เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 "ปราย พันแสง" นักเขียนชื่อดัง เขียนบทความโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาดังนี้ “แม่ตั๊ก”กับ“ป๋าเบียร์”เป็นคนที่ทำศัลยกรรมแล้วดูดีอยู่นะ เห็นภาพข่าวส่วนใหญ่จะออกมาเยินๆ แต่คู่นี้ภาพยังออกมาดูดี โดยเฉพาะฝ่ายชายนั้นเอาอยู่ทุกภาพ
มีคนเอาภาพ“ก่อน”และ“หลัง”มาลงเทียบกันเต็มไปหมด (เพื่อ?) เห็นแล้วก็ทึ่งอยู่ อาจจะเพราะไม่ค่อยได้เห็นผู้ชายทำศัลยกรรมแปลงโฉมแบบพลิกโลกได้ขนาดนี้บ่อยนัก
เงินทองล้นเหลือ ความสวยความหล่อก็เสกสรรได้อย่างใจทุกอย่าง จากชีวิตติดลบสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ ควรจะได้ใช้ชีวิตที่เหลือเสวยสุขไปอีกนานแสนนาน ใครจะเชื่อว่าทุกอย่างต้องพังทลายลงต่อหน้าต่อตา
ทุกอย่างที่สร้างมาต้องหายวับ
เพียงเพราะขาดจริยธรรม
ในยุคที่สื่อสังคมออนไลน์เฟื่องฟู คอนเทนต์ครีเอเตอร์กลายเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ของความสำเร็จ ชื่อเสียง และรายได้มหาศาล แต่เบื้องหลังความรุ่งโรจน์นั้น กลับมีเรื่องราวของการขาดจริยธรรมที่น่าเป็นห่วง ล่าสุดเราได้เห็นกรณีของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่สร้างภาพลวงตา หลอกขายทองปลอม อวดความร่ำรวย และแอบอ้างการช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบและความเห็นแก่ตัว
- ความสำเร็จที่ยั่งยืน
ต้องตั้งอยู่บนรากฐานของจริยธรรม
แม้ว่าจะมีตัวอย่างของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จากการเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรเลยจนกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าหลายคนต้องจบลงด้วยการขึ้นโรงขึ้นศาล การติดคุกและถูกยึดทรัพย์ นี่คือบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จที่แท้จริงและยั่งยืนนั้น ต้องตั้งอยู่บนรากฐานของจริยธรรมและความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ
ในหนังสือ "The Power of Ethics" โดย Susan Liautaud ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีจริยธรรมในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ Liautaud ชี้ให้เห็นว่า การตัดสินใจบนพื้นฐานของจริยธรรมไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนอีกด้วย
- ความจริงต้องมาก่อนเสมอ
สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ การนำเสนอความจริงควรเป็นหัวใจสำคัญของทุกคอนเทนต์ที่สร้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการทำความดีหรือการช่วยเหลือสังคม ควรเป็นเรื่องจริง 100% ไม่ใช่การสร้างภาพหรือหลอกลวงผู้ชม การนำเสนอความจริงอย่างตรงไปตรงมาไม่เพียงแต่จะสร้างความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับสังคมอีกด้วย
- ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
แต่ต้องซื่อสัตย์
เป็นเรื่องยากที่ใครสักคนจะเป็นคนดี 100% ตลอดเวลา และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สังคมคาดหวังจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สิ่งสำคัญคือความซื่อสัตย์และความโปร่งใสในการนำเสนอ หากมีข้อผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์แบบ การยอมรับและแสดงความรับผิดชอบก็อาจจะสร้างความเข้าใจและการให้อภัยจากผู้ชมได้ (แต่ในกรณีขายทองปลอมนี่อาจจะให้อภัยยาก และอาจติดคุก)
- การสร้างคุณค่าที่แท้จริง
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนมักจะเป็นผู้ที่สร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้ชมและสังคม ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ หรือความบันเทิงที่มีคุณภาพ การมุ่งเน้นที่การสร้างคุณค่าเหล่านี้จะช่วยให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถสร้างฐานผู้ติดตามที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้
- ผลกระทบต่อสังคม
การขาดจริยธรรมของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเยาวชนที่มักเป็นผู้ติดตามหลัก ไม่ว่าจะเป็นการบิดเบือนค่านิยม เช่นเมื่อคอนเทนต์ที่ขาดจริยธรรมได้รับความนิยม อาจทำให้เกิดการบิดเบือนค่านิยมในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่อาจเข้าใจผิดว่าการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นเรื่องปกติหรือน่ายกย่อง
ตัวอย่างในกรณีของ Logan Paul ยูทูบเบอร์ชื่อดัง เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง ที่เริ่มต้นจากการสร้างวิดีโอสั้นๆ บนแพลตฟอร์ม Vine ก่อนที่จะย้ายมาสร้างคอนเทนต์บน YouTube และกลายเป็นหนึ่งในยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก
ในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 Logan Paul ได้โพสต์วิดีโอบน YouTube ที่เขาถ่ายทำในป่า Aokigahara ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในแง่ลบว่าเป็นจุดที่มีคนมาฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง
ในวิดีโอนั้น Paul และเพื่อนๆ ได้พบศพของชายคนหนึ่งที่แขวนคอตาย แทนที่จะปิดกล้องและแจ้งเจ้าหน้าที่ พวกเขากลับถ่ายภาพศพอย่างใกล้ชิดและมีปฏิกิริยาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงหัวเราะและพูดจาตลกคะนอง
วิดีโอดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสาธารณชนและสื่อมวลชนทั่วโลก YouTube ได้ลบวิดีโอนั้นออกและระงับการโฆษณาในช่องของ Paul
ตัว Paul ถูกตัดออกจากโครงการ Google Preferred ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ชั้นนำ รวมทั้งสูญเสียสัญญาการร่วมงานกับหลายบริษัท
เมื่อเกิดเรื่อง Logan Paul ลบวิดีโอและออกมาขอโทษผ่านทวิตเตอร์ ต่อมาเขาได้โพสต์วิดีโอขอโทษอย่างเป็นทางการบน YouTubeประกาศหยุดพักการสร้างคอนเทนต์ชั่วคราวและบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรป้องกันการฆ่าตัวตาย
สถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่า Logan Paul จะได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงแรก แต่เขาก็สามารถฟื้นตัวได้ในที่สุด เขายังคงเป็นยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน และยังคงสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง
ต่อมา Paul ได้หันมาทำอาชีพนักมวยอาชีพและจัดการแข่งขันชกมวยแบบเอ็กซิบิชั่นซึ่งสร้างรายได้มหาศาลเขาได้เปิดตัวแบรนด์เครื่องดื่มของตัวเองชื่อ PRIME Hydration ร่วมกับ KSI ซึ่งเคยเป็นคู่ปรับในวงการยูทูบ ตัว Logan Paul ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสื่อสังคมออนไลน์ แต่เขาพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ด้วยการทำกิจกรรมการกุศลและสร้างคอนเทนต์ที่มีสาระมากขึ้น
แม้ว่า Logan Paul จะสามารถฟื้นฟูอาชีพของเขาได้ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคอนเทนต์ครีเอเตอร์ขาดจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากนี้ การนำเสนอภาพความสำเร็จที่ไม่จริงหรือเกินจริง อาจสร้างความรู้สึกด้อยค่าหรือไม่พอใจในชีวิตของผู้ชม ก็นำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตและความเหลื่อมล้ำในสังคมได้เช่นกัน
เช่นกรณีของ Belle Gibson บล็อกเกอร์ด้านสุขภาพและนักเขียนชาวออสเตรเลีย เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2013 เมื่อเธออ้างว่าสามารถรักษามะเร็งสมองของตัวเองได้ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพและการแพทย์ทางเลือก
Gibson สร้างแอปพลิเคชันชื่อ "The Whole Pantry" ซึ่งนำเสนอสูตรอาหารเพื่อสุขภาพและคำแนะนำด้านไลฟ์สไตล์ แอปของเธอได้รับความนิยมอย่างมาก มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 300,000 ครั้ง เธอได้รับรางวัล App of the Year จาก Apple ในปี 2013 รวมทั้งได้เซ็นสัญญากับสำนักพิมพ์ Penguin เพื่อตีพิมพ์หนังสือสูตรอาหาร
Gibson อ้างว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมองในปี 2009 และมีเวลาในชีวิตเหลืออีกเพียง 4 เดือนเท่านั้น เธอบอกว่าปฏิเสธการรักษาแบบแผนปัจจุบันและหันไปใช้การแพทย์ทางเลือกแทน
Gibson อ้างว่าสามารถรักษามะเร็งสมอง มะเร็งเลือด มะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ และมะเร็งม้ามได้ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพและการบำบัดทางเลือก
ในปี 2015 นักข่าวเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวของ Gibson การสืบสวนพบว่า Gibson ไม่เคยบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลตามที่เธอได้สัญญาไว้ เพื่อนและครอบครัวของเธอเริ่มออกมาพูดว่าไม่เคยเห็นหลักฐานว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งจริง ในที่สุด Gibson ยอมรับว่าเธอไม่เคยเป็นมะเร็งและเรื่องราวทั้งหมดเป็นการโกหก
หลังจากนั้น Apple ถอดแอป The Whole Pantry ออกจาก App Store สำนักพิมพ์ Penguin ยกเลิกการจัดจำหน่ายหนังสือของเธอและบริจาคกำไรที่ได้ให้กับองค์กรการกุศล Gibson ถูกปรับเป็นเงิน 410,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียโดยศาลออสเตรเลีย ในข้อหาทำผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพและการแพทย์ทางเลือก ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากที่เชื่อเรื่องราวของเธอได้รับผลกระทบทางจิตใจและอาจละทิ้งการรักษาที่จำเป็น
สถานการณ์ปัจจุบัน Gibson หายไปจากสื่อสังคมออนไลน์และไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะ เธอยังไม่ได้จ่ายค่าปรับตามคำสั่งศาล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดมา กรณีของเธอกลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญเกี่ยวกับการหลอกลวงในโลกออนไลน์และความรับผิดชอบของอินฟลูเอนเซอร์
กรณีของ Belle Gibson เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบร้ายแรงที่เกิดจากการสร้างคอนเทนต์ที่หลอกลวงและขาดจริยธรรม โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการรักษาโรคร้ายแรง
ยังมีกรณีของ Fyre Festival ที่ถูกโปรโมทโดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังหลายคนว่าเป็นเทศกาลดนตรีสุดหรูบนเกาะส่วนตัว แต่เมื่อถึงวันงานจริง ผู้เข้าร่วมพบว่าไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่โฆษณาไว้ ส่งผลให้นักลงทุนและผู้บริโภคสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล และทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่
Fyre Festival เป็นเทศกาลดนตรีที่ถูกโปรโมทว่าจะจัดขึ้นบนเกาะส่วนตัวในบาฮามาส ในปี 2017 โดยมี Billy McFarland ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี และ Ja Rule นักร้องแร็พเปอร์ เป็นผู้จัดงาน
ทีมงานได้จ้างอินฟลูเอนเซอร์และซุปเปอร์โมเดลชื่อดัง เช่น Kendall Jenner, Bella Hadid และ Emily Ratajkowski มาโปรโมทงาน วิดีโอโปรโมทแสดงภาพความหรูหราของเกาะ, ปาร์ตี้บนชายหาด, และกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ บัตรเข้างานมีราคาตั้งแต่ 1,000 ถึง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแพ็คเกจ VIP มีราคาสูงถึง 250,000 ดอลลาร์
เมื่อผู้เข้าร่วมงานเดินทางมาถึงเกาะในวันที่ 27 เมษายน 2017 พวกเขาพบว่า ไม่มีที่พักหรูตามที่โฆษณาไว้ มีเพียงเต็นท์กู้ภัยที่ตั้งอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ไม่มีอาหารคุณภาพดี มีเพียงแซนด์วิชชีสและสลัดบรรจุกล่องพลาสติก ไม่มีศิลปินหรือวงดนตรีมาแสดง เนื่องจากหลายวงยกเลิกการแสดงเมื่อทราบว่างานไม่พร้อมสัมภาระของผู้เข้าร่วมงานหลายคนสูญหาย ไม่มีระบบขนส่งที่เหมาะสมสำหรับพาผู้คนออกจากเกาะ
งานถูกยกเลิกในวันแรกที่เปิด ทำให้ผู้เข้าร่วมงานหลายพันคนติดอยู่บนเกาะ เกิดความวุ่นวายและการแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำกัดบนเกาะ ผู้เข้าร่วมงานหลายคนสูญเสียเงินจำนวนมากจากค่าบัตรและค่าเดินทาง เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของอินฟลูเอนเซอร์ที่โปรโมทงาน ธุรกิจท้องถิ่นในบาฮามาสได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงไว้
Billy McFarland ถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 6 ปีในข้อหาฉ้อโกง มีการฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action lawsuit) หลายคดีจากผู้เข้าร่วมงานและผู้ลงทุน อินฟลูเอนเซอร์หลายคนถูกฟ้องร้องเนื่องจากไม่เปิดเผยว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างในการโปรโมทงาน
กรณีนี้กลายเป็นตัวอย่างของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ผิดและการหลอกลวงผู้บริโภค เกิดการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นต่อการโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ Netflix และ Hulu ได้ผลิตสารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ทำให้กรณี Fyre Festival กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เกิดการอภิปรายกว้างขวางเกี่ยวกับความรับผิดชอบของอินฟลูเอนเซอร์และการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์
กรณีของ Fyre Festival เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบร้ายแรงที่เกิดจากการโฆษณาที่หลอกลวงและการจัดการที่ไร้ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้อิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ในการสร้างภาพลวงตา
จริยธรรมของคอนเทนต์ครีเอเตอร์จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือการหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการสร้างคุณค่าและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ
ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลอย่างรวดเร็วและไร้พรมแดน บทบาทของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในการสร้างอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้คนนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การยึดมั่นในจริยธรรม บนพื้นฐานความจริง ความถูกต้อง จึงไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นการ“ลงทุน”ในความสำเร็จระยะยาวและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมอีกด้วย
ดังที่ Susan Liautaud ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "The Power of Ethics" ว่าการตัดสินใจบนพื้นฐานของจริยธรรมไม่ใช่การเสียสละ แต่เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีและยั่งยืนนั่นต่างหาก
การสร้างวัฒนธรรมแห่งจริยธรรมในวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งตัวครีเอเตอร์เอง แพลตฟอร์ม ผู้ชม และสังคมโดยรวม เพื่อสร้างระบบนิเวศของสื่อดิจิทัลที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสังคม ที่ดีขึ้นในระยะยาวอย่างแท้จริง
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.facebook.com/prypansang/posts/pfbid0Hzx26chG6bh6BjfF3T4H7Hvyuygc23cpSY1GeWqm1nrk1GEpJHyxNS9MQyw6Hddal?rdid=6YCMhtayAWhAw0pI
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี