ชาวเบตงร่วมพิธีห่มผ้าและฉลองสมโภชองค์พระใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นที่สักการะบูชา รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกเพื่อทั้งความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

วันที่ 17 ส.ค.67 พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ประธานบูรณะองค์พระใหญ่ เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาและนายกสมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พระสุนทรวิสุทธานุวัตร เจ้าคณะอำเภอเบตง เจ้าอาวาสวัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง นายประยูร พณิขานนท์ ประธานบริษัทมงคลมหกิจ ประธานในพิธี คุณเกศินี พณิชานนท์ นายอมร ชุมข่วย นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชนร่วมขบวนแห่ผ้าห่มพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน(องค์พระใหญ่)วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเบตงและชาวมาเลเซียเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

สืบเนื่องจากพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน(องค์พระใหญ่)วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งได้วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2535 โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ทรงเป็นประธาน และสนับสนุนการก่อสร้างโดยคุณประยูร พณิขานนท์และครอบครัวร่วมกับวัดปากน้ำ และพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเบตง

โดยองค์พระเป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 9.99 เมตร และสูง 14.29 เมตร โดยชิ้นส่วนต่างๆขององค์พระหล่อที่ประเทศจีน และบรรทุกเรือสินค้ามาขึ้นท่าเรือน้ำลึกสงขลา

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2543 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธิเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ”พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน) จนกระทั้งถึงปัจจุบัน รวมอายุประมาณ 32 ปี ฐานรองรับองค์พระใหญ่มีสภาพเกิดชำรุด ทรุดโทรมไปตามกลาเวลา ขณะฝนตกน้ำรั่งซึมเข้าไปในอาคารฐานรองรับองค์พระทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพเขียน ผนัง ฝาเพดาน และระบบไฟฟ้า

จากปัญหาดังกล่าวทางวัดพุทธาธิวาสและคณะกรรมการบูรณะองค์พระใหญ่มีมติให้บูรณะฐานรองรับองค์พระใหญ่เป็นการเร่งด่วน เพื่อมิให้เกิดความชำรุดไปมากกว่านี้ จึงได้ระดมทุนเปิดรับบริจาคสาธารณะและทอดผ้าป่าสามัคคีเมื่อกันยายน 2566 โดยได้รับการอนุเคราะห์จากคุณประยูร พณิขานนท์และครอบครัว คณะศิษย์เก่าโรงเรียนเบตง "วีระราษฎร์ประสาน" คณะศิษย์เก่าโรงเรียนจงฝา ผู้ประกอบการ และพุทธศาสนิกชน โดยใชเวลาในการบูรณะองค์พระใหญ่เป็นเวลา 10 เดือนจนแล้วเสร็จ

ในวันนี้คณะกรรมการบูรณะองค์พระใหญ่ได้จัดพิธีห่มผ้าและฉลองสมโภชองค์พระใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อเป็นที่สักการะบูชา รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย