“ทำเลของวัดอโศการาม เราไปดูหมดแล้ว ที่ติดชายทะเลเป็นที่เหมาะสมในการภาวนา มีที่เดินจงกรมนั่งภาวนาสะดวกสบาย สงบสงัด ไม่มีอะไรมารบกวน สมบัติอะไรก็ตามภายในโลกนี้ สู้ธรรมสมบัติภายในใจไม่ได้ สมบัติภายในใจเลิศเลอสุดยอด ขอเพียงให้ใจกับธรรมสัมผัสกัน มันจะแสดงฤทธิ์เดชเป็นที่อัศจรรย์” นี่คือหนึ่งในธรรมที่องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2549

วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นโดย “พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์” หรือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร  ซึ่งนายสุเมธ และ นางกิมหงษ์ ไกรกาญจน์ ได้นำที่ดินที่มีชื่อว่า “นาแม่ขาว” จำนวน 53 ไร่ น้อมกราบถวายองค์ท่านพ่อลี โดยท่านพ่อลีเมตตารับที่ดินผืนนี้ไว้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497 เพื่อนำที่ดินผืนนี้สร้างเป็น “วัดอโศการาม” รองรับการจัดฉลองวาระกึ่งพุทธกาล หรือ 25 พุทธศตวรรษ และ ชื่อวัดอโศการาม ท่านพ่อลีได้คิดชื่อวัดไว้ตั้งแต่ครั้งจำพรรษาอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของวัดไทยสารนาถ เมืองพาราณสี  ประเทศอินเดีย

ในเดือนเมษายน พุทธศักราช 2500 ท่านพ่อลีสั่งการจัดเตรียมงานเป็นการใหญ่ โดยมีพระ เณร และ ประชาชนทั่วสารทิศ เดินทางมาเพื่อร่วมประชุมจัดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ กับท่านพ่อลี ที่ “วัดอโศการาม” จังหวัดสมุทรปราการแห่งนี้

ทางฝ่ายปกครองของคณะสงฆ์นำโดย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฺฐายี) , พระพรหมมุนี พระธรรมปิฎก และ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ส่วนฝ่ายพระกัมมัฎฐานของหลวงปู่เสาร์ กันฺตสีโล และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นำโดย พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม พระอาจารย์เทสก์ เทสฺรังสี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ และ พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม เป็นต้น

วัดอโศการามจึงเป็นแดนมหามงคลที่รวบรวมเพชรน้ำหนึ่งแห่งพระพุทธศาสนามาไว้ และ ได้ปรากฎขึ้นเป็น “ธุตังคเจดีย์” ในเวลาต่อมา โดยในปีพุทธศักราช 2499 ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ได้พักที่วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี ทำพิธีมาฆบูชา สามทิวาราตรี ในดิถีเพ็ญวันนั้น ท่านอธิษฐานถวายชีวิตเว้นภัตตกิจตลอดวาร หรือ งดเว้นภัตตกิจตลอด 3 วัน 3 คืน พร้อมกับอธิษฐานถวายดวงตา นิทราตลอดราตรี หลังจากผ่านช่วงเวลานั้น ในเวลาประมาณ 4 นาฬิกา ท่านพ่อลีได้เคลิ้มฝันและนิมิตเห็นผืนดินถูกทำลาย เห็นซากอิฐพังทลาย จึงระลึกได้ว่า เจดีย์บรมธาตุพังพินาศจมดิน รวมทั้งยังได้นิมิตเห็นว่า ในมัธยมประเทศมีเหตุการณ์สำคัญที่พระสงฆ์จำนวนมากมาชุมนุมกัน เพื่อประชุมฉลองพระบรมธาตุ ท่านไม่สามารถไปร่วมสมโภชได้ เพื่อนสงฆ์จึงลงโทษว่า ต่อไปภายภาคหน้าท่านต้องสถาปนาพระธาตุเจดีย์ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างไม่จำกัดแก่พุทธบริษัทต่อไป

ท่านพ่อลีได้ออกแบบเจดีย์เป็นหมู่รวม 13 องค์ ตั้งนามไว้ว่า พระธุตังคเจดีย์ มีความหมาย ดังนี้ ชื่อของพระเจดีย์ หมายถึง ธุดงค์ควัตร 13 ข้อ ในพระพุทธศาสนา ที่พระกัมมัฎฐานได้น้อมนำปฏิบัติมาตลอด ซึ่งหากมองในมุมเฉียง จะเห็นเจดีย์ 7 องค์ หมายถึงโพชฌงค์ 7 ส่วนฐานของพระเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสอยู่ทุกมุมฐาน ฐานละ 4 องค์ หมายถึง อริยสัจสี่ รวมทั้งมีฐาน 3 ชั้น หมายถึง พระรัตนตรัย และ มีพระเจดีย์องค์ใหญ่เป็นประธาน หมายถึง พระนิพพาน

ตลอดทุกวันพระในช่วงเข้าพรรษาของทุกปี วัดอโศการาม จัดให้มีการปฏิบัติเนสัชชิก และ ฟังธรรมตลอดคืน ส่วนในช่วงเช้าของวันพระ ศรัทธาญาติโยมนิยมมาใส่บาตร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และ ออกโรงทาน 

“วัดอโศการาม” จึงเป็นหนึ่งในดินแดนมหัศจรรย์ ที่เป็นพื้นที่แห่ง ทาน ศีล และ ภาวนา โดยในทุกๆปีวัดอโศการามจะจัดให้มีงานทอดกฐินทาน ซึ่งได้นำปัจจัยไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการนำไปซื้อที่ดิน เพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินแห่งธรรม อันนำมาสู่การปฏิบัติบูชาแด่พระรัตนตรัย 

“พระภาวนาวัชรสุทธาจารย์” (หลวงพ่อสามเรือน ปุญฺเญสโก)  เจ้าอาวาส วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ให้หลักธรรมเป็นข้อคิดเตือนใจสาธุชนทั้งหลายในช่วงเข้าพรรรษา ประจำปี พ.ศ.2567 ว่า คนเราเมื่อตายแล้วและถูกเผาเรียกว่า ผีสุก แต่คนที่ยังไม่ตาย มีชีวิตที่หลอกลวงผู้อื่น อย่างคอลเซ็นเตอร์ เรียกว่า ผีดิบ คอยโทรศัพท์หลอกลวงผู้อื่น เป็นการเปลี่ยนภพภูมิตั้งแต่มีร่างกายเป็นมนุษย์ หรือ เปรตดิบ เช่น ผู้ที่ลักขโมยของผู้อื่น ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ก็เปลี่ยนภพภูมิสู่การเป็นเปรตตั้งแต่ยังไม่ตาย 

ส่วนใครที่ทำบุญ ละบาป รักษาศีล มาตลอดในระหว่างมีชีวิต ก็เปลี่ยนภพภูมิไปเป็นเทวดาตั้งแต่ยังไม่ตาย เรียกว่า เทวดาดิบ  ส่วนคนที่ทำทาน ศีล ภาวนา ละบาป ในระหว่างมีชีวิต เมื่อตายแล้ว ก็เปลี่ยนภพภูมิไปสู่ภพเทวดา เรียกว่า เทวดาสุก ส่วนใครที่เจริญพรหมวิหาร 4  ได้แก่ เมตตา กรุณา มุฑุตา อุเบกขา ในระหว่างมีชีวิต เมื่อยังไม่ตาย เรียกว่า พรหมดิบ คือ เปลี่ยนภพภูมิสู่ชั้นพรหมตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าตายแล้วเรียกว่า พรหมสุก

สำหรับงาน “กฐินวัดอโศการาม” จัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2567 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้สนใจสามารถร่วมบุญได้ที่วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ หรือ โอนปัจจัยร่วมบุญได้ที่บัญชีเลขที่ 017-3-39513-2 ชื่อบัญชี วัดอโศการาม