“สิงหาคม 2567” ต้องบอกว่าเป็น “เดือนแห่งความผันผวนทางการเมือง” อย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่วันที่ “7 ส.ค. 2567” เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ยุบพรรคก้าวไกล” ตามคำร้องของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 ระบุว่า นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
ตามด้วยวันที่ “14 ส.ค.2567” คราวนี้เป็นคิวของ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ต้อง “หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ควรรู้ว่า นายพิชิตมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพราะพัวผันกับคดีเอื้อฉาว “ถุงขนม 2 ล้าน” จนเคยถูกศาลสั่งจำคุก 6 เดือน และถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความ
รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งออกอากาศในวันที่ 14 ส.ค. 2567 เวลา 11.00 น. หรือไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเวลา 15.00 น. ที่ เศรษฐา ทวีสิน จะพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้กล่าวถึง “ดวงของนายเศรษฐา” ว่า “ไม่ค่อยดีเท่าไร” เพราะลัคนาของนายเศรษฐาอยู่ตรงราศีเมษ หรือก็คือดวงเมือง ก็ต้องขึ้นอยู่กับดวงเมือง
ซึ่งประการสำคัญคือตรงราศีกุมภ์มีจุดอยู่ 2 จุด ในดวงกำเนิด ก็คือพระอาทิตย์กับพระศุกร์ และขณะนี้ดาวเสาร์ซึ่งทางโหราศาสตร์ถือเป็นดาวอุปสรรคหรือดาวโทษทุกข์ เข้ามาทับทั้งพระอาทิตย์และพระศุกร์ ในอดีตมีนายกฯ หลายท่านดาวเสาร์ทับพระอาทิตย์แล้วต้องหลุดจากตำแหน่ง ถูกยึดอำนาจบ้าง หรือไปด้วยวิธีอื่นบ้าง เช่น ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงปี 2548-2549 พระเสาร์ทับพระอาทิตย์ตรงราศีกรกฎ
“เราก็ท่องตำราให้ฟัง ช่วงนี้ดาวเสาร์ก็ทับอยู่ แต่องศาอาจจะเหลื่อมไปหน่อย คือไม่ทับองศาเป๊ะ แต่อยู่ในราศีเดียวกัน อย่างเสาร์ตอนนี้จรอยู่ตรงราศีกุมภ์แล้วไปทับพระอาทิตย์ ในตำราก็บอกเสาร์ทับพระอาทิตย์ ปฏิสนธิในชาติ ชนนั้นจะถึงฆาต บ่มิทรัพย์จะสาธารณ์ ถ้อยความจะถึงตู ผิว์ศัตรูจะปองผลาญ แม้หมิ่นประมาทการ ก็จะเกิดอันตราย เพราะฉะนั้นท่านบอกว่าแม้หมิ่นประมาทการ ก็ต้องไม่หมิ่นประมาทการก็แล้วกัน ระมัดระวังรอบคอบ แต่ที่เซ็นไปนั้นถือว่ารอบคอบหรือไม่รอบคอบ? อะไรอย่างนี้ แม้หมิ่นประมาทการ ก็จะเกิดอันตราย” ภิญโญ กล่าว
โหรภิญโญ ขยายความเพิ่มเติมว่า ส่วนคำว่าชนนั้นจะถึงฆาต อาจหมายถึงเสียตำแหน่งก็ได้ หรือเกิดเรื่องวุ่นวาย มีคดีความ ซึ่งตำรานี้มีมานานแล้ว แต่ก็ยังต้องชั่งน้ำหนักดูว่าความรุนแรงนั้นอยู่ในระดับใด และดวงชะตาของนายเศรษฐาก็ยังอยู่ในช่วงอันตรายจากคำว่าแม้หมิ่นประมาทการ ทั้งนี้ จากสถิติเสาร์ทับพระอาทิตย์ ดวงผู้นำ ก็มักจะเกิดเหตุจำพวกนี้ โดยนายเศรษฐาจะต้องระวังตัวไปจนกว่าดาวเสาร์จะย้าย หรือประมาณปี 2568 ช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม ดังนั้นแม้จะพ้นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ก็อาจมีเรื่องอื่นๆ ตามมาอีก
เมื่อถามถึงความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวไล่เลียงตั้งแต่ 1.การยุบพรรค ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มากที่สุด และเมื่อยุบพรรคแล้วก็เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง นำไปสู่การเกิดเรื่องอื่นๆ อย่างน้อยก็คือการตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ แต่ตั้งมาแล้วจะถูกยุบอีกหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ประการต่อมา 2.การยุบสภา มีโอกาสเป็นไปได้หากเข้าจังหวะเหมาะ แต่ห้วงเวลาจะเป็นเมื่อใดก็อยู่ที่กาลเทศะ จะบอกจู่ๆ ยุบสภาเลยก็ไม่น่าเป็นไปได้ ทั้งนี้ ในทางโหราศาสตร์มีดวงดาวที่คงที่กับดาวดาวที่เคลื่อนที่ ซึ่งในการพยากรณ์มักจะดูดาวที่เคลื่อนที่แล้วสัมพันธ์กับว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างกรณี “นิติสงคราม” ที่เกิดขึ้น จะเกิดมากช่วงที่ดาวพฤหัสเป็นกาลกิณีจรแล้วมาทับดวงเมือง โดยช่วงที่ผ่านมาก็น่าจะถือว่ารุนแรงที่สุด มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ใช้กฎหมาย ใช้ศาล ใช้สื่อ เพื่อห้ำหั่นหรือด้อยค่ากัน
และแม้ดาวพฤหัสจะย้ายออกจากราศีเมษแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ในราศีพฤษกและจะอยู่ในจุดนี้ไปอีกประมาณกลางเดือนพ.ค. 2568 สถานการณ์นิติสงครามก็จะยังดำรงอยู่ต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงดังกล่าว ซึ่งในทางโหราศาสตร์อธิบายว่าในราศีพฤษกเกิดมีดาวอังคารกับดาวมฤตยูคุมกันอยู่ ดังนั้นดาวพฤหัสก็จะไปทับดาวอังคาร ไปทับดาวเกตุในดวงกำเนิด และกุมดาวมฤตยูอยู่
ท่วงทำนองอย่างนี้โหราศาสตร์มีคำอธิบายว่า พฤหัสคือกฎหมาย เพราะเป็นดาวครู ดาวหมอ ดาววิชาการ แล้วมาทับดาวตนุลัคน์ของดวงเมือง ก็มีการใช้กฎหมายต่อสุ้กัน อย่างไรก็ตาม ดาวพฤหัสมาทับดาวเกตุด้วย ซึ่งดาวเกตุในทางโหราศาสตร์อาจจะให้ความหมายมากมาย แต่ที่เห็นชัดก็คือต่างชาติต่างภาษา ดาวต่างชาติต่างภาษามาอยู่ในเรือนเศรษฐกิจ การเงินการคลังของประเทศ ฉะนั้นต่างชาติก็เข้ามาครอบคลุม ก็มีเงามืดของคนต่างชาติเข้ามาครอบงำ
“ดาวนี่มันมีหลายดวง แต่ดวงที่เราเห็นชัด หยิบยกขึ้นมาพูด เรายกดาวพฤหัสหรือจะยกดาวอื่น อย่างเช่นมฤตยู ดาวมฤตยูในขณะนี้โตจรอยู่ตรงราศีพฤษก ซึ่งเป็นเรือนของเศรษฐกิจการเงินการคลัง มฤตยูถือเป็นดาวอาเพศ ดาวที่ให้ผลทางด้านการเปลี่ยนแปลง ลึกลับอะไรอย่างนี้ ฉะนั้นมฤตยูอยู่เรือนเศรษฐกิจการเงินการคลัง ฉะนั้นเศรษฐกิจมันก็มีปัญหาลึกลับซับซ้อน แต่พอดาวพฤหัสจรเข้ามา ในตำราโหรก็บอกพฤหัสมฤตยูครูวิเศษ ก็หมายถึงมีการนำความรู้เข้ามาแล้วก็ประยุกต์แล้วก็เกิดเทคนิคต่างๆ ขึ้นมา จะพูดแรงก็คือนำมาแหกตาประชาชน หรือให้มันผ่านไปได้ แต่อย่างไรก็ต้องใช้เทคนิคเล่ห์เหลี่ยม” โหรภิญโญ ระบุ
โหรภิญโญกล่าวต่อไปว่า ในเรื่องการใช้เล่ห์เหลี่ยมก็จะมีต่างชาติด้วยเช่นกัน เพราะมีดาวเกตุที่หมายถึงต่างชาติอยู่ในดวงกำเนิด แต่การเปลี่ยนแปลงจะมีปัจจัยอีกอย่างคืออุปราคา หมายถึงปรากฏการณ์ดาวบังกัน โดยในปี 2567 ยังเหลือช่วงที่จะเกิดอุปราคาอีก 2 ครั้ง คือ 1.วันที่ 18 ก.ย. 2567 เวลา 09.44 น. เป็นการเกิดจันทรุปราคาบางส่วน สมผุสตรงราศีมีน ตรงระยะ 1 องศา กับ 45 ลิปดา แม้ประเทศไทยจะมองไม่เห็นปรากฏการณ์นี้ แต่ก็ยังส่งผลในลักษณะที่เบาลง
เพราะตามตำราโหราศาสตร์ อุปราคาชนิดมืดมิดดวงจะส่งผลรุนแรงที่สุด แต่หากไม่มืดมิดดวงก็จะลดหลั่นลงมา นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการมองเห็น พื้นที่ที่มองเห็นชัดจะส่งผลรุนแรงมากกว่าพื้นที่ที่มองไม่เห็น กับ 2.วันที่ 3 ต.ค. 2567 เวลา 01.44 น. เป็นการเกิดสุริยุปราคาวงแหวน ศูนย์กลางคราสอยู่ที่ละติจูด 21 องศา 57 ลิปดาใต้ ดังนั้นจะเกิดทางซีกโลกใต้ แล้วไปทางทิศตะวันตก ก็คือ 114 องศา 28 ลิปดาตะวันตก สมผุสอยู่ตรงราศีกันย์ 15 องศา 51 ลิปดา ประเทศไทยมองไม่เห็นปรากฏการณ์นี้ ทำให้แม้จะมีอิทธิพลแต่ก็ส่งผลไม่รุนแรง
ตัวอย่างความเปลี่ยนแปลงในระดับนี้ เช่น การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งไม่ว่าในวันที่ 14 ส.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีนายเศรษฐาออกมาแบบใด การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น หากนำเรื่องอุปราคามาอธิบาย การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็หนีไม่พ้นในช่วงนี้ ทั้งนี้ เมื่อมองต่อไปถึงอุปราคาในปี 2568 ซึ่งจะเปลี่ยนที่ตามการโคจรของดวงดาว พระราหูก็จะยกจากราศีมีนเข้าสู่ราศีกุมภ์ ในวันที่ 5 พ.ค. 2568
ซึ่งในช่วงดังกล่าวดาวสำคัญเคลื่อนย้ายหลายดวงในเวลาใกล้เคียงกัน เป็นสิ่งบอกเหตุว่าน่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อราหูย้ายราศีในวันที่ 5 พ.ค. 2568 จากนั้นวันที่ 19 พ.ค. 2568 ดาวเสาร์จะย้ายจากราศีกุมภ์เข้าสู่ราศีมีน ซึ่งดาวทั้ง 2 ดวง ถือเป็นบาปพระเคราะห์ทั้งคู่ ในขณะที่ทั้งราศีกุมภ์และราศีมีนก็มีความสำคัญ โดยสื่อความหมายถึงรัฐสภา สภาที่ออกกฎหมาย สภาสามัญ สภาสูง สภาท้องถิ่น สภาการเมือง
นอกจากนั้นในเดือน พ.ค. 2568 ดาวพฤหัสยังย้ายราศีจากราศีพฤษกเข้าสู่ราศีมิถุน ก็มองกันว่าพระเคราะห์ใหญ่ๆ มีอิทธิพลคุ้มครองโลก หรือที่เรียกว่าเจ้าโลกา จึงน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่หากถามถึง 3.การรัฐประหาร ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้อยู่หลายอย่าง เช่น ยุบสภา เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือหากเลยเถิดไปจนคุมไม่อยู่ก็ต้องรัฐประหาร ส่วนที่หลายคนบอกว่ายุคนี้ไม่น่ามีรัฐประหารแล้ว หากย้อนไปในปี 2557 ก็มีคนพูดแบบเดียวกัน บอกว่ารัฐประหารเป็นเรื่องเชยไปแล้ว
โหรภิญโญ อธิบายเกี่ยวกับ “วัฎฎะ (วงรอบ) ของราหู” ว่าอยู่ที่ “18 ปี” หากนับจากปี 2567 ย้อนไป 18 ปี ก็จะเป็นปี 2549 ที่มีการยึดอำนาจ ดังนั้นตั้งแต่เวลานี้ไปจนถึงเดือน พ.ค. 2568 ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยการเกิดรัฐประหารรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร 19 ก.ย. 2549 เวลานั้นราหูทับราหู ตนจำได้ว่ามีโหรต่างชาติท่านหนึ่ง แนะนำให้นายกฯ ทักษิณ แก้เคล็ดด้วยการเดินทางไกล แต่ก็มีผู้สื่อข่าวมาถามตน และตนก็บอกว่าเดินทางไกลเป็นอันตราย
“ราหูและราหู ปะทะกันและกันกล นั้นห้ามจรหน บรเทศจะอันตราย เดินทางต่างประเทศแล้วจะอันตราย สินทรัพย์จะร่อยริน ธิบดินทรจะหมองหมาย โทษตนระมัดกาย และจะเกิดพระเพลิงกาฬ ศัตรูจะแกล้งกล่าว พจน์ล่อและลวงผลาญ พยาธิใหญ่จะประหาร บ่มิญาติจะม้วยมรณ์ พอเอาคัมภีร์มาดู มันเกิดขึ้นเกือบทั้งหมดเลยนะตามคัมภีร์ที่เขาเขียนมา แล้วรอบนี้พอราหูยกเข้ามา ท่านก็เดินทางกลับ” โหรภิญโญ กล่าวถึงดวงชะตาของอดีตนายกฯ ทักษิณ จากปี 2549 ที่ถูกรัฐประหาร จนถึงปี 2567 ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทย
เมื่อถามต่อไปถึงดวงชะตาหลังจากนี้ของ ทักษิณ ชินวัตร ในทางโหราศาสตร์จะมีเรื่องก้ำกึ่ง โดยดวงกำเนิดของอดีตนายกฯ ทักษิณ มีราหูอยู่ตรงราศีมีน ส่วนลัคนาอยู่ราศีกันย์ เท่ากับราหูเล็งลัคนา ถือเป็นดวงช้ำ-ดวงแตก อย่างตอนถูกยึดอำนาจ ก็เป็นช่วงที่ราหูจรมาทับราหูเดิม และในขณะนี้ก็มาซ้ำแบบเดิมอีก คือราหูจรทับราหูเดิม อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ศาลไม่อนุญาตให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ออกนอกประเทศ
อนึ่ง คำว่า “ดวงช้ำ-ดวงแตก” ก็อาจตีความได้ว่าหมายถึงการ “แตกคอ” ของหุ้นส่วนก็ได้ ซึ่งก็อาจหมายถึงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่ในพรรคการเมืองเดียวกัน แถมยังเป็นการ “แตกซ้ำซ้อนและยาวนาน” เพราะขณะนี้ราหูเล็งลัคนากำเนิด และในวันที่ 19 พ.ค. 2568 อันเป็นวันที่ดาวเสาร์จะยกเข้าสู่ราศีมีน ในตำราโหราศาสตร์ก็บอกว่าเป็นวันดวงแตกอีก
โดยตำราระบุเป็นโคลงว่า “เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ อสุรา ภุมเมศอัษฎา ว่าไว้ จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่รา-หูเล่า อาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ ประเหินหิน” หมายถึงความวุ่นวาย
เสียหายยังจะเกิดขึ้น ไม่จบเพียงการที่ราหูย้าย เพราะหลังจากนั้นดาวเสาร์ก็จะเข้ามาแทน ส่วนดวงของอดีตนายกฯ ทักษิณ นั้นแรง เพราะมีจุดพระราหูในดวงกำเนิด ก็จะโดนตามสภาพของดวงดาว ยังมีอีกจุดที่สำคัญ คือเสาร์ราหูทำให้ดวงแตกทั้งในปัจจุบันและอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีดาวพฤหัสที่พอจะคุ้มชะตาให้อยู่
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2567 เป็นต้นมา ดาวพฤหัสโคจรอยู่ในเรือนศุภะ หมายถึงความเรียบร้อย โดยสรุปอดีตนายกฯ ทักษิณ ยังมีดาวคุ้มชะตาอยู่ ยังใช้ชีวิตเป็นปกติสุขต่อไปได้ แต่ก็คงอีกไม่นานเพราะจะถึงช่วงที่ดาวเสาร์กับดาวราหูสวนกัน-กุมกัน แล้วเรื่องที่เป็นชนวนก็น่าจะเกี่ยวกับสภา เพราะเสาร์ราหูที่สวนกัน-กุมกันนั้น กุมกันในภพที่ 11 ของดวงเมือง หมายถึงรัฐสภา เรื่องของเรื่องก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ตนก็ไม่อยากฟันธง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
หมายเหตุ : สามารถรับชมรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ดำเนินรายการโดย บุญระดม จิตรดอน ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-12.00 น. โดยประมาณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี