21 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายจิรภัทร ชูจันทร์ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอเกาะสมุย ว่าได้รับแจ้งจากนายสมชาติ รุจิระยรรยง ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่พบเต่าตนุลอยมาติดบริเวณชายหาดเขาแหลมใหญ่ จึงได้นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยนายเชาวลิต เพชรน้อย ประมงอำเภอเกาะสมุยเดินทางไปตรวจสอบ

พบชาวบ้านกำลังมุงดูเตาตนุตัวดังกล่าวที่ชาวบ้านโดยนายสมชาติ รุจิระยรรยง ได้นำเต่าไว้ในเรือแคนูสีขาวฟ้า จากการตรวจสอบตามตัวเต่าตนุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่พบบาดแผล หรือรอยที่ทำให้เต่าตนุตัวนี้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าเต่าตนุคงจะป่วยทำให้ไม่สามารถดำน้ำเพื่อใช้ชีวิตหากินได้ตามธรรมชาติได้ จากการวัดลำตัวกว้าง 45 เซนติเมตร ความยาวของกระดองยาว 62 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม คาดว่าตัวตัวดังกล่าวอยู่ในช่วงวัยรุ่นยังไม่สามารถระบุเพศได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพรเข้าตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำเต่าตนุที่พบไปพักฟื้นเพื่อรอดูอาการที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสมุย และสวนเสืออควาเรี่ยม แอนด์ ไทเกอร์ ซู พร้อมประสานไปยังนางสาววัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร ให้ทราบถึงอาการของเต่าตนุตัวดังกล่าวก่อนเดินทางมาทำการรักษา และปล่อยคืนสู่ทะเลต่อไป

นายสมชาติ รุจิระยรรยง ชาวบ้านที่พบเต่าตนุกล่าวว่า ตนเองได้กวาดชายหาดทุกวันระหว่างนั้นพบกับเต่าตนุตัวดังกล่าวลอยมาติดชายหาด จึงใส่เรือพายออกไปปล่อยบริเวณแนวประการัง แต่เมื่อปล่อยแล้วจึงพบว่าเต่าตนุตัวดังกล่าวว่ายน้ำวนไม่สามารถดำน้ำเพื่อใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระหว่างนั้นได้มีเรือของชาวประมงที่ผ่านมาจะใช้สวิงจับเต่าตนุ ตนจึงตะโกนบอกไม่ให้จับเพราะกลัวว่าจะเอาไปทำเป็นอาหาร จึงได้พายเรือไปเอาเต่าขึ้นเรือจากนั้นได้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ฝากถึงชาวประมงหากพบเห็นเต่าทะเลทุกชนิดอย่าทำร้าย หากพบเจ็บป่วยให้นำมาส่งเจ้าหน้าที่เพื่อรักษา เพราะเต่าทะเลเป็นสัตว์ที่อายุยืนและหายากอาจสูญพันธุ์ได้