10 ต.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก Poetry of Bitch ได้สรุปประเด็นจากคนที่ (เชื่อว่าตัวเอง) เป็นผู้เสียหายจากธุรกิจขายตรง
โดยระบุข้อความว่า
กระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือ
1. ผู้เสียหายมองว่ามีการสร้างความน่าเชื่อถืออย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็นกระบวนการมาตลอดหลายปี เช่น บุคคลที่เป็น “บอส” จะสร้างสตอรี่ที่เป็นสูตรสำเร็จว่า ก่อนรวยก็เคยจนมาก่อน อาทิ เป็นเด็กสลัม เคยเป็นหนี้จนคิดฆ่าตัวตาย แต่สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองจนกลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ภายในเวลาไม่กี่ปี
2. บอสจะเดินสายสัมภาษณ์รายการต่าง ๆ ตอกย้ำเส้นทางชีวิตจากยาจกสู่เศรษฐี ช่วงแรก ๆ มีการนำชื่อรายการทอล์กโชว์ชื่อดังมาห้อยท้ายต่อจากชื่อตัวเอง เช่น เอ ตีแปด เพื่อสร้างการจดจำและความน่าเชื่อถือ แม้จะเคยออกรายการนั้นแค่ครั้งเดียวเมื่อนานมาแล้วก็ตาม
3. แม้จะเล่าสตอรี่ชีวิตยาวเหยียด แต่จะไม่บอกรายละเอียดของธุรกิจมากนัก บอกแค่ว่าเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ โดยขายผ่านโซเชียลมีเดียที่ทุกคนก็เล่นอยู่แล้ว เช่น เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก ไอจี ไลน์ พร้อมกับย้ำว่า ”ไม่ใช่ธุรกิจขายตรง“
4. สร้างสโลแกนคำคมต่าง ๆ แบบจี้ใจดำคนจน คนที่เป็นลูกน้องคนอื่น คนที่ทำโอทีแทบตายไม่พอจ่ายเหมือนเดิม เช่น “ขยันผิดที่ทำจนเกษียณก็ไม่รวย”
5. บอสจะเดินสายรับรางวัลในสาขาต่าง ๆ เช่น นักบริหารดีเด่น บุคคลต้นแบบ นักธุรกิจเพื่อสังคม ฯลฯ บางรางวัลชื่อแปลกมาก หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน รวมทั้งตีข่าวบริจาคเงินช่วยเหลือสังคมให้เห็นเป็นระยะ
6. มีการจ้างดาราดัง ๆ ภาพพจน์ดีมาเป็นพรีเซนเตอร์ ใส่คำว่า “บอส” นำหน้าชื่อดารา เพื่อให้คนมองว่าดารามีส่วนร่วมในการบริหาร มีการทำคอนเทนต์ให้ดูว่าบอสสนิทสนมกับดารามาก เช่น ดารายกเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิดบอส, บอสซื้อของขวัญราคาแพงให้ดารา ฯลฯ ทำให้ประชาชนยิ่งเชื่อถือมากขึ้นไปอีก
7. โหมกระหน่ำโฆษณาบริษัททุกช่องทางอย่างถี่ยิบจนคนจำสโลแกนได้ จำบอสได้ และจำพรีเซ็นเตอร์ได้ มีการซื้อโฆษณาในรายการข่าว ยิ่งทำให้ประชาชนมองว่าน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่ เพราะคิดว่ารายการประเภทข่าวน่าจะคัดกรองมาแล้ว
8. บอสและคนในทีมจะอวดชีวิตหรู รถหรู ของแบรนด์เนม ไลฟ์สไตล์ที่ดูแพง เวลาไปจัดสัมมนาที่โรงแรมไหน จะเอารถหรูไปจอดเรียงเป็นตับหน้าโรงแรม เพื่อให้เห็นว่าทุกคนในทีมประสบความสำเร็จ
เปิดคอร์สสอนขายของออนไลน์
9. บริษัทจะเปิดคอร์สสอนขายของออนไลน์ในราคาที่ถูกมาก เช่น 59 บาท, 89 บาท ทำให้มีผู้สมัครจำนวนมาก ซึ่งก็มีการสอนจริง เช่น สอนเปิดเพจ ตัดต่อคลิป การปักตะกร้าขายของ การยิงแอดโฆษณา ฯลฯ
10. คอร์สอบรมมีทั้งหมด 5 วัน แต่พอวันที่ 3 จะเริ่มเล่าสตอรี่ชีวิตรันทดสู่ความสำเร็จของบอส ตอนนี้ก็ได้เวลาเอาโปรไฟล์ต่าง ๆ ที่สั่งสมไว้มาพรีเซนต์ เช่น เคยออกรายการอะไร เคยได้รางวัลอะไร เคยบริจาคเงินที่ไหน ตามมาด้วยความสำเร็จในปัจจุบัน มีบ้านกี่หลัง มีรถกี่คัน ซื้อรถหรูราคา 30 ล้าน กลัวคนไม่เชื่อเอาเล่มทะเบียนมาให้ดูด้วยว่าซื้อเงินสด
11. ต่อด้วยสตอรี่ความสำเร็จของคนในทีม เช่น นายเอ เคยจนกรอบแต่ตอนนี้มีบ้านหลังใหญ่, นายบี ทำงานประจำเงินเดือนไม่กี่หมื่น ตอนนี้ได้เดือนละหลายล้าน, นางซี คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวถอยรถป้ายแดง, นางสาวดี นักศึกษาก็รวยได้ ฯลฯ
จูงใจให้เปิดบิล
12. จากนั้นชักชวนให้เปิดบิลซื้อสินค้าของบริษัท เพื่อนำไปขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่สอนไว้ สินค้าเป็นจำพวกอาหารเสริม ครีม คอลลาเจน ยาสีฟัน กาแฟ ฯลฯ ซึ่งยี่ห้อจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก
13. การเปิดบิลมี 3 ระดับ คือ หลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน โดยจะพูดเชียร์ให้ซื้อหลักแสน อ้างว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จแบบรุ่นพี่ก็ต้องเปิดบิลระดับนี้แหละ คนที่มีมายเซ็ตนักธุรกิจเค้าต้องซื้อหลักนี้ พร้อมโปรโมชั่นดึงดูดใจ เช่น ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ และจะมีหน้าม้าทำทีเป็นเปิดบิลหลักแสน เพื่อจูงใจให้คนคล้อยตาม
14. ใครเปิดบิลจะได้แอดเข้าไลน์กลุ่มเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แต่ละกลุ่มจะมีโค้ชคอยให้คำแนะนำ และมีการแอดหน้าม้าเข้าไปด้วย หน้าม้าพวกนี้จะคอยปั่นว่าตัวเองได้นั่นได้นี่ ถ้ากลุ่มไหนมีคนพูดในเชิงลบ หรือตั้งคำถามกับบริษัท จะมีการระดมพลจากกลุ่มอื่น ๆ เข้าไปรุมสกัด
15. เมื่อซื้อสินค้าไปแล้วก็เอาไปขายตามช่องทางต่าง ๆ ที่เขาสอนไว้ แต่เนื่องจากสินค้าไม่เป็นที่รู้จักและราคาแพงกว่าท้องตลาด ทำให้ขายยาก แถมไปพบว่าสินค้าเหล่านี้ถูกขายตัดราคาในแอปต่าง ๆ อีก เนื่องจากคนที่เคยซื้อไปก่อนก็ขายไม่ได้เหมือนกัน เลยต้องเอามาขายถูก ๆ
ไม่เน้นขายของ เน้นหา “นักเรียนใหม่”
16. บริษัทไม่ได้เน้นไปที่การขายสินค้า แต่เน้นหาเครือข่าย โดยโค้ชจะบอกให้ไปหา “นักเรียนใหม่“ มาเข้าคอร์ส ซึ่งจริง ๆ ก็คือการหาลูกทีมหรือดาวน์ไลน์ในธุรกิจขายตรงนั่นเอง เพื่อให้ตัวเองได้เป็นแม่ทีม เมื่อหานักเรียนใหม่ได้ก็จะได้เงิน หากลูกทีมเปิดบิลระดับหลักแสน แม่ทีมก็จะได้เงินมากขึ้นไปอีก
17. จากนั้นคนที่หลงเข้ามาแล้วก็ต้องยิงแอดโฆษณา ซึ่งจุดประสงค์หลักไม่ใช่ยิงแอดเพื่อขายสินค้า แต่เป็นการยิงแอดเพื่อหาคนไปเข้าคอร์ส ผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่บริษัทเต็ม ๆ เพราะไม่ต้องจ่ายเงินยิงแอดเอง
18. โค้ชจะบอกเสมอว่า ถ้าขายสินค้าเราก็แค่ได้ทุนคืน แต่ถ้าอยากได้เดือนละล้านเหมือนรุ่นพี่ ก็ต้องหาคนมาเข้าคอร์สให้ได้เยอะ ๆ และโน้มน้าวให้เขาเปิดบิลหลักแสน
19. หลายคนที่อยู่ไปนาน ๆ เริ่มเข้าใจระบบและตัดสินใจไม่ไปต่อ ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ “ทำไม่ลง” เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องเสียเงินและติดหล่มเหมือนตัวเอง
ตัวอย่างผู้เสียหาย-เอาผิดทางกฎหมายยาก
20. บริษัทฉวยโอกาสช่วงโควิดที่หลายคนต้องตกงานหรือปิดกิจการ มาขายความหวังให้ไปเข้าคอร์ส ขายฝันว่าแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็พลิกชีวิตได้ คนแห่สมัครเรียนจำนวนมาก
21. คุณตาคนหนึ่งอายุ 80 กว่าแล้ว ซื้อคอร์สอบรมในราคา 98 บาท ถูกโน้มน้าวให้เปิดบิล 2.5 แสนบาท ซึ่งคุณตารูดบัตรเครดิตมาจ่าย แต่เนื่องจากคุณตาอายุมากแล้ว หาลูกทีมไม่ได้ โค้ชแนะนำให้เปิดบิลซ้ำอีก 2.5 แสน จ่ายเงินอีก 5 พันเพื่อซื้อรายชื่อ-เบอร์โทรลูกค้า และจ่ายค่ายิงแอดอีกครั้งละ 5 พันหลายครั้ง จบที่การเป็นหนี้ร่วมล้าน
22. “คุณนก” (นามสมมุติ) สมัครคอร์สอบรม 59 บาท จากนั้นรูดบัตรเครดิต 2.5 แสนเพื่อเปิดบิล แต่ทำทุกวิถีทางก็ขายของไม่ได้ เอาไปตั้งในตลาดก็ยังขายไม่ได้ ซื้อโปสเตอร์พรีเซนเตอร์ดารามาวางประกบแล้วก็ยังขายไม่ออกแม้แต่ชิ้นเดียว สุดท้ายต้องเอาไปขายขาดทุนในตลาดมืด จบด้วยการเป็นหนี้บัตรเครดิต ติดเครดิตบูโร บริษัทไม่ได้เข้ามาโอบอุ้มช่วยเหลือ จนตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตายตอนตั้งท้อง โชคดีมีคนกระโดดน้ำลงไปช่วยไว้ทัน
23. ผู้เสียหายบอกว่า บริษัทเตรียมการทางกฎหมายและวางเงื่อนไขต่าง ๆ เอาไว้อย่างรัดกุม จนยากจะเอาผิดตามกฎหมายได้ เพราะถูกมองเป็นความยินยอมเข้าร่วมประกอบธุรกิจ ซื้อสินค้าไปขายต่อแต่ขายไม่ได้ ย่อมไม่ใช่ความผิดของบริษัท เคยมีคนร้องเรียน สคบ. แต่ก็ไม่สามารถเอาผิดบริษัทได้
.-008
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Poetry of Bitch
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี