ด้วยปัญหาเรื่อง “น้ำ” ที่เกษตรกรใช้ในการทำการเกษตรไม่เพียงพอส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนในแต่ละปี และด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะภูมิอากาศโลกทำให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพการเกษตร ดังนั้น น้ำจึงเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความมั่นคงของเกษตรกร

และเพื่อสามารถใช้น้ำได้ตลอดทั้งปี “กรมทรัพยากรน้ำบาดาล” จึงได้จัดทำ “โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 500 ไร่”เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตภาคเกษตรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และสร้างแนวทางที่จะช่วยให้เกษตรกรไทยแก้ปัญหาความยากจนลดปัญหาด้านสังคม การย้ายกลับภูมิลำเนาและส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้มีความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่พื้นที่ 500 ไร่ บ้านเขาหินตั้ง หมู่ 2 ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี โดยมีประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการเข้าร่วม

นายสันติ ใจชื้น ชาวบ้านบ้านเขาหินตั้ง หมู่ 2 ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่าในพื้นที่บ้านเขาหินตั้ง หมู่ 2 เดิมขาดแคลนน้ำมาก อาศัยแต่น้ำฝน แต่อย่างไรก็ตามในพื้นที่มีลักษณะเป็นหลุบเขาขนาบซ้ายขวา พอลมมาพัดเอาเมฆฝนไปตกที่อื่นหมด ทำให้ไม่ค่อยมีน้ำ แม้จะมีการทำฝนเทียม แต่ก็ไปตกในพื้นที่อื่น พอกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาทำโครงการฯ ในปี 2564 ทำให้ชาวบ้านมีความหวัง ที่สำคัญเมื่อมีน้ำ ชาวบ้านสามารถกำหนดได้ว่าเมื่อเพาะปลูกพืช จะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่แน่นอน เพราะมีน้ำต่างจากเมื่อครั้งที่ยังไม่มีการทำโครงการฯ ชาวบ้านเมื่อไม่มีน้ำก็ขาดความมั่นใจในการทำการเกษตร ทำไปก็มีแต่หนี้ เมื่อมีโครงการฯ ขึ้นมาทำให้ชีวิตชาวบ้านดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือและจะดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะทำแล้วได้ตามที่คิด เพราะมีน้ำสมบูรณ์ และน้ำทำให้พื้นที่สมบูรณ์ไปด้วย ตอนนี้ชาวบ้านปลูกข้าวโพดได้ปีละ 2 ครั้ง ปลูกอ้อยได้ปีละ 1 ครั้งและพืชสวนครัว อาทิ พริกขี้หนูสวน ผักชี ขึ้นฉ่าย เป็นต้น มีครบหมดและสามารถผลิตได้ตลอดส่งตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดราชบุรี

“ส่วนการบริหารจัดการน้ำบาดาลชาวบ้านร่วมมือกัน เพราะอดมาด้วยกัน พอมีน้ำบาดาลก็ชื่นใจด้วยกันทั้งหมด มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี มีการแบ่งกันใช้ แบ่งกันตั้งเป้าหมาย ทำการเกษตรได้ทั้งปี โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะมาช่วยดูแลอุปกรณ์และเครื่องมือ มาช่วยซ่อม เป็นต้น” นายสันติ กล่าว

สำหรับโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 500 ไร่ กรมทรัพยากรน้ำบาลจัดทำโครงการขึ้นเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศด้วยการสูบน้ำระบบพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมกระจายน้ำให้กับกลุ่มเกษตรกรให้มีน้ำสำหรับการเกษตรได้ทั้งปี ช่วยลดความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรและเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้มีความมั่นคงและยั่งยืน

จากนั้นไปยังโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน บ้านหนองไม้แก่น หมู่ 18 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี โดยมี นางชลธิชา หลิมย่านกวย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 18 บ้านหนองไม้แก่น นำชมโครงการพร้อมกล่าวว่า โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน บ้านหนองไม้แก่น ชาวบ้านได้ประโยชน์มาก เดิมทีมีน้ำไม่พอใช้ แล้งมาก ชาวบ้านใช้น้ำคลอง มีบางปีแล้งจัดๆ ต้องซื้อน้ำมาใช้ทั้งน้ำอุปโภค-บริโภคและทำการเกษตร แต่ตอนนี้มีน้ำพอใช้และยังสามารถใช้ดื่มกินได้ คุณภาพน้ำดีมาก ชาวบ้านช่วยกันบริหารจัดการโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน มีการติดตั้งตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญ แต่ไม่ได้ประสงค์จะเอากำไร แต่ติดเพื่อให้เกิดระเบียบการใช้น้ำ มีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย กำไรส่วนหนึ่งถูกกันออกมาเป็นรายจ่ายคืนประโยชน์ให้ชุมชน ใช้มาประมาณ 1 ปีได้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 6 พันบาทก็นำมาบริหารจัดการ นำมาซ่อมแซมเวลาอุปกรณ์ชำรุด ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ดื่มฟรี