สงสารจับใจ! 2 ผัวเมียบากหน้าหางานทำหาค่านมลูก โดนมิจฉาชีพหลอก งานไม่มี-เงินก็เอาไป
ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงานเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ว่า ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี รับแจ้งมีคนถูกหลอกให้มาทำงาน แต่ไม่มีงาน กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อบริเวณ 4 แยกถนนทองใหญ่ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขอให้ตำรวจมาช่วยเหลือ หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจอินทรี
เมื่อไปถึงพบ 2 สามีภรรยาอายุเพียง 20 และ 19 ปี นั่งร้องไห้อยู่ร้านร้านสะดวกซื้อ สอบถามเรื่องราวเป็นมาอย่างไรและเกิดอะไรขึ้น 2 สามีภรรยาคู่นี้ บอกกับตำรวจว่า เดินทางมาจาก อ.หนองแสง ถูกหลอกให้มาทำงานขายเสื้อผ้าและขายลูกชิ้น จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับคนที่จะหางานให้ทำได้อีกเลย
ทั้งนี้ ตำรวจได้แนะนำให้ผู้เสียหายมาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีแชทข้อความคนที่จะหางานให้คุยกับ 2 สามีภรรยาผ่านเฟซบุ๊ก โดยชวนมาทำงานขายเสื้อผ้า และขายลูกชิ้น มีการสอบถามเรื่องห้องพัก และงานทำ ตอนท้ายคนที่จะหางานให้บอกว่าจะหาห้องเช่าให้ แต่ขอค่ามัดจำก่อน 500 บาท แต่ 2 สามีภรรยามีเงิน 400 บาท จึงนัดไปรับเงินที่สวนสาธารณะประจักษ์ แล้วบอกว่าจะติดต่อมา จนถึงวันที่ 19 ส.ค.67 ผ่านมา 4 วัน 2 สามีภรรยาต้องรอเก้อ งานก็ไม่ได้ทำ ต้องยืมเงินเพื่อนซื้อข้าวเหนียวกินกับแจ่วปลาร้า
สำหรับ 2 สามีภรรยา คือ น.ส.ปาริฉัตร ทานทิพย์ หรือน้องมิ้นต์ อายุ 19 ปี กับนายธวัชชัย สีทา หรือนิค อายุ 20 ปี ซึ่งเล่าว่า ก่อนที่ตนจะมาถูกปล่อยไว้แบบนี้ ได้ไปโพสต์หางานในกลุ่มหางานอุดรธานี จากนั้นเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่งติดต่อทางแชทเข้ามา โดยบอกว่าสนใจมาทำงานขายเสื้อผ้า และขายลูกชิ้น ตนก็ตอบตกลงและเดินทางจาก อ.หนองแสงกับสามี เพื่อมาหางานทำในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อเดินทางมาถึงก็นัดเจอกันที่สวนสาธารณะ คุยกันสักพักเขาบอกว่าขอเก็บเงินมัดจำก่อน 500 บาท และอ้างว่าเป็นค่าที่พักด้วย แต่ตอนนั้นตนมีเงินติดตัวแค่ 400 บาท จึงเอาให้เขาไปด้วย เพราะความเชื่อใจ แล้วเขาก็บอกให้ไปรอที่โรงพยาบาล อ้างนู่นอ้างนี่บอกจะติดต่อมาก็ไม่มา
ต่อมาก็ทักแชทบอกให้มารอที่สถานีรถไฟซึ่งใกล้กับที่ทำงาน แล้วก็บ่ายเบี่ยงอ้างสารพัดจนผ่านไป 4 วัน กระทั่งมีคนมาแจ้งตำรวจเข้ามาช่วย ช่วงเวลาที่รอการติดต่อตนกับสามีได้ไปหยิบยืมเงินจากพี่น้องคนรู้จักกันมาซื้อข้าวกิน และหลับนอนอยู่โรงพยาบาลและสถานีรถไฟ ตอนนี้อยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับตัวคนร้ายให้ได้เพราะว่าอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงหลอกเรา ทำไมถึงให้เรารอทั้งที่เราตั้งใจมาหางาน เพื่อหาเงินไปเลี้ยงลูกวัย 11 เดือน ทำไมมาหลอกกันแบบนี้ พูดไปก็ร้องไห้ไป
ด้านนายธวัชชัย สีทา กล่าวว่า ตนพาภรรยามาหางานทำ เพื่อหาเงินไปซื้อนมให้ลูกชายวัย 11 เดือน โดยภรรยาประกาศหางานทำในเฟซบุ๊ก ต่อมาก็มีคนทักมาหา จะให้ทำงานขายเสื้อผ้าและขายลูกชิ้น จึงชวนภรรยานั่งรถตู้ ตอนนั้นพากันมีเงินติดตัว 400 บาท เขานัดเจอที่หนองประจักษ์ ขอเงิน 500 บาทเป็นค่ามัดจำค่าห้อง แต่มีเงิน 400 บาทเขาก็ยังเอา แต่สุดท้ายไม่ได้งานทำ เงินก็หมด ต้องพาภรรยามารอเก้อ 4 วัน ใจจริงไม่อยากกลับบ้านอยากจะหางานทำเพื่อหาเงินซื้อนมให้ลูก สุดท้ายมาเจอแบบนี้ กังวลใจเลย อยากจะฝากคนที่หลอกว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมหลอกกันได้แบบนี้ ทำอะไรลงไปให้มีจิตสำนึกบ้าง พวกตนไม่มีงานทำจริงๆ แต่สุดท้ายก็มาหลอกแบบนี้ เงิน 400 บาท ที่เอาไปมีค่าสำหรับตนและภรรยาอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี