พบอดีตนายทหารยศ "พันโท" วัย 90 ปีอดีตทหารช่างเคยทำโครงการหลวงกว่า 1,000 โครงการทั่วประเทศ หลังเกษียณราชการเป็นจิตอาสาดูแลทำความสะอาดวัดอยู่ที่เมืองราชบุรี มีความสุขในบั้นปลายชีวิต ถือเป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระโดยแท้จริง
วันนี้...พาไปดูชีวิตของลุงคนหนึ่งดูจากภายนอกไม่ทราบเลยว่า เป็นคนที่สร้างคุณแผ่นดินมาอย่างมหาศาล เป็นผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ปัจจุบันยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับการดูแลเก็บกวาด ทำความสะอาด ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เป็นจิตอาสาช่วยงาน วัดศิริเจริญเนินหม้อ หรือ วัดโคกหม้อ ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี คือ "ลุงมุกข์" หรือ พ.ท.พิมุกข์ สีหะไตรย์ อดีต ผบ.หน่วยทหารช่างก่อสร้าง บก.ทหารสูงสุด อายุ 90 ปี ที่จบจากกรมการทหารช่างราชบุรี ได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายอยู่กับหลานสาวปลูกบ้านที่บริเวณหน้าวัดโคกหม้อ จ.ราชบุรี
ลุงมุกข์ ได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดศิริเจริญเนินหม้อ มาเป็นจิตอาสาทำความสะอาดดูแลวัดช่วงเวลากลางวัน ทั้งเก็บกวาดใบไม้ ตักมูลวัวใส่โคนต้นไม้ ปลูกดอกไม้ จัดภูมิทัศน์บริเวณวัดให้สวยงาม ช่วงวัดมีงานบุญก็จะมาช่วยเหลือตามกำลังเท่าที่จะทำไหว จากสภาพร่างกายที่เคยฝึกฝนช่วงเป็นทหารมาก่อน จึงทำให้ลุงมีสุขภาพแข็งแรง หยิบจับช่วยงานวัดได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ที่น่าสนใจและมีความแปลกแก่คนที่พบเห็น กับการแต่งตัวของลุงที่จะชอบผูกผ้าพันคอสีน้ำเงิน เสื้อยืดแขนสั้น ด้านหลังสกรีนข้อความว่า "กองบัญชาการกองทัพไทย" เวลาออกทำงานช่วยเหลือวัด น้ำเสียงแหบห้วนแต่ดูมีพลังความจำดี เขียนหนังสือได้สวยงามมาก
จากการสอบถามทำให้รู้ว่า ลุงมุกข์มีจิตใจเป็นอาสาช่วยงานวัดผู้นี้ ในอดีตเคยเป็นนายทหารช่างที่จบจากกรมการทหารช่วงราชบุรีมาก่อน ซึ่งได้ไปปฏิบัติหน้าที่ทั่วภูมิภาคของประเทศไทยในโครงการหลวง นอกจากนี้ลุงยังมีโอกาสเล่าฟื้นความหลังในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ ในการทำงานสนองรับใช้เบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์
พ.ท.พิมุกข์ สีหะไตรย์ หรือ ลุงมุกข์ อดีต ผบ.หน่วยทหารช่างก่อสร้าง บก.ทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า เกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ.2538 ในยศ พ.ท.สมัยนั้น เคยทำโครงการหลวงต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 1,000 โครงการ ช่วงนั้น ทาง ผบ.สูงสุด ได้รับคำสั่งจากสำนักราชวัง มีทหารช่าง มีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ เรื่องส่องกล้องเซอเวย์พื้นที่ ตนเองเคยเป็นเจ้าหน้าที่เซอร์เวย์สำรวจพื้นที่มาด้วย เนื่องจากโครงการพระราชดำริจะต้องมีเส้นทางเข้าออก จึงกลายมาเป็นหน้าที่ดูแลเส้นทางที่ต้องทำรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งวางแนวทาง แนวท่อ สะพาน จดบันทึกรายละเอียดในเส้นทางที่จะต้องดำเนินการ ตรงไหนจะสร้างสะพาน วางท่อ ตรวจสอบลำห้วย ตามเส้นทางที่จะต้องผ่านไป เป็นหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง สมัยนั้นทำหน่วยทหารพัฒนาอยู่ส่วนกลาง ต้องช่วยงานหน่วยพัฒนาทั่วประเทศ มีลูกน้องที่เป็นเซอร์เวย์สำรวจพื้นที่หลายคนได้ฝึกสอนและกระจายไปอยู่ตามพื้นที่ทั่วประเทศ ต้องไปตรวจงานดูแล ควบคุมดูสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
เริ่มต้นทำครั้งแรกที่ จ.อุบลราชธานี หน่วยทหารช่างก่อสร้างตั้งขึ้น 3 หน่วย สมัย พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ สร้างได้ประมาณ 3 - 4 เดือน เจ้ากรมทหารช่างประเทศฝรั่งเศสมาดูงานที่ประเทศไทย ดูการสร้างทาง หน่วยที่ตนควบคุมดูแลอยู่ได้รับการต้อนรับเจ้ากรมทหารช่างฝรั่งเศส พลเอกเกรียงศักดิ์ เป็นผู้ควบคุมไปในสมัยนั้น เป็นพันโครงการทั่วประเทศ
ส่วนโครงการใหญ่ ๆ ที่จำได้ เช่น สร้างทางเมือง จ.อุบลราชธานี ไป อ.ตระการ อ.โขงเจียม สร้างทางจาก อ.เดชอุดมไป อ.บุญฑริก อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลก่อสร้าง และยังมีโครงการที่ช่วยเหลือชาวบ้านระหว่างที่ก่อสร้างเส้นทางไปอีก หมู่บ้านไหนที่อยู่ซ้ายขวาไม่เกิน 6 กม. ผู้ใหญ่หน่วยเหนือบอกให้ช่วยเหลือทำทางเข้าออกให้หมู่บ้านโดยเอารถแทรกเตอร์และรถเกรดปรับปรุงพื้นที่เข้าไปให้หมู่บ้านมีความสะดวก หมู่บ้านไหนที่มีวัด โรงเรียนจะปรับปรุงพื้นที่ทำสนามให้โรงเรียน ขุดบ่อให้วัด เป็นโครงการที่หน่วยได้รับมอบมา และยังมีโครงการพระราชดำริที่แทรกเข้ามาด้วย ถ้าอยู่ใกล้ก็ทำทั้งสองอย่างควบคู่ไป
สำหรับความภาคภูมิใจ คือได้ช่วยเหลือชาวบ้าน เวลาเจ็บป่วยจะเอายาไปแจก ช่วงกลางคืนกรณีมีชาวบ้านประสบภัยก็จะนำรถไปช่วยเหลือดูแล ไม่มีวันหยุด หลังเกษียนก่อนหน้านี้ได้ไปบวชอยู่ที่วัดหินสูง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี บวชมา 13 พรรษา อยู่มา 4 วัด รับผิดชอบปลูกผักไว้ให้วัด ดูแลทำอาหาร จนได้ฉายาว่า "ปู่ธรรมศาสตร์" แล้วก็สึกออกมา ต่อมาคิดจะกลับไปช่วยที่วัด จ.กาญจนบุรี อีกครั้ง แต่หลานสาวให้มาอยู่ด้วย เป็นช่วงเข้าพรรษาพอดี จึงมาช่วยเป็นจิตอาสาอยู่ที่วัดโคกหม้อราชบุรี ตอนมาได้บอกกับหลวงพ่อว่า จะมาปลูกดาวเรืองให้ที่วัด หลวงพ่อพยักหน้าอนุญาต จึงมาช่วยอยู่ที่นี่จนถึงทุกวันนี้
สำหรับเรื่องที่ลุงความภาคภูมิใจสมัยที่เคยเป็นหน่วยทหารส่วนหน้าเข้าไปสำรวจพื้นที่เตรียมก่อสร้างพระตำหนักภูเขียว จ.ชัยภูมิ สมัยนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปเนื่องจากมีกลุ่มพวกคอมมิวนิสต์แฝงตัวอยู่จำนวนมาก แต่ตนเองมีหน้าที่จึงรับอาสาเข้าไป โดยได้มีสายรายงานให้วางอาวุธไว้ด้านนอก และให้เข้าไปแต่ตัว เพื่อเข้าสำรวจพื้นที่และสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยขณะนั้นมีการสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ไว้จำนวน 7 ลำ เพื่อไว้ขนวัสดุก่อสร้างเข้าไปดำเนินการสร้างพระตำหนักภูเขียวของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ตนเองเป็นผู้ควบคุมดูแลก่อสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์และพัฒนาพื้นที่จนสำเร็จ ถือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังเคยแสดงเป็นตัวละครขี่ม้าในเรื่อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย
ด้านพระครูสิริสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศิริเจริญเนินหม้อ กล่าวว่า โยมได้ช่วยวัดทำงานปลูกต้นไม้ ดอกไม้ กวาดใบไม้ เก็บขยะบริเวณพื้นที่ช่วยเหลือวัดดีมาก ถ้าอยู่ได้ก็อยู่เรื่อยไป เพราะที่วัดมีต้นไม้เยอะ ช่วยกันดูแลต่อไป และไม่เคยทราบเลยว่าเป็นอดีตนายทหาร
จากผืนดินบริเวณวัดโคกหม้อ ที่เคยเต็มไปด้วยใบไม้ ปัจจุบันสะอาดตาขึ้น หลังจากมีลุงพิมุกข์ อดีตทหารจิตอาสา คอยเก็บกวาดทำความสะอาดตักมูลวัวใส่โคนต้นไม้น้อยใหญ่เจริญงอกงาม ร่มรื่นแก่ประชาชนที่เดินทางมาทำบุญช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระวัด มีความสุขแบบพอเพียง โดยมีวัดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในบั้นปลายของชีวิต ถือเป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระโดยแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี