“ชุมชนบ้านปูลาโต๊ะบีซูมีทรัพยากรในพื้นที่อุดมสมบูรณ์มาก แต่คนในชุมชนขาดโอกาสในการสร้างรายได้ ขาดโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆ ไม่มีองค์กรไหนเข้ามาในพื้นที่เลย มีความยากจน แถมติดหนี้บุญคุณอีก บางคนมีหนี้สินตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังไม่หมด โจทย์คือทำอย่างไรให้เกิดรายได้กับคนในชุมชนที่เป็นแม่บ้าน โดยใช้ศักยภาพหรือทรัพยากรท้องถิ่นที่มีอยู่”
ผศ.ดร.ธมยันตี ประยูรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) บอกเล่าข้อค้นพบจากโครงการวิจัย “การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่ (Local Enterprises)บนฐานทรัพยากรพื้นถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่” ณ เกาะปูลาโต๊ะบีซู ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
โครงการนี้ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) มีโจทย์ในการทำงานคือ“ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชนโดยใช้ทุนทรัพยากรของชุมชนที่มีมาสร้างรายได้และลดหนี้สิน” ซึ่งบริบทพื้นที่ชุมชนบ้านปูลาโต๊ะบีซู ด้านหนึ่งติดอ่าวไทย ส่วนอีกด้านติดแม่น้ำตากใบระยะห่างจากฝั่งประมาณ500 เมตร ใช้การขนส่งทางเรือ บนเกาะไม่มีแหล่งน้ำจืด ผู้ชายประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านเป็นหลัก ส่วนกลุ่มผู้หญิงว่างงานเกือบร้อยละ 90 ส่วนอีกร้อยละ 10 ออกไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียหรือไปทำงานนอกพื้นที่
ข้อค้นพบดังกล่าวนำไปสู่ “การสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่” ด้วยการที่ “กลุ่มนักวิจัยรวมกลุ่มแม่บ้านชาวประมงที่มีหนี้และไม่มีหนี้สินไปต่อรองกับนายทุนที่ชาวบ้านนำสัตว์น้ำไปขาย” จากเดิมขายให้นายทุน 100%เป็นขอแบ่งขายให้นายทุนร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 จะให้กลุ่มแม่บ้านที่สนใจเข้าร่วมวิสาหกิจชุมชนนำมาแปรรูปเพื่อขายออนไลน์ โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรับซื้อปลาสดและนำไปสู่กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์
“การพูดคุยกับกลุ่มนายทุนถือเป็นจุดสำคัญในการทำงานในการแบ่งสัดส่วนปลา รวมทั้งสร้างไลน์การผลิต เช่น ฝ่ายแล่ปลา ฝ่ายแพ็กสินค้า ฝ่ายขายออนไลน์ เพื่อให้เกิดรายได้แต่ละข้อต่อตามสัดส่วนของการผลิต จากเดิมมีห่วงโซ่เดียวคือ ชาวประมงขายให้กับนายทุน นายทุนนำไปขายในพื้นที่ นักวิจัยจึงไปขอความร่วมมือกับนายทุนที่ชาวบ้านขายปลาให้เพื่อแบ่งปลามาแปรรูป เพราะระหว่างชาวบ้านกับนายทุนมีสัญญาใจและบุญคุณต่อกัน แม้จะปลดหนี้ได้แล้วชาวบ้านก็จะขายให้นายทุน เพราะหากไม่มีเงินทุน เขายังไปหยิบยืมนายทุนได้” ผศ.ดร.ธมยันตี กล่าว
ผศ.ดร.ธมยันตี เล่าต่อไปว่า หลังจากรับซื้อปลาสดจากชาวประมงแล้วกลุ่มแม่บ้านจะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ปลากระบอกแดดเดียว และปลากุเลาเค็ม ภายใต้การควบคุมคุณภาพจากนักวิจัยและการบูรณาการศาสตร์จากสาขาวิชาต่างๆ เช่น อาหารและโภชนาการวิศกรรมศาสตร์ การตลาด การทำแพ็กเกจจิ้ง โดยการขายออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “บ้านปูลาโต๊ะบีซู” ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “เกาะหัวใจบ้านปูลาโต๊ะบีซู”
โดยปลาเค็มของที่นี่จะใช้น้ำทะเลที่ผ่านกระบวนการกลั่นมาสำหรับการดองทำให้ไม่เค็มโดด เพราะผ่านการตกผลึกว่าต้องระดับที่เท่าไรถึงจะพอดี แล้วตากแดดในมุ้งป้องกันแมลง ขณะเดียวกัน ลมทะเลที่พัดเข้ามาก็มีส่วนทำให้รสชาติปลาดีขึ้น เน้นเรื่องการรักษามาตรฐานทั้งเรื่องคุณภาพสินค้า ราคา รสชาติ และความสะอาด คือสิ่งสำคัญที่ลูกค้าจะกลับมาซื้ออีก ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพจะโดนลดทอนคุณค่าไปด้วย ดังนั้น กลุ่มแม่บ้านทุกคนต้องช่วยกันคงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน
ด้าน รูฮานี ยูโซ๊ะ (กะนี) นวัตกรชุมชนในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเกาะหัวใจเกื้อกูล กล่าวว่า งานวิจัยเข้ามายกระดับวิถีชีวิตของกลุ่มแม่บ้านให้ดีขึ้น จากที่ไม่มีงานทำ ปัจจุบันสามารถปลดหนี้สินและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยอาจารย์นักวิจัยเข้ามา “เปลี่ยนวิธีคิด” จากเดิมที่เมื่อได้ปลามาจะขายทันทีซึ่งได้ราคาไม่สูงมากนัก แล้วมีปลาบางส่วนที่ยังขายไม่ได้ เพราะชุมชนเป็นพื้นที่ห่างไกล ผู้หญิงก็เป็นแม่บ้านไม่ได้ออกไปหางานทำข้างนอก
“อาจารย์แนะนำให้รวมกลุ่มแม่บ้านแล้วนำปลาบางส่วนมาแปรรูปโดยใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวบ้านบวกกับงานวิจัยเข้ามาใช้ในขั้นตอนการผลิตและแปรรูป แล้วขายตามช่องทางต่างๆ เช่น Facebook, TikTok มีลูกค้าที่ให้ความสนใจทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น” รูฮานี กล่าว
ปัจจุบัน ชุมชนบ้านปูลาโต๊ะบีซู เกิดการสร้างงานและพัฒนาผู้ประกอบการ จำนวน 25 กลุ่ม ครอบคลุม 39 ครัวเรือน หนี้สินครัวเรือนลดลงร้อยละ 5 กระจายรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เปลี่ยนจากนายทุนเป็นการเกื้อกูลในพื้นที่ รวมทั้งปลูกฝังค่านิยมร่วมแบ่งปันผลประโยชน์เกื้อกูลและปลูกจิตสำนักรักถิ่น!!!
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี