พุทธศาสนิกชนชาว อ.บ้านฉาง จ.ระยอง แห่ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวพระสงฆ์วัดคีรีภาวนาราม เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา โดยพระสงฆ์ 40 รูป เดินลงมาจากบนยอดเขาสูงตามบันได เพื่อให้พุทธศาสนิกชนอยู่ด้านล่างได้ใส่บาตร
18 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่วัดคีรีภาวนาราม ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมบ้านฉางท่องเที่ยวศิลปะและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับคณะกรรมการวัดคีรีภาวนาราม ได้จัดงานทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจำปี 2567 ขึ้น
โดยมีนายกิติพงศ์ อุระวัตร นอภ.บ้านฉาง นางศุภร จุลทอง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนริช 865 นายสุมิตร โสภาศรีพันธ์ ประธานชมรมบ้านฉางท่องเที่ยวฯ และนายภูวิรณ์ เลิศวีระศิริกุล ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง ร่วมทำบุญตักบาตร โดยได้ให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ได้ร่วมทำบุญใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์
โดยมีพระครูโกศลศาสนกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอบ้านฉาง และพระครูปัญญาศุภสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดคีรีภาวนาราม นำพระสงฆ์ จำนวน 40 รูป นำหน้าโดยเหล่าเทวดา และนางฟ้า เดินลงจากบนเขาโกรกตะแบกมาตามบันไดเป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง ก่อนที่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่ตั้งแถวรออยู่ด้านล่างยาวกว่า 1 กม. จะได้ร่วมกันใส่บาตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จกลับจากการเทศนา แสดงธรรมโปรดแด่พุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และเพื่อส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยที่มีมาแต่โบราณให้คงอยู่สืบไปด้วย.
เชียงรายตักบาตรเทโวออกพรรษา พระสงฆ์ 111 รูป อธิษฐานให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว หลังจากน้ำท่วมหนัก
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลนครเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ และ นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยชาวเชียงราย ร่วมกันทำบุญตักบาตร วันออกพรรษา ตักบาตรเทโวโรหณะ ตั้งแต่เชิงบันไดวัดดอยงำเมืองไปจนถึง แยกศาล ถนนธนาลัย เขตเทศบาลนครเชียงราย โดยมีชาวพุทธนุ่งขาว ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งจำนวนมาก
โดย พระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นำพระสงฆ์ 111 รูป ออกรับบิณฑบาตร โดยทุกคนได้ตั้งจิตอธิษฐาน ให้เชียงรายมีแต่ความสุขจากนี้ไป เรื่องเก่า ๆ โดยเฉพาะน้ำท่วมให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติ หลังจากเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า การ ตักบาตรเทโวโรหณะ วันออกพรรษา ทางเทศบาลนครเชียงราย จัดขึ้นทุกปี เพื่อสืบสานประเพณีที่สำคัญในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพุทธศาสนิกชนในการที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งผลให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีนับเป็นกลไกสำคัญต่อการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมของประชาชน และนำพา สันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตักบาตรเทโวโรหณะ ในปีนี้ ผู้ปกครองได้พาบุตรหลาน มาร่วมทำบุญตักบาตรจำนวนมาก และได้สอนให้เด็กปฏิบัติตามหลักธรรมเนียมประเพณีการสืบสานสิ่งดี ๆ ทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งการตักบาตรพระสงฆ์ต้องทำอย่างไร.
บรรยากาศทำบุญตักบาตรเทโว ข้าวสารอาหารแห้ง วันออกพรรษา แด่พระภิกษุสงฆ์เนื่องในเทศกาลออกพรรษากันอย่างคึกคัก
ที่วัดโคกพุทธา ตำบลโคกพุทธา อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ชาวบ้านร่วมทำบุญตักบาตรเทโวข้าวสารอาหารแห้ง วันออกพรรษา แด่พระภิกษุสงฆ์เนื่องในเทศกาลออกพรรษากันอย่างคึกคัก
พระอธิการธนพล กนตวีโร เจ้าอาวาสวัดโคกพุทร กล่าวว่า วันออกพรรษา คือ วันสิ้นสุดระยะการจำพรรษา หรือการออกจากประจำที่ในฤดูฝน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันมหาปวารณา” คือ เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกันได้ในข้อที่ผิดพลั้งล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษา วันออกพรรษานี้ กิจกรรมที่ประชาชนชาวพุทธมักจะกระทำ ก็คือ การบำเพ็ญกุศล เช่น การทำบุญตักบาตร รับฟังพระธรรมเทศนา และการรักษาศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
ปทุมธานีตักบาตรพระร้อยริมแม่น้ำเจ้าพระยาอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมวันออกพรรษา
นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายปัญญา นพขำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง นายสายัณ นพขำ ที่ปรึกษานายกเทศบาลตำบลบ้านกลาง นายศุภชัย นพขำ (ส.ส.เต๋า) เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมข้าราชการพ่อค้า ประชาชนจำนวนมาก ร่วมประเพณีทำบุญตักบาตรพระร้อยทางเรือ อนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมในเทศกาลวันออกพรรษา ที่วัดมะขาม ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และติดกับวัดศาลเจ้าที่มีตลาดน้ำสำคัญของจังหวัดปทุมธานี
ตักบาตรพระร้อย เป็นประเพณีตักบาตรทางน้ำในช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่ชาวปทุมธานี โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายมอญ ปฏิบัติกันมานานนับร้อยปี เพราะจังหวัดปทุมธานีมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ทำให้เกิดลำคลองหลายสายขึ้น เพื่อใช้เป็นเส้นทางการคมนาคม ใช้ในการชลประทาน ใช้ในการอุปโภคบริโภค อีกทั้งบ้านเรือนประชาชนแต่เดิมจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำลำคลองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในช่วงออกพรรษาเป็นช่วงน้ำหลาก บรรยากาศชุมชื่นการสัญจรไปมาทางเรือสะดวก ดังนั้นการตักบาตรพระสงฆ์จึงใช้เรือในการบิณฑบาตบริเวณท่าน้ำหน้าบ้านประชาชน
การตักบาตรพระร้อยของชาวปทุมธานีในอดีต ดูแปลกกว่าที่อื่นๆ โดยเฉพาะการตักบาตรพระร้อยตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีการตักบาตรเป็นระยะทางไกลเป็นกิโลเมตรเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นต้นไป โดย ทางวัดที่อยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง แต่ก็ไม่ได้กำหนดไปเสียทุกวัด ส่วนใหญ่จะจัดให้มีการตักบาตรเฉพาะในวัดใหญ่ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะตกลงกำหนดวันที่จะผลัดกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อไม่ให้วันตักบาตรฯ ตรงกันหรือทับซ้อนกัน เพราะถ้าตรงกันแล้ว จำนวนพระที่จะมารับบาตรจะได้จำนวนไม่ครบ 100 รูป (ซึ่งผู้รู้บางท่านกล่าวว่าเป็นที่มาของคำว่า “พระร้อย”) และต้องการให้พระพุทธศาสนิกชนทั้งหลายรู้กำหนดเวลา จะได้เตรียม จัดทำอาหารหวานคาว ไว้ทำบุญตักบาตรได้ถูกต้องด้วย การกำหนดว่าวัดใด จะทำบุญตักบาตรพระร้อยในวันใดนั้น ได้กำหนดไว้
ชาวอำเภอสัตหีบตักบาตรเทโวสืบสานประเพณีวันออกพรรษา
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ 18 ต.ค.67 หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน ชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันตักบาตรเทโว หรือเรียกกันเต็มๆ พิธีตักบาตรเทโวโรหนะ ด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวต้มหาง น้ำดื่ม ส้มเขียวหวาน เพื่อสืบสานประเพณีวันออกพรรษา ณ วัดสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พระวชิรคุณากร รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เจ้าอาวาสวัดสัตหีบ นำขบวนสงฆ์ ที่จำพรรษาในวัดออกรับบิณฑบาตจากลานอเนกประสงค์วัดสัตหีบ ไปโดยรอบตลาดสัตหีบ โดยมีชาวพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมทำบุญตักบาตรกันจำนวนมาก
สำหรับประเพณี ตักบาตรเทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหนะ ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจาก เทวโลก หมายถึงการเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่างๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นบิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติทั้งหลายถ้วนหน้า แล้วทรงปรารถนาจะสนองพระคุณมารดา ซึ่งหลังประสูติพระองค์ ได้ 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์ และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ฉะนั้น ในพรรษาที่ 7 หลังจากตรัสรู้พระพุทธองค์ จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง
ในการตักบาตรเทโว วัดและชาวพุทธศาสนิกชนจะทำกันในวันออกพรรษา คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 บางวัดก็ทำในวันรุ่งขึ้น คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ทั้งนี้ แล้วแต่ความตกลงร่วมใจทั้งทางวัด และทางชาวบ้าน พิธีที่ทำนั้นทางวัดจะอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในบุษบก ซึ่งตั้งอยู่บนล้อเลื่อนหรือคานหาม มีบาตรขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งไว้หน้าพระพุทธรูป มีคนลากล้อเลื่อนไปช้า ๆ นำหน้าพระสงฆ์ สามเณร ซึ่งถือบาตรเดินเรียงไปตามลำดับ โดยพุทธศาสนิกชนต่างก็นำข้าว อาหารหวานคาว มาเรียงรายกันอยู่เป็นแถวตามแนวทางที่รถบุษบกเคลื่อนผ่าน เพื่อคอยตักบาตร ส่วนอาหารที่นิยมตักในวันออกพรรษา นอกจาก อาหารคาวหวานแล้ว ก็จะมีข้าวต้มลูกโยน ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า ในครั้งนั้นผู้คนรอใส่บาตรกันแออัดมาก ทำให้ไม่สามารถเข้าไม่ถึงพระ จึงใช้ข้าวก่อ หรือปั้นโยนลงบาตร ซึ่งในปัจจุบันที่เรารู้จักก็คือข้าวต้มหาง
ตักบาตรเทโวอุทัยธานีคึกคักประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก เที่ยวชมโต๊ะหมู่บูชาประดับด้วยงาช้างเก่าแก่ จำนวนมาก ที่ชาวอุทัยธานี จะนำตั้งประดับตามหน้าห้างร้าน
เมื่อเวลา 09.00น. นายธีรพัฒน์ คัชมาศ ผู้ว่าราการจังหวัดอุทัยธานี นำพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว ร่วมกันตักบาตรเทโว ที่วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ตามประเพณีแก่ที่ถือปฎิบัติ สืบต่อกันมายาวนานของชาวอุทัยธานี โดยมีพระภิกษุสงค์ 500 เดินลงจากมณฑปสิริมายากุฎาคาร ตามบันได้ 449 ขั้น เพื่อรับบิณฑบาต จากพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่ลานวัดสังกัสรัตนคีรี
นอกจากตักบาตรพระภิกษุ ถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังได้สักการะ เที่ยวชมโต๊ะหมู่บูชาประดับด้วยงาช้างเก่าแก่ จำนวนมาก ที่ชาวอุทัยธานี จะนำตั้งประดับตามหน้าห้างร้าน อาคารบ้านเรือนในย่านการค้าเทศบาลเมืองอุทัยธานี เพื่อเป็นพุทธบูชารำลึกถึงวันที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ หลังเทศนาโปรดพุทธมารดา ตามพุทธตำนาน ซึ่งหาชมได้ในวันตักบาตรเทโวอุทัยธานี แห่งเดียวในประเทศ ไทยและในโลก ด้วย โดยได้จัดขบวนรถแห่พุทธประวัติของแต่ละอำเภอ องค์การบริหารเทศบาล องค์การบริหารตำบล ทั้ง 8 อำเภอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี