‘หนุ่มเมืองจันท์’ดึงสติคดี‘ดิไอคอน’ ต้องแยก‘ข้อเท็จจริง กับ ความรู้สึก’
21 ตุลาคม 2567 สรกล อดุลยานนท์ หรือ “หนุ่มเมืองจันท์” นักคิด-นักเขียน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หนุ่มเมืองจันท์” แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” ดังนี้...
ตอนนี้ข่าว “บอสพอล” เริ่มไปไกลมาก
จนต้องตั้งสตินิดนึงว่าแต่ละเรื่องราวมี “ความเป็นไปได้” แค่ไหน
“พอล” นั้นคง “ผิด” แน่ๆ
แต่ “ผิด” แค่ไหน ระดับไหน
ผู้ต้องหาคนอื่นๆก็เช่นกัน
เรื่องนี้เราคงต้องแยกระหว่าง “ข้อเท็จจริง” กับ “ความรู้สึก”
ก่อนอื่น ต้องยอมรับว่าข่าวนี้ทำให้คนติดตามข่าวรู้สึกโกรธแค้น ไม่พอใจ เพราะมีคนฆ่าตัวตายจากการโดนขายฝันให้ “เปิดบิล”
มีคนที่เอาเงินเก็บยามชรา กดบัตรเครดิต ฯลฯมาลงทุนด้วยคิดว่าจะเป็นรายได้แบบ Passive income ฯลฯ
ผมอ่านข่าวแล้วยังเศร้าเลยครับ
นอกจาก “ความโกรธ” แล้ว เรื่องราวของข่าวนี้ยังทำให้คนรู้สึก “หมั่นไส้” เยอะมาก
เพราะพฤติกรรมของ “บอส” ทั้งหลายที่ “อวดรวย” แบบไร้กาลเทศะ
ทำตัวเว่อวังอลังการ์ ทั้งรถ ทั้งนาฬิกา ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนม
เพื่อสร้างฝันให้คนฝันตาม
มันน่าหมั่นไส้จริงๆครับ
แต่กระแสตอนนี้ เป็นการผสม “ความรู้สึก“ โกรธ+หมั่นไส้ เข้าไปกับ “ข้อเท็จจริง“ ในข่าว
พอเราเกลียดใคร เรามักจะเชื่อข้อมูลที่ตรงกับความรู้สึกของเราเองง่าย
“การเมือง” เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
ถ้าเกลียดใคร คนนั้นทำอะไรก็เลวไปหมด
เคยมีกรณีศึกษาเรื่องหนึ่ง คือ คดี “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่กระแสความโกรธและความเกลียดแรงมากในช่วงที่เป็นข่าว
เพราะทำลายภาพพจน์การท่องเที่ยวไทยอย่างมาก
แต่จากเรื่องการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจีนกลายเป็นข้อหาหนักถึงขั้นอั้งยี่ ฟอกเงินฯลฯ
“บิ๊กโจ๊ก” ที่ยิ่งใหญ่มากในยุค “ลุงป้อม” เป็นคนดูแลคดีนี้
สุดท้ายศาลยกฟ้องทั้ง 3 ศาล
เหลือแค่ผิดพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว
“ทัวร์ศูนย์เหรียญ”นั้นผิดจริง และทำให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวไทยเสียหาย
แต่ระดับของความผิดไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกับข่าวในช่วงนั้น
คดี “ดิ ไอคอน” ในวันนี้ก็คล้ายกันในเรื่อง“ความรู้สึก+ข้อเท็จจริง”
จากคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “แชร์ลูกโซ่” เริ่มพัฒนาเป็น “ฉ้อโกง”
และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมๆกันนั้นรายละเอียดข่าวคนที่ถูกหลอกไปลงทุนใน “ดิ ไอคอน” ซึ่งเป็น “เรื่องจริง” ก็สะเทือนใจขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
“ความรู้สึก” กับ “ข้อเท็จจริง” เริ่มผสมผสานกัน
ถ้าข่าว “บอสพอล” เป็น ”ระเบิด”
ตอนนี้สะเก็ดระเบิดเริ่มกระจัดกระจายขยายวงจนควบคุมทิศทาง
และพัฒนาไปสู่เกม “การเมือง“ เรื่อง “เทวดา” บ้านป่า
ราวกับว่า “กรรมเก่า” จะเริ่มทำงาน
ล่าสุด ที่มีข่าวแฉเบื้องหลังคดีนี้
ตอนแรกก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะมีการเปิดตัวคนอยู่เบื้องหลัง “พอล” และจำนวนสมาชิกที่แท้จริง
แต่พอถึงขั้นจ่ายเงินใต้โต๊ะเป็น10,000 ล้านบาท
ชักเริ่มแปร่งๆ
เพราะถ้าใจนิ่งๆ และคิดโดยใช้ตรรกะระดับธรรมดาทั่วไป
“ความเป็นไปได้” ต่ำมากเลยครับ
ขนาดพนันออนไลน์ คอลล์เซ็นเตอร์หรือค้ายาเสพติดที่เป็นคดีที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
ธุรกิจที่ “ดำสนิท” เขายังไม่จ่ายใต้โต๊ะกันขนาดนี้เลย
คดีนี้ยังออก “เทาๆ” ไม่น่าจะจ่ายกันถึงหมื่นล้านแน่นอน
ที่สำคัญก็คือ ธุรกิจสีเทาหรือสีดำที่ยอมจ่ายใต้โต๊ะหมื่นล้าน ต้องมีกำไรเท่าไรถึงกล้าจ่ายใต้โต๊ะมากขนาดนี้
อย่างน้อยต้องมีกำไรไม่ต่ำกว่าแสนล้าน
ธุรกิจที่มีกำไรระดับนี้ต้องใหญ่มากกก
ระดับ ปตท.
“ดิ ไอคอน” ไม่น่าจะมีกำไรมากขนาดนั้น
หรือความซับซ้อนของการฟอกเงิน
มีข่าวว่า “บอสพอล“ เปลี่ยนเงินสดไปฟอกเป็นเงินดิจิทัลโดยใช้ “กลุ่มทุนจีนสีเทา” เป็นคนกลาง
การพูดถึง “จีนสีเทา” ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ซับซ้อนระดับอาชญากรรมข้ามชาติ
แต่เรื่องนี้มีเครื่องหมายคำถามเยอะทีเดียวครับ
หรือการโอนเงิน 8,000 กว่าล้าน เป็นเงินดิจิทัลก่อนถูกจับ
คนในวงการก็มีการตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้เช่นกัน
สื่อหลายสำนักจึงทั้งรายงานข่าวและตรวจสอบข่าวนี้ด้วย
ครับ ข่าวกระแสแรงๆแบบนี้ต้องใช้หลักกาลามสูตรมากๆ
ประเมินความเป็นไปได้ดีๆ
อย่าเชื่ออะไรเร็วเกินไปครับ
ในวันที่โซเชียลมีเดียทรงพลังมากอย่างในวันนี้ทำให้สื่อทำงานยากขึ้น
น่าเห็นใจมากครับ
เพราะข่าวมาทุกทิศทาง
กรณี “ดิ ไอคอน” นั้น “ผิด” แน่นอน
“ผิด” คือ “ผิด”
แต่ “ระดับ” ของ “ความผิด” ต้องยืนอยู่บน “ข้อเท็จจริง”
อย่ารีบโดยไม่ประเมินน้ำหนักของความผิด
เราต้องระวังอย่าให้ “เสียง” ของ “ความรู้สึก” ทำให้ “หลักการ” ของการเป็น “สื่อ” สูญเสียไป
ถ้าหลักการมั่นคง
เราจะไม่สั่นไหว
ถือเป็นการตั้งข้อสังเกต
ตามประสานักข่าวเก่าครับ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี