สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยสถานศึกษาในสังกัด 34 แห่ง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง “ขับเคลื่อนมาตรการสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า” ณ หอประชุมศูนย์โอท็อปจังหวัดนนทบุรี (OTOP Center) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากข้อมูลพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย ปี 2566 ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ยท. สำรวจเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี จำนวน 61,688 คนจากทั่วประเทศ พบเยาวชนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าร้อยละ 25 คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 (ปี 2562-2563) ในกลุ่มอายุ10-19 ปี จำนวน 4,237 คน พบวัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ากว่าครึ่งหรือร้อยละ 53มีภาวะเสี่ยงโรคซึมเศร้า
“วัยรุ่นที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงเกิดโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 1.66 เท่า ทั้งนี้หากเยาวชนยังติดกับในวงวนของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินมีฤทธิ์ทำลายพัฒนาการของสมอง ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนลดลง ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ ความจำ ความสามารถในการตัดสินใจรวมไปถึงปัญหาในการเรียน มีผลการเรียนที่ต่ำลง และอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม”นพ.พงศ์เทพ กล่าว
พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี (อบจ.นนทบุรี) กล่าวว่า อบจ.นนทบุรี มีสถานศึกษาในสังกัดรวม 34 แห่ง จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล-ระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 มีนักเรียนรวม 18,264 คน ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนเรื่องการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในสถานศึกษาและรอบสถานศึกษาจากผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง โดย อบจ.นนทบุรี ร่วมกับ ยท. สำรวจข้อมูลเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ากลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนสังกัด อบจ.นนทบุรี รวม 2,377 คน เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567
“พบเด็กนักเรียน สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูง 6.3% กลุ่มเป้าหมายพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 60.2% ร้านค้าแบบมีหน้าร้านถาวร 48.7% ตลาดนัดกลางคืน18.5% คนรอบตัวนำมาจำหน่าย 9.4% และร้านค้าใกล้โรงเรียน 4.2% ซึ่งน่ากังวลเพราะบุหรี่ไฟฟ้ายังมีปริมาณนิโคตินสูงกว่าบุหรี่ธรรมดา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต่อการเจริญเติบโตด้านร่างกายและสมองของเด็กและเยาวชน” พ.ต.อ.ธงชัย ระบุ
นายก อบจ.นนทบุรี กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น อบจ.นนทบุรี จึงขอประกาศนโยบายและมาตรการควบคุมและป้องกันบุหรี่ไฟฟ้า 1.สถานศึกษาทุกแห่งต้องเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมแสดงสัญลักษณ์ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณทางเข้าออกของสถานศึกษา 2.ตรวจค้นกระเป๋านักเรียนและอาคารเรียน ป้องกันการนำอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในสถานศึกษา 3.บุคลากรทางการศึกษา ชุมชน ต้องเฝ้าระวังร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา พร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
4.จัดทำกล่องใส่อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า (Dropbox) ที่ได้จากการตรวจยึด พร้อมส่งทำลายเป็นขยะอันตราย 5.ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา พร้อมจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่นักเรียน รวมถึงส่งนักเรียนที่ติดบุหรี่ไฟฟ้าไปบำบัดในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 6.บุคลากรทางการศึกษาทุกคนเป็นแบบอย่าง ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือพกพาบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในสถานศึกษา ทั้งนี้ หากสถานศึกษาไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการทางวินัยกับผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างสูงสุด
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า การลงนาม MOU ร่วมกับอบจ.นนทบุรี ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าสื่อสารไปยังบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองได้ทันทีกว่า 60,000 คนภายในเวลา 2 ปี โดยจะร่วมกันตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา
ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง ชุมชน และสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ มีหน้าที่รับผิดชอบงานทุกมิติ ได้แก่ การพัฒนาเนื้อหาการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา การติดตามประเมินผลการดำเนินงาน การเฝ้าระวังร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และลงพื้นที่ให้ความรู้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่องตลอด ซึ่ง อบจ.นนทบุรี จะเป็นตัวอย่างสำหรับการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กนักเรียนแบบครบวงจรในระดับท้องถิ่น ตั้งแต่ผู้บริหารระดับนโยบายที่เห็นความสำคัญ จนนำมาสู่การกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันและทำงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
“มีเป้าหมายตรงกันที่จะลดอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเขตเมือง เนื่องจากจังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ ซึ่งพบการ
แพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน”นายพชรพรรษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี