แม่วัย 64 ปีข้าราชการครูเกษียณวอนชุมชนให้โอกาสลูกชายป่วยคลั่งยาบ้า ทำกรงขังเตรียมรอรับลูกออกจากโรงพยาบาลแล้วจะรักษาลูกในกรงขังเอง เผยรักลูก เป็นห่วงลูกมากไม่อยากให้ไปอยู่ที่อื่นเพราะไม่ได้เห็นหน้า แต่หากเกินกำลังเอาไม่อยู่จะยอมให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน

วันที่ 5 พ.ย.67 กรณีนางสารภี (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แบ่งพื้นที่ภายในบ้านทำกรงลักษณะเหมือนกรงขังของสถานีตำรวจซึ่งในห้องขังนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งกล้องวงจรปิด ห้องน้ำสะอาดเพื่อรอรับการกลับมาของนายปุ๊ป ลูกชายวัย 42 ปีที่เจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากคลั่งยาบ้าอย่างหนัก จนแม่ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว

นางสารภี กล่าวว่า ลูกชายเสพยาบ้าตั้งแต่อายุ 16 ปี เคยพาไปบำบัดมาโดยตลอด แต่ลูกชายเลิกยาไม่ได้ หนำซ้ำช่วงหลังยังติดพนันทางออนไลน์ ขอเงินเอาไปเติมเงินในโทรศัพท์และไปซื้อยาบ้ามาเสพวันละ 300-500 บาท จนทำให้เงินที่จะใช้ภายในครอบครัวขาดสภาพคล่อง เพราะเงินเดือนบำนาญเหลือเพียง 4,000-5,000 บาทเท่านั้น เพราะสามีได้เสียชีวิตไปแล้ว

นางสารภี กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ลงทุนสร้างกรงหมดไปกว่า 12,000 บาทกะว่าจะให้ลูกไปอยู่ในกรง โดยมีแม่คอยให้ข้าว ให้ยาลูกกิน หวังจะไม่ให้ชาวบ้านต้องกังวนใจที่ลูกเราคลั่งยาบ้า โดยหมอให้ไปรับตัวในวันที่ 6 พ.ย.นี้ แต่ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่สบายใจ และเจ้าหน้าที่จะให้มีการประชาคมหมู่บ้านว่าจะให้อยู่หรือไม่เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเอาอยู่

นางสารภี กล่าวยอมรับว่ารักลูก เป็นห่วงลูกมากไม่อยากให้ลูกไปอยู่ที่อื่นเพราะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ดูแลด้วยตัวเองเกรงว่าลูกจะอยู่ลำบาก ส่วนหนึ่งก็อยากให้ชุมชนให้โอกาสให้ตนดูแลลูกไปก่อน หากเกินกำลังในครั้งนี้ตนก็จะยอมให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ด้านนางสำเนียง อายุ 49 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านบอกว่า รู้ข่าวมานานเรื่องนายปุ๊ป เสพยาบ้าและรู้ว่าเคยคลั่งหลายครั้ง ยอมรับว่าชาวบ้านผวาเกรงจะได้รับอันตราย แต่หากแม่มีมาตรการดังกล่าว ควรจะให้โอกาส - 003