เดือดทั้งจังหวัดสุรินทร์! สาวโพสต์ซื้อทุเรียนเจอของเน่า ลูกค้าคนอื่นบอกโดนกันเพียบ - ด้านเจ้าของร้านไลฟ์ด่ากลับว่ากระจอก อยากกินของดีต้องกล้าซื้อของแพง หรือมีปัญญาก็ปลูกเอง พร้อมท้าลูกค้าตัวต่อตัว
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มอาหารสุรินทร์ โดยเนื้อหามีอยู่ว่า “ #ขอสะท้อนกลับไปยังร้านขายทุเรียนร้านนึง ที่อยู่ตรงข้ามศาล...เมื่อวานแวะซื้อทุเรียนมาแพ็คละ 150 บาท ภายนอกก็ดูดีแหละ ก็ดูสวยแหละ แต่แกะออกมามันบูด เหม็นเปรี้ยว บูดเน่าเลย ก็ได้ทำการทักแชทไปหา เขาก็ไม่อ่าน คอมเมนต์ไปในโพสต์ ก็ไม่ตอบ ไม่รู้ว่าไม่เห็นคอมเมนต์หรือตั้งใจไม่ตอบนะคะ ล่าสุดหาโพสต์นั้นไม่เจอละ เราก็ไม่ได้อยากโพสต์ให้ร้านเสียหายหรอก แต่คุณเล่นไม่ตอบ ไม่หือไม่อืออะไรเลย เราซื้อเราก็อยากได้กินของอ่ะเนาะ แต่นี่มันบูดมันเน่า มันกินไม่ได้ ถึงมันจะราคาแค่ 150 บาทแต่มันก็เงินเนาะ ฝากไว้...ให้คิดและรับผิดชอบค่ะ ขอบคุณค่ะ” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างเล่าประสบการณ์ในการมาซื้อทุเรียนร้านดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า โดนเหมือนกัน ทั้งแข็ง ทั้งเน่า กินไม่ได้
ลูกค้าโพสต์ในกลุ่มอาหารสุรินทร์
หลังจากนั้นไม่นาน ด้านเจ้าของร้านก็ได้ทำการไลฟ์สดอย่างดุเดือดลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่ทนกระแสรถทัวร์ของชาวสุรินทร์ไม่ไหวจนต้องลบโพสต์และปิดเฟซบุ๊กหนี แต่ไม่วายโดนชาวเน็ตมือไวเซฟคลิปเอาไว้ทัน โดยเนื้อหาบางช่วงบางตอนระบุว่า ถ้ามีเงินก็ซื้อของดีๆกิน ไม่มีปัญญาก็ตุยไป ทุเรียนกิโลละแค่ 590 - 1,500 ซื้อกินเลย อย่ามารอซื้อราคาแพ็คละ 49 - 150 บาท ที่หวังว่าจะได้แพ็คใหญ่ๆ 5 ขีด 6 ขีด 7 ขีด หรือ ราคาที่ถูกมากๆ แต่ได้แพ็คใหญ่ๆ มีปัญญาแค่นี้เหรอ แต่พอซื้อถูกๆไปก็มาบ่นว่าแxกไม่ได้ เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความโลภมากทั้งนั้น ถ้ามีปัญญาก็แxกของแพง ถ้าไม่มีปัญญาก็แxกของถูก แต่พอแxกแล้ว ก็อย่ามาโวยวายว่าได้ของไม่ดี ถ้าไม่พอใจก็มาคุยกันตัวต่อตัวที่ร้าน พร้อมท้าตบท้าตี
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านขายทุเรียนดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์และได้พบกับเจ้าของร้านคือ นางสาวสุนิสา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และได้เปิดเผยข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นมันเกิดมาจากทุเรียนที่ตนจัดโปรโมชั่นในราคา 2 แพ็ค 200 บาท แต่ถ้าซื้อในราคา 1 แพ็ค จะอยู่ที่ราคา 150 บาท ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีสภาพแย่แล้ว เป็นทุเรียนที่เกรดต่ำและตนก็ได้แจ้งลูกค้าทุกคนให้รู้แล้วด้วย รวมถึงมีป้ายบอก ส่วนทุเรียนที่มีคุณภาพและมีราคาที่สูงขึ้น ตนก็จะแยกไว้คนละตู้อย่างชัดเจน ที่ร้านมีทุเรียนหลายเกรดหลายราคา ซึ่งเกรดต่ำสุดก็จะเป็นทุเรียนที่ลูกค้าซื้อไปแปรรูป รวมถึงที่ร้านของตนก็ได้ติดป้ายไว้ชัดเจนว่าไม่รับเปลี่ยนคืนสินค้าทุกกรณี
นางสาวสุนิสา ยังเล่าต่ออีกว่า สาเหตุที่ตนได้ไลฟ์สดลงในเฟซบุ๊กนั้น เพราะตนอยากให้คนสุรินทร์ได้รู้ได้อ่านว่า คนสุรินทร์ที่อยากได้ของถูกและดี มันไม่มีอยู่จริง ตนไม่ได้ดูถูกว่าคนสุรินทร์เหล่านั้นจนหรือว่าไม่มีเงิน ตนไม่มีเจตนาที่จะต่อว่าคนสุรินทร์ในลักษณะนั้น แค่มีเจตนาให้คนสุรินทร์ช่วยกันคิดเยอะๆ เวลาไปซื้อของไม่ใช่จะพุ่งตรงเข้าไปหาแต่ของถูกอย่างเดียว อยากให้คิดว่าของถูกและดีมันมีจริงไหมและหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ตนก็ยังไม่ได้พูดคุยกับลูกค้าที่โพสต์เลย ตอนนี้ตนก็เตรียมที่จะปรึกษาทนายความ เพราะว่าร้านได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนขายอยู่ที่นี่มาหลายปี ไม่เคยเจอลูกค้าแบบนี้มาก่อนเลย
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังผู้โพสต์ ที่โพสต์เรื่องราวลงในกลุ่มอาหารสุรินทร์ แต่ผู้โพสต์ไม่กล้าที่จะให้สัมภาษณ์ เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเจ้าของร้านได้ไลฟ์สดพูดถึงการท้าตบท้าตี รวมถึงมีชาวเน็ตไปขุดพบคลิปวีรกรรมของเจ้าของร้าน และแฟนหนุ่ม ที่ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่ในร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุรินทร์ จนเป็นข่าวโด่งดังขึ้นมาเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2565 มีเพียงข้อความในแชตสนทนาที่ผู้โพสต์ต้นเรื่องได้ส่งให้ผู้สื่อข่าว ระบุว่า “เมื่อวานช่วงบ่ายๆ ไปธุระแถวนั้นก็เลยแวะซื้อ ตอนเข้าไปก็เห็นหลากหลายราคา คนขายก็แจ้งว่าตรงนี้แพ็คละ 150 บาท 2 แพ็ค 200 บาท ก็เลือกมา 1 แพ็ค (เพราะกินคนเดียว) ก็มองดูแล้วก็ว่ามันโอเคแหละ เนื้อทรงดูสวยดี แช่ตู้เย็นด้วยคงไม่เสียหายอะไร ก็ซื้อมา ถึงบ้านก็แช่ตู้เย็นไว้ ทำโน่นนี่นั่นไป จนประมาน 5 โมงเย็นได้ เอาออกมาแกะพลาสติกออก กลิ่นบูดก็ลอยมาพร้อมเลยหยิบจับขึ้นดู ข้างล่างก็มีน้ำเยิ้มๆแฉะๆเละๆ ว่าจะเอาไปเปลี่ยนที่ร้านก็ไกล ขี้เกียจ ก็เก็บทุเรียนทิ้งไป ก็นั่งไถเฟซเล่นไปเรื่อย ละไปเห็นโพสต์ของร้านนั้นเขาโพสต์ลดราคาทุเรียน ก็เลยทักไปในแชท ว่าทุเรียนมันบูดนะ มันกินไม่ได้ เขาก็ไม่อ่าน เลยเข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์นั้นว่าทักแชทนะคะ ก็เงียบอีก ผ่านไป 1 คืนก็เงียบ เมื่อเช้าก็เลยเข้าไปดูโพสต์นั้นว่าเขาตอบอะไรมั้ย ก็เงียบอีก เลื่อนดูในคอมเมนต์ มีคนๆนึงคอมเมนต์ว่ารับประกันเนื้ออะไรสักอย่างนี่แหละ ก็เลยเข้าไปตอบกลับในคอมเมนต์นั้น ว่าทุเรียนมันบูดนะคะ มันกินไม่ได้ แล้วโพสต์นั้นก็หายไป ก็เลยได้มาโพสต์ในกลุ่มอาหารสุรินทร์ เพื่ออยากให้เขารับผิดชอบแหละหรืออย่างน้อยก็ขอโทษกันไป ถ้ามันจืดหรือไม่อร่อยก็พอรับได้แหละ ก็เราเลือกเอง แต่นี่มันบูด มันกินไม่ได้ ก็เลยเป็นที่มาของโพสต์ที่เราได้โพสต์ไปและก็มีคนมาคอมเมนต์กันว่าโดนเหมือนกัน แค่นี้นะคะ อย่าไปตีไข่ใส่เพิ่มน๊าาา แค่นี้ก็ดราม่าสนั่นเมืองแล้ว ขอบคุณค่ะ”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวก็ได้สัมภาษณ์ นางสาวกาแฟ วัย 27 ปี หนึ่งในลูกค้าที่เคยไปซื้อทุเรียนร้านดังกล่าวและเจอประสบการณ์ทุเรียนเน่าหมือนกัน โดยนางสาวกาแฟ ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ไปซื้อทุเรียนร้านนี้กับเพื่อนเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.67 ที่ผ่านมา ตอนนั้นที่ร้านจัดโปรโมชั่น 3 แพ็ค 600 บาท ตนจึงได้หารกันกับเพื่อนคนละ 300 บาท ตนที่เห็นทุเรียนที่โชว์อยู่ในตู้ก็ปกติดี จับดูภายนอกก็ไม่มีอะไร จนกลับมาถึงบ้านเพื่อนก็ได้ทักมาบอกว่าทุเรียนทานไม่ได้เลย เนื้อทุเรียนแข็งทั้งพู ไม่มีจุดไหนทานได้เลย ส่วนทุเรียนในแพ็คที่ตนซื้อมาก็บูดจนแฉะ ซึ่งก่อนที่จะซื้อตนก็ไม่ได้เอะใจเรื่องราคา เพราะคิดว่ามันก็ใกล้เคียงกับราคาร้านอื่นทั่วไป จากนั้นเพื่อนของตนก็ได้ติดต่อไปแจ้งที่ร้าน ทางร้านก็บอกกลับมาว่า ทุเรียนที่พวกตนซื้อไปเป็นราคาที่ Sale แล้ว ไม่สามารถเคลมได้ หลังจากประสบการณ์ในวันนั้น ตนกับเพื่อนก็ไม่ไปอุดหนุนที่ร้านดังกล่าวอีกเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี