"แชมป์เก่าเรือไฟระดับต้นๆ นครพนม" ทุ่มสร้างเรือไฟยักษ์ลำเฉียดล้าน เตรียมไหลโชว์กลางน้ำโขง ในงานเทศกาลประเพณีวันออกพรรษาไหลเรือไฟฯ ระหว่างวันที่ 8 -18 ตุลาคม 2567 นี้
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 มีบรรยากาศการเตรียมความพร้อมการจัดงานเทศกาลประเพณีวันออกพรรษาไหลเรือไฟและงานกาชาด จังหวัดนครพนม เริ่มทวีความคึกคักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณเลียบริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เนื่องจากมีทีมศิลปินผู้สร้างเรือไฟจาก 12 อำเภอต่างนำวัสดุอุปกรณ์มาต่อเติมเรือไฟ เช่น เส้นลวดที่ขึ้นเป็นลาย ตะเกียง น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น เพื่อเตรียมพร้อมไหลโชว์ในคืนวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 สำหรับปีนี้ถือว่าการขึ้นโครงไม้ไผ่นับพันๆ ลำ ถือว่าขึ้นเร็วกว่าหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากระดับน้ำโขงเพิ่มสูง ส่งผลดีในการยื่นไม้ไผ่จากริมฝั่งถึงมือผู้สร้างที่อยู่ในแม่น้ำเร็วขึ้น
โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 -18 ตุลาคม 2567 รวมทั้งหมด 11 วัน 11 คืน ทุกค่ำคืนมีการไหลเรือไฟโชว์ให้นักท่องเที่ยวชมวันละ 3 ลำ ส่วนคืนไฮไลท์วันที่ 17 ตุลาคม มีการจัดประกวดไหลเรือไฟประยุกต์ ไหลโชว์กลางลำน้ำโขง รวม 12 ลำ ขนาดเรือไฟมีความยาวตั้งแต่ 30 -80 เมตร ความสูงประมาณ 25 -30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟมากกว่า 20,000 – 30,000 ดวง ใช้งบประมาณสร้างลำละหลายแสนบาท โดยงบประมาณดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบางส่วน รวมถึงได้รับบริจาคจากพลังศรัทธาของชาวบ้านในแต่ละอำเภอ รวมมูลค่าการสร้างเรือไฟประยุกต์ทั้ง 12 ลำเกือบ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้น ส่งเสริม การท่องเที่ยว สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาว จ.นครพนม และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวภายในจังหวัด เงินหมุนเวียนสะพัดทุกสาขาอาชีพ คาดว่าปีนี้จะมีประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่นับแสนคน
นายใจดี นันไตร อายุ 48 ปี กำนันตำบลนาใน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ยืนยันว่า ในฐานะตัวแทนศิลปินเรือไฟ อ.โพนสวรรค์ ถือเป็นแชมป์เรือไฟระดับต้นๆ ที่ได้รับรางวัลเกือบทุกปีที่ส่งเข้าประกวดชิงถ้วยรางวัลพระราชทานทุกปี ปีนี้ทางจังหวัดจัดยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปีก่อนๆ ส่วนขนาดเรือไฟ อ.โพนสวรรค์ มีความยาวถึง 80 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟประมาณ 20,000 - 30,000 ดวง มีมูลค่าการสร้างเฉียดล้านบาท ส่วนลวดลายจะเน้นเชิดชูสถาบันสำคัญของชาติ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด
กำนันใจดี นันไตร กล่าวต่อว่า แรงงานที่สร้างเรือไฟส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ในการทำงานใช้ความสามัคคี ไม่มีค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว โดยสลับสับเปลี่ยนกันมาทำงานร่วม 2 เดือน อีกทั้งการทำเรือไฟไม่หวังเงินรางวัล แต่เป้าหมายอยู่ที่ถ้วยรางวัลพระราชทาน และเป็นการแสดงออกถึงพลังศรัทธา เน้นการสืบสานประเพณี เป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมในการสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ฝากเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยวมาชื่นชมความสวยงาม คืนวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 การันตีไม่มีผิดหวัง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี