชุมแพ กุ้งเผา” ด้วยเมนูเด็ดหลายอย่าง อาทิ แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน, ยํารวมทะเล, ผัดเห็ดรวมน้ำมันหอย, ปลาหมึกผัดพริกเผา, ไข่เจียวกุ้ง เป็นต้น
วิวหลักล้านของจริง...
ตื่นตาตื่นใจมาก เมื่อมาถึงจุดชมวิวช้างสี "อุทยานแห่งชาติน้ำพอง" ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมื่อเดินเท้าขึ้นด้านบนเป็นจุดชมวิว ที่ต้องใช้เวลายืนอยู่นานมากกก (ก.ไก่ ล้านตัว) สวยเหมือนต้องมนต์สะกด มองจากตรงนี้สามารถเห็นเขื่อนอุบลรัตน์ ป่าไม้นานามากมาย ผืนน้ำอันกว้างใหญ่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้า ตัดกับผืนหญ้าสีเขียวขจีช่วงหน้าฝน
เมื่อเดินไปอีกหน่อยจะเจอหินรูปร่างแปลกตามากมาย และเป็นจุดเช็คอิน คือ "หินช้างสี" ก้อนหินขนาดใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติ มีลักษณะโค้งเว้าคล้ายหน้าผา ที่เรียกว่าหินช้างสีมีที่มาจากาการที่ช้างป่าใช้ลำตัวสีกับก้อนหินโดยทิ้งร่องรอยดินโคลนและขนช้างเปื้อนอยู่บริเวณนั้น สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร
ทั้งวันเราได้สัมผัสธรรมชาติสีเขียวกันชุ่มปอดแล้ว ก็ถึงเวลาหาของกินกันบ้าง นั่งรถมาสักพักก็มาถึงร้านอาหาร “ฮาลองเบย์” ร้านอาหารสไตส์เวียดนาม ที่รังสรรค์เมนูมาเสิร์ฟความอร่อย อาทิ ปลาน้ำโขงนึ่งจิ้มแจ่ว, ออเดิฟฮาลอง, กุ้งพันอ้อย, ปอเปี้ยะทูน่าซีฟู้ด, หมูกระเบื้อง, ข้าวผัดทะเล เป็นต้น
ทำบุญไหว้พระสะสมแต้มบุญ...
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการมาไหว้พระ สักการะ “พระมหาธาตุแก่นนคร” ตั้งอยู่ในบริเวณ “วัดหนองแวง” ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมของขอนแก่น มีอายุมากว่า 200 ปี ขณะที่พระมหาธาตุแก่นนครนั้น เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2539 โดยสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี บริเวณยอดพระธาตุนั้นก็จะจำลองแบบ มาจากยอดพระธาตุพนมอีกที พระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้น องค์พระธาตุแก่นนคร สูง 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุม และมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะในสมัยทวาราวดี ผสมศิลปะแบบ อินโดจีน ภายในองค์พระธาตุจะมีอยู่ 9 ชั้นด้วยกัน ด้านในปูพื้นด้วยหินอ่อน สวยงามจับตา
อยู่แบบเรียบง่าย มีกิน มีใช้ มีที่อยู่...
ปิดท้ายทริปด้วยการไปชมสวนเกษตรผสมผสานที่จัดสรรพื้นที่เพียง 4 ไร่ “มีกินฟาร์ม” ที่ทั้งปลูกป่า ทำนา ปลูกผัก เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ และน้องควาย รวมถึงดอกไม้สวยงามอีกมากมาย ทั้งนี้ภายในฟาร์มยังมีกิจกรรม และอาหาร จะให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมเข้าไปเก็บวัตถุดิบมาทำอาหาร หรือกิจกรรม Workshop eco printing ที่ไปเก็บ ดอกไม้มาทำเป็นผ้าโพกหัว
เป็นไงกันบ้าง 3 วัน 2 คืน ที่เราพาไปจุใจหรือไม่ หากยังไม่จุใจแนะนำเลยว่า สักครั้งหนึ่งลองไปเที่ยวอีสานหน้าฝน แล้วคุณจะติดใจ...
ทั้งนี้ ททท. ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางท่องเที่ยวอุทยานฯในภาคอีสานช่วงหน้าฝน พร้อมรับของที่ระลึก Exclusive อาทิ เต็นท์ เก้าอี้สนามแคมป์ปิ้ง หมวกแคมป์ปิ้ง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/events/488268860578687/
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี