คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ โครงการ Educational Instituted Support Activity (EISA) โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สร้างสรรค์นวัตกรรมผ้าทอให้กับชุมชนบ้านไทรงาม จังหวัดสระแก้ว ภายใต้แนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก" ในงาน Sustainability Expo 2024 (SX2024) เมื่อวันที่ 27 กันยายน - 6 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้นำความรู้ทางด้านศิลปะและการออกแบบมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยุคใหม่และได้รับเสียงตอบรับจากชุมชนได้เป็นอย่างดี
ผศ.จักรพันธ์ สุระประเสริฐ อาจารย์ประจำวิชาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมออกงาน Sustainability Expo 2024 (SX2024) ภายใต้ธีมที่ว่า ‘พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก’ โดยมีผลงานผ้าทอที่ออกแบบโดยนักศึกษาและอาจารย์ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง เสื้อผ้าวัยรุ่นและเด็ก รวมไปจนถึงกระเป๋า ซึ่งแต่ละชิ้นงานสะท้อนถึงเอกลักษณ์ชุมชนบ้านไทรงาม จังหวัดสระแก้ว ที่โครงการ EISA สรรหาชุมชนที่โดดเด่นมีของดีอยู่ในตัว แต่ยังขาดมุมมองบางส่วนที่อยากให้นักศึกษาและอาจารย์เข้าไปสนับสนุนสร้างสรรค์ผลงานออกสู่สายตาประชาชนและนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นสินค้าประจำชุมชน
นอกจากนี้ผลงานเหล่านี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถของนักศึกษาในการนำความรู้ทางด้านศิลปะ และการออกแบบมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอได้อย่างน่าทึ่ง โดยผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ประกอบด้วยผลงานธีสิสของนักศึกษา 5 ชุด ผลงานของอาจารย์อีก 2 ชุด ซึ่งครอบคลุมทั้งชุดผู้ชาย ชุดผู้หญิง และชุดเด็ก ชุดวัยรุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น กระเป๋า ที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของไอเดียและรูปแบบการออกแบบ
“ตอนนี้คนทอผ้าลดลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีคนสืบต่อ ภารกิจของมหาวิทยาลัยเราคือ ลงไปหาวิธีการที่จะทำให้ชุมชนเกิดความยั่งยืนในเรื่องนี้ให้ได้ โดยในแง่ของคณะศิลปกรรมฯ เราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะถ้าทอผ้าอย่างเดียวกลุ่มลูกค้าอาจจะน้อย แต่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้จะยิ่งขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะช่วยเรื่องของการสร้างงานสร้างอาชีพ เมื่อมีอาชีพก็เกิดความยั่งยืนได้ ซึ่งก็เลยเข้ากับธีมงานในครั้งนี้”
ผศ.จักรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากการที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ได้เข้าไปสำรวจศักยภาพของชุมชนบ้านไทรงามอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจถึงกระบวนการผลิตผ้าทอแบบดั้งเดิม และความต้องการของชุมชน จากนั้น นักศึกษาของเราได้ร่วมกันออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของชุมชนและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดปัจจุบัน โดยตลอดระยะเวลาของโครงการ นักศึกษาได้ทำงานร่วมกับผู้คนและช่างฝีมือในชุมชนอย่างใกล้ชิด เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคนิคทางด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์และที่สำคัญคือ ชุมชนสามารถผลิตได้เอง
นอกจากนี้ ในปี 2024 นี้ คณะศิลปกรรมยังได้นำนักศึกษาอีก 2 สาขา คือ สาขากราฟิกและสาขาออกแบบสภาพแวดล้อมภายใน ทำให้งานออกแบบมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น นักศึกษาสาขากราฟิกได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าทอ ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ขณะที่นักศึกษาสาขาการตกแต่งภายใน ได้ออกแบบพื้นที่จัดแสดงบูธสินค้าที่น่าสนใจ ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชม ฯลฯ
ผศ.จักรพันธ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในอดีตมักได้รับเสียงสะท้อนจากชุมชนอื่นๆ ว่า เมื่อโครงการสิ้นสุดลง ชุมชนรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง เพราะขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแนวคิด อย่างไรก็ตาม โครงการในปีนี้มีความแตกต่างเนื่องจากทีมงานได้เข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างลึกซึ้งและครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยการติดตามผลหลังการดำเนินโครงการจะช่วยให้เข้าใจถึงความต้องการของชุมชนและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตลาดได้ดียิ่งขึ้น
“พอเรามีเวลามากขึ้น มันก็เหมือนเป็นงานวิจัยไปในตัว เราจะได้รู้ว่ากระแสตอบรับของผลิตภัณฑ์ที่เราไปช่วยพัฒนาเป็นยังไง ผลการขายเป็นยังไง ตัวชุมชนทำได้เองหรือไม่ ด้วยความที่เราเป็นมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ DNA ของเราคือ การทำทุกอย่างให้อยู่ภายใต้ธุรกิจให้ได้ ผมไม่อยากไปขายฝันให้ชุมชน การขายฝันให้ชุมชนมันไม่ได้ช่วยให้เขาอยู่ได้ สำคัญที่สุดเลยคือ พอเราไปแล้วเขายังต้องต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เราทิ้งไว้ให้เขาได้ ถ้าเราทำแล้วเขาต่อยอดไม่ได้ก็ไม่เกิดประโยชน์และไม่ยั่งยืนเลย”
ผศ.จักรพันธ์ กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนบ้านไทรงาม ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองความต้องการของตลาด โดยมีนักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้บรรลุเป้าหมาย โดยในอนาคตโครงการนี้จะเป็นต้นแบบให้กับโครงการอื่นๆ ในการนำความรู้ทางวิชาการไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ
“ตอนเราพานักศึกษาไปลงพื้นที่ ภาพที่ผมเห็นคือทุกคนตั้งใจเก็บข้อมูลกันมาก เพราะพอเขาไปแล้วเขารู้สึกว่าเขาได้โอกาสที่จะพัฒนาตัวเอง ได้นำเอาความรู้ไปใช้ และรู้ว่าความรู้นั้นใช่ได้จริง พอหลังจากจบโปรเจกต์แต่ละคนโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางคนก็ไปทำเป็นธีสิส ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นวงจรการพัฒนาไปในตัว ทุกคนได้ประโยชน์จากการที่ตัวเองได้ไปลองทำงานจริง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี