ศิลปินเรือไฟโชว์ Skill สร้างลวดลายแขวนตะเกียงโบราณ พร้อมอวดความงามกลางลำน้ำโขง คืนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 วันออกพรรษา 17 ตค.นี้
17 ตุลาคม 2567บริเวณลานเอนกประสงค์ พื้นที่กว้างกว่า 2 ไร่ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม ริมอ่างเก็บน้ำตำบลหนองญาติ กลายเป็นอีกสถานที่สำคัญ ในการออกแบบสร้างลวดลายบนเรือไฟของ อ.เมืองนครพนม โดยปีนี้ นายพนม พุทธาผา อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนบก ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม
เจ้าของรางวัลศิลปินเรือไฟหลายสมัย นำทีมงานกว่า 10 คน ซึ่งเป็นแรงงานจิตอาสา ผู้นำชุมชนท้องถิ่น โชว์สกิล (Skill) การออกแบบ บรรจงวาดลายบนแผ่นกระดาษ ซึ่งเป็นความชำนาญแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ถ่ายทอดวิถีชีวิต และ สถานที่สำคัญของ จ.นครพนม ออกมาเป็นลวดลายติดบนเรือไฟของ อ.เมืองนครพนม ถือเป็นเรือไฟยักษ์ 1 ใน 12 ลำ ที่ส่งเข้าประกวดอวดความสวยงามกลางลำน้ำโขง ในคืนวันเพ็ญออกพรรษา 17 ตุลาคม 2567 โดยเรือไฟลำนี้มีขนาดความยาว 80 เมตร สูง 30 เมตร ประดับด้วยตะเกียงไฟกว่า 20,000 ดวง เน้นลวดลายเชิดชูสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด
ทั้งนี้ การออกแบบเป็นความชำนาญ ตามวิถีชีวิตคนที่คลุกคลีอยู่กับเรือไฟมาหลายปี ถ่ายทอดออกมาในอัตราส่วนที่เหมาะสม ประมาณ 1 สเกล(scale) ต่อ 1 ตารางเมตร เพื่อนำเหล็กเส้นประมาณ 2 หุน มาดัดตามลายที่ออกแบบ พร้อมกำหนดจุดติดตั้งตะเกียงไฟโบราณ ที่นำกระป๋องกาแฟสำเร็จรูป ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ มาทดแทนกระป๋องแบบโบราณ สอดไส้ตะเกียงที่ทำจากผ้าฝ้ายพื้นที่บ้าน เติมน้ำมันดีเซลผสมน้ำมันก๊าด และน้ำมันพืชตามสัดส่วน ก่อนนำไปแขวนบนลวดลายที่ออกแบบไว้ โดยมีการกำหนดจุดแขวนตะเกียงไว้ รวมถึงหลักเกณฑ์ความเหมาะสม แต่ต้องอาศัยความชำนาญ จากการลองผิดลองถูก และเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านทั้งหมด ก่อนจะกลายเป็นแสงไฟตามลวดลาย สร้างความสวยงามกลางลำน้ำโขง ในคืนไหลเรือไฟ วันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
นายพนม พุทธาผา อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนบก ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่าการออกแบบลวดลาย ถือเป็นเสน่ห์ของการทำเรือไฟ เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ลวดลายออกมาสวยงาม รวมถึงการกำหนดจุดแขวนตะเกียงไฟ ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะหากไม่อยูในตำแหน่งที่เหมาะสม จะทำให้ภาพลวดลายที่ออกมาสู่สายตาผู้ชมจะเลือนราง ไม่มีความชัดเจน ยิ่งเป็นลวดลายตราสัญลักษณ์ รวมถึงภาพบุคคล จะต้องละเอียดมากที่สุด ซึ่งเกิดจากความชำนาญเฉพาะบุคคล ไม่มีมีเกณฑ์มาตรฐาน เกิดจากการเรียนรู้ของบรรดาศิลปินเรือไฟ จากอดีตสู่ปัจจุบัน
นอกจากนี้แม้แต่สัดส่วนการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงของตะเกียงไฟ จะต้องประกอบด้วยน้ำมันดีเซล ผสมรวมกับน้ำมันก๊าดและน้ำมันพืช เพื่อให้แสงไฟออกมามีความสวยงามชัดเจน เนื่องจากมีควันน้อย ล้วนเกิดจากความชำนาญส่วนตัวทั้งหมด ถือเป็นเสน่ห์และความภาคภูมิใจ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเรือไฟ ไหลโชว์ความสวยงามทุกปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี