แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์!!! ตรวจพบ"เด็กแฝดตาสีฟ้า"จอประสาทหูเสื่อม ทางรพ.นครพนมส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นแล้ว ขณะที่แม่เผยอยากให้ลูกสาวได้ยินเสียง มีความหวัง 50/50 ขณะที่ยอดบริจาคครึ่งล้าน รับปผากจะใช้เงินให้ตรงกับเจตนาผู้ใจบุญ
มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเด็กหญิงฝาแฝด วัย 9 ขวบ น้องแก้ม-เด็กหญิง นารินทร์ เยียวยา คนพี่ที่มีดวงตาเป็นสีฟ้าทั้งสองข้าง และ น้องกิ๊ฟ-เด็กหญิงนารา เยียวยา โดยทั้งคู่มีนัยน์ตาแปลกจากเด็กทั่วไป คือมีสีฟ้าคล้ายหุ่นยนต์มองเห็นได้ปกติ แต่พิการทางการได้ยิน ทำให้พี่น้องฝาแฝดคู่นี้ไม่สามารถพูดได้ ประกอบกับครอบครัวมีฐานะยากจน โดยผู้เป็นแม่ชื่อนางคำ จันวิพอน อายุ 42 ปี สัญชาติลาว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หลังจากเลิกรากับสามี ได้หอบลูกมารับจ้างขายของกับพี่สาวที่มีสามีคนไทย ที่ตลาดสดบ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ส่วนสาเหตุดวงตาสีฟ้า แพทย์ชี้เป็นพันธุกรรม เนื่องจากแม่เด็กเองก็เป็นฝาแฝดเช่นกัน
หลังข่าวออกเผยแพร่ได้มีหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้ใจบุญ รวมถึงผู้ใหญ่ใจดี ต่างติดต่อให้การช่วยเหลือทุกด้าน และจะบริจาคเครื่องช่วยฟังเสียง ในส่วนการตรวจรักษา มีการส่งตัวไปตรวจอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลนครพนม เพื่อหาแนวทางดูแลรักษาเกี่ยวกับปัญหาการได้ยิน จะได้ส่งผลดีต่อการพัฒนาชีวิต และการศึกษาในอนาคต พร้อมกันนี้ได้เปิดบัญชีรับบริจาคผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.ธาตุพนม ชื่อบัญชีนี้เพื่อช่วยเหลือเด็กฝาแฝดดวงตาสีฟ้า เลข 1973592323 ประเภทบัญชีออมทรัพย์ หรือสอบถามรายละเอียดโดยตรงโทร 065-598-1182 ซึ่งเป็นมือถือของนางคำแม่เด็ก
ล่าสุด วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 นางคำได้พาลูกสาวฝาแฝดน้องแก้มและน้องกิ๊ฟ เดินทางด้วยรถยนต์เทศบาลตำบลฝั่งแดง มายังรพ.นครพนม เพื่อพบแพทย์แผนกหู ตา คอ จมูก ขณะรอเจ้าหน้าที่อยู่หน้าโรงพยาบาล สองพี่น้องก็กอดตุ๊กตาน้องหมี ลักษณะมีความร่าเริงแจ่มใส โดยเฉพาะน้องกิ๊ฟแฝดผู้น้องจะมีความตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้พูดคุยภาษามือกับคุณแม่ ว่า อยากได้เครื่องช่วยฟังมากที่สุด ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้น 2 นั่งรอเรียกชื่อเข้าตรวจสายตาตามขั้นตอน ซึ่งผลตรวจออกมาพบว่า สายตาปกติทุกอย่าง นัยน์ตาเปลี่ยนสีจากพันธุกรรม ต้องมีการตรวจสังเกตการเปลี่ยนแปลงทุก 1 ปีเป็นประจำ เบื้องต้นอาจจะต้องตัดแว่นเพื่อถนอมดวงตา แต่ก็ขึ้นอยู่ความพร้อมของเด็กทั้งคู่
ต่อจากนั้นก็ย้ายมาแผนกหู เพื่อตรวจการได้ยินเสียง ผลวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่าเด็กแฝดคู่นี้ จอประสาทหูเสื่อม ทั้งนี้ รพ.นครพนมมีอุปกรณ์ในการตรวจอย่างละเอียดไม่ครบถ้วน จึงส่งต่อไปยัง รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น โดยดำเนินการออกหนังสือส่งตัวให้ ซึ่งหนังสือฉบับนี้มีผลถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 67 ทั้งนี้ แม่ของเด็กแฝดจะเดินทางไปวันไหนก็ได้ภายในวันที่กำหนดไว้
นางคำ จันวิพอน ได้เปิดเผยหลังจากลูกสาวตรวจเสร็จแล้วว่า เคยพาลูกไปตรวจที่รพ.ศรีนครินทร์มาแล้ว ตอนนั้นน้องอายุได้ประมาณ 2-3 ขวบ เพราะสงสัยว่าทำไมลูกทั้งสอง ไม่ได้ยินเสียงที่ตนพูด แพทย์ก็บอกว่าประสาทหูเสื่อมต้องรักษาต่อเนื่อง แต่ตนฐานะยากจนจึงไม่ได้พาน้องไปตรวจอีกเลย ถึงตอนนี้รวมเป็นเวลา 6 ปี สิ่งที่ตนต้องการมากที่สุด คือ อยากให้หูลูกสาวได้ยินเสียง โดยคาดหวังไว้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
ล่าสุด มีการตรวจสอบบัญชีที่เปิดขอรับความช่วยเหลือ พบว่า มีผู้ใจบุญโอนเงินบริจาคให้มาแล้ว 521,900 บาท (ห้าแสนสองหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยบาทถ้วน) ซึ่งบัญชีดังกล่าวมีชื่อผู้เปิดร่วม 3 คน โดยการเบิกถอนต้องใช้เฉพาะนำไปรักษาน้องทั้งสองเท่านั้น ทั้งนี้การเดินทางไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ต้องมีการหารือให้ชัดเจน และให้ตรงกับเจตนาของผู้บริจาคมากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี