ชาวตำบลสุขสวัสดิ์เผาข้าวหลามนับหมื่นกระบอก ร่วมงานบุญสังฆฑานข้าวหลาม หนึ่งเดียวในศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่วัดโพนปลัด ตำบลสุขสวัสดิ์ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ พุทธศาสนิกชนในตำบลสุขสวัสดิ์ และในพื้นที่ใกล้เคียง ได้พากันนำข้าวหลามกว่าหมื่นกระบอก มาร่วมงานบุญมหาสังฆทานข้าวหลาม โดยมี พระครูศรีมงคลปริยัติกิจ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีในครั้งนี้

นายไพบูลย์  สำราญพงษ์  อายุ 62 ปี ชาวบ้านโพนปลัด เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ต้นกำเนิดของงานบุญมหาสังฆทานข้าวหลาม ถือเป็นงานบุญประเพณี ที่หลวงปู่ศรีลา(พระครูสุขวัฒนคุณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพนปลัด (ซึ่งท่านมรณภาพไปแล้ว) ท่านได้ริเริ่มพาญาติโยมทำบุญประเพณีมหาสังฆทานบุญข้าวหลามขึ้น จนเป็นประเพณีสืบทอดมา สืบเนื่องจาก(หลวงปู่ศรีลา)เห็นชุมชน หมู่บ้าน ในตำบลสุขสวัสดิ์ ทำข้าวหลามขายเป็นอาชีพหลักและทำสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย ทำกันมานานกว่า 100 ปี จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งลูกหลานได้สืบทอดต่อยอดจนสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและในชุมชนได้เป็นอย่างดี

"จะมีแหล่งที่ขายเป็นประจำจนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วหลายๆจังหวัด คนในหมู่บ้านชุมชนจะออกขายไปตามหมู่บ้าน ชุมชน ตลาด โรงพยาบาล  โดยจะไปขายตามอำเภอต่างๆ จะมีรสชาติพิเศษ คือ หอมมัน หวานพอดี และชนิดไม้ไผ่ที่นำมาทำ ก็จะเน้นไผ่บ้านที่ปลูกกันในชุมชน เนื่องจากจะมีกลิ่นหอมเยื่อไผ่ที่อยู่ด้านใน มีสูตรการเผาข้าวหลามที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ในทุกๆปีก่อนถึงงานบุญมหาสังฆทาน 1 วัน คนในชุมชน เขตตำบลพรหมสวัสดิ์ต่างพากันทำข้าวหลามและเผา เพื่อจะนำข้าวหลามมารวมกันที่วัดในวันรุ่งเช้า และแจกทานข้าวหลามให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมในงานบุญมหาสังฆทาน"นายไพบูลย์ กล่าว

โดยจุดเด่นภายในงานบุญมหาสังฆทาน คือ แต่ละหมู่ในตำบลสุขสวัสดิ์จะเผาข้าวหลามมาถวายและรวมกันต่อเป็นชั้นๆสูงขึ้นเหมือนภูเขา รวมๆแล้วน่าจะเกือบหมื่นกระบอกได้ ซึ่งพอหลังจากพระทำพิธีถวายสังฆทานเสร็จ ชาวบ้านก็จะพากันมารับแจกข้าวหลามภายในศาลาวัดกันอย่างคึกคัก   นอกจากนั้น ทางนอกศาลาก็จะมีการแจกโรงทานจากผู้ที่มีใจบุญ มาแจกข้าวสาร อารหารแห้ง ซึ่งปีนี้จะมีการของแจกสิ่งของแปลกๆ อีกมากมาย อย่างเช่น โรงทานพันธ์ปลาแจกลูกปลา  เพื่อนำไปให้เลี้ยงต่อ แจกพืชผักสดสวนครัว ทั้งนี้การจัดงานบุญมหาสังฆทานก็เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธไมตรี สร้างความสามัคคีให้กับชาวบ้านและชุมชนเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามที่ทำต่อๆกันมา