พ่อสุดห่วงลูกสาวหายปริศนากว่า 3 เดือน แฟนทอมให้ข้อมูลไม่ชัด คาดเสียชีวิตแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 นายนิยม ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ว่า น.ส.พรพิมล หรือโอมี่ อายุ 34 ปี ลูกสาว ขาดการติดต่อกับทางครอบครัวมาแล้วถึง 3 เดือน โดยลูกสาวได้ไปอยู่กินกับกับลูกเขยสาวทอมชื่อ น.ส.ธันยาภรณ์ หรือบอล ที่ ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ตั้งแต่ปี 2560 หรือนานกว่า 7 ปีแล้ว จนครอบครัวยอมรับที่มีลูกเขยเป็นสาวทอม
ล่าสุดได้ติดต่อ น.ส.ธันยาภรณ์ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.67 ปรากฏว่าลูกเขยที่เป็นสาวทอมแจ้งว่าได้เลิกกับลูกสาวของตนไปนานหลายเดือนแล้ว ไม่รับรู้อะไรอีกทั้งนั้น และตนไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้ เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงเข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันให้เป็นหลักฐาน และประสานนายภานุมาศ จิตวสินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย และผู้สื่อข่าวใน จ.อุดรธานี ช่วยประสานติดตามตัวลูกสาวให้อีกทาง
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปไปที่บ้านของนายนิยม เพื่อสอบข้อมูลรายละเอียดของการหายตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านสร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เมื่อไปถึงได้พบกับนายนิยม ที่นำภาพถ่ายของลูกสาวมาแสดงให้ดู
นายนิยม กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ปกตินานๆครั้งตนจะติดต่อพูดคุยกับลูกสาว 3 เดือนก่อนหน้านี้ลูกสาวขาดการติดต่อและหายตัวไป ต่อมาแม่ของตนซึ่งเป็นยายของลูกสาวได้ล้มป่วย จึงอยากให้ลูกสาวมาดูยาย แต่ไม่สามารถติดต่อลูกสาวคนนี้ได้ จึงเดินทางจาก จ.สุพรรณบุรี ขึ้นมาตามหา พอมาถึงก็สืบหากระทั่งได้เบอร์ จากนั้นได้โทรไปหา แต่มีผู้หญิงรับสาย แล้วบอกว่าไม่รู้จักโอมี่ ตนเป็นแฟนใหม่ของบอล ไม่รู้ว่าโอมี่เป็นใคร และวางสายไป ซึ่งตนสงสัยว่าทำไมเลิกกันลูกสาวถึงเอาเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ให้คนอื่นใช้
นายนิยม กล่าวว่า ต่อมาตนพยายามให้หลานสาวช่วยติดต่อไปทางเฟซบุ๊กของบอล โดยบอลบอกว่าตอนนี้โอมี่สบายดี ปลอดภัยดี เพื่อความปลอดภัยของโอมี่ ขอปรึกษากับน้องก่อน ตอนนี้ยังให้คุยกันไม่ได้ ยิ่งทำให้สงสัยและเป็นห่วงลูกสาวมากขึ้น ทั้งที่ตัวเองเป็นพ่อทำไมบอลไม่ให้ตนได้คุยกับลูก จากนั้นบอลได้นัดให้มาเจอที่ สภ.เมืองอุดรธานี แต่บอลก็ไม่เดินทางมาพบตามนัด จึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี
สำหรับ น.ส.บอล ถือเป็นลูกเขยสาวทอมก็ว่าได้ คบกันเป็นแฟนกับโอมี่มา 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2560 เท่าที่รู้ลูกสาวก็เคยบอกผ่านลุงเขาว่าเคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด เคยถูกแฟนทอมตีหัวแตกมาแล้ว โดยลูกสาวคนนี้กับแฟนทอม ตนยอมรับว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พักหลังลูกสาวกับแฟนเขาก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก เป็นคนก้าวร้าว และก่อนลูกสาวจะขาดการติดต่อ เท่าที่สอบถามกับหลาน รู้ว่าลุงของเขาเคยถามว่าระหว่างยายตัวเองกับแฟนทอมจะเลือกอะไร แต่ลูกสาวก็เลือกแฟนทอม และหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่นั้นและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
นายนิยม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อแต่แฟนทอมของเขา แต่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงพูดโกหก ลูกสาวคนนี้มีแฟนทอมคบแฟนทอมมาตลอด ไม่เคยมีเพื่อน หากเลิกกับแฟนทอมแล้ว เขาก็คงไม่ไปไหน หากเลิกกับแฟนทอมจริงๆลูกสาวก็คงต้องกลับบ้าน 2 คืนที่ผ่านมาฝันเห็นลูกสาว ในฝันลูกสาวมานั่งหันข้างสวมชุดคล้ายคนแก่ หันข้างจะไม่เห็นหน้า ตนก็บอกให้ลูกสาวกลับบ้าน แต่ลูกสาวก็ไม่ได้กลับด้วย ส่วนตัวตนคิดว่าลูกสาวคงเสียชีวิตไปแล้ว อยากให้สื่อประกาศช่วยตามหา เพราะอยากเจอลูกสาวคนนี้ หากเขายังมีชีวิตก็ขอให้กลับมา แต่หากเสียชีวิตไปแล้วก็ขอให้รู้ จะได้ไม่ห่วงอีกต่อไป
ด้านน้องสาว กล่าวว่า ตนกับโอมี่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก จนโตมีย่าคอยเลี้ยงดู มีเรื่องอะไรโอมี่ก็จะเล่าให้ฟังตลอด โอมี่เคยเล่าว่าช่วงที่ไม่มีงานทำเขาใช้ชีวิต และช่วยงานตำรวจอยู่ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเวลาเขาไม่มีเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะให้เงินใช้ ก่อนหน้าจะติดต่อพี่สาวคนนี้ไม่ได้ตอนนั้นย่าป่วย ย่ารักโอมี่มาก พวกเราพยายามติดต่อโอมี่เพื่อให้มาดูแลย่า หวังให้ย่ามีกำลังใจดีขึ้น ตอนนั้นโทรศัพท์ติดต่อไปยังบอลแฟนทอมของโอมี่ บอลก็บอกกลับมาว่าโอมี่ไม่อยู่ โอมี่ออกมาทำงานที่โรงแรมซึ่งตนก็ทิ้งข้อความไว้ขอให้ติดต่อด้วย และเขาก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย จนกระทั่งผ่านไปเป็นเดือน เมื่อโทรไปบอลกลับบอกว่าตนเลิกกับโอมมี่ไปเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้โอมี่ไปไหน ส่วนตัวคิดว่าพี่สาวคงเสียไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี