มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) นำโดย วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน วิทยาลัยนานาชาติ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม พร้อมด้วยทางสายงานกิจการนักศึกษา ร่วมจัดกิจกรรมกับ “โคตรคูล Campus” ครั้งที่ 1 โดยมี 3 ผู้บริหารโคตรคูล ได้แก่ โอ๊ต-ปราโมทย์, อาร์ต-มารุต และ อุล-ภาคภูมิ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาแบบ Exclusive ในเส้นทางสู่ความสำเร็จของสายงานคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในด้านต่างๆ ณ ห้องประชุมสนม สุทธิพิทักษ์ และ ศูนย์กีฬา (อาคารสุทธิเกตุ) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับกิจกรรมของงาน “โคตรคูล Campus” ครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก ได้แก่ ช่วงเช้าเริ่มต้นด้วยการ Talk กับ พี่โอ๊ต ปราโมทย์ โดยมี น้องตังเม หรือ นางสาววรรณิกา ธุสาวุฒิ นักศึกษาวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน รับหน้าที่เป็นพิธีกร โดยภายในงานบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักศึกษาจากวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน วิทยาลัยนานาชาติ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม โดยทาง ผศ. ดร.ศิริเดช คำสุพรหม รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ เป็นผู้ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกเพื่อเป็นการขอบคุณ
ส่วนช่วงบ่ายเปลี่ยนบรรยากาศเป็นโซนกิจกรรมสุดสนุก มีไฮไลต์อยู่ที่บูธ "ร่อนเรซูเม่" ให้นักศึกษาที่สนใจร่วมงานกับบริษัท โคตรคูล จำกัด ได้ยื่นใบสมัครทั้งในส่วนของการฝึกงานและการทำงานจริง นอกจากนี้ยังมีบูธ "จีบหนูหน่อย" เกมชิงรางวัล และคอนเสิร์ตจากโคตรคูล Oat & Friends โดยมีศิลปินรับเชิญ ได้แก่ วง V3RSE และ MONICA และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินรับเชิญชื่อดัง "ป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง" ที่มาร่วมสร้างความสนุกสนาน โดยตลอดทั้งงานมีเครื่องดื่มน้ำวิตามิน C-Vitt ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน แจกให้นักศึกษาได้เปล่งเสียงร้องตามอย่างชุ่มฉ่ำแบบไม่อั้น
สำหรับเส้นทางความสำเร็จของ บริษัท โคตรคูล จำกัด “โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน" แชร์ประสบการณ์ว่า เริ่มต้นจากพนักงานเพียง 5 คนเท่านั้น ก่อนจะเติบโตขึ้นเป็นเกือบ 60 คน ภายในระยะเวลา 6-7 ปี เพราะบริษัทไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผลิตคอนเทนต์ลงใน YouTube เท่านั้น แต่ปัจจุบันบริษัทขยายขอบเขตสู่การผลิตรายการโทรทัศน์ เพลง ซิทคอม ตลอดจนรับผลิตรายการให้กับลูกค้าด้วย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การก้าวสู่ Production House ที่มั่นคงและยั่งยืนในวงการบันเทิง
โอ๊ต ปราโมทย์ ยังใช้หลักการบริหารงานแบบใกล้ชิดระหว่างผู้บังคับบัญชาและพนักงานในองค์กร เพราะการเป็นผู้บริหาร หรือ CEO ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่ความสามารถในการแก้ปัญหา แต่ต้องทำให้คนในบริษัทเกิดความเชื่อมั่นและเคารพ เช่นเดียวกับตลกชื่อดังอย่าง “แจ๊ส ชวนชื่น” หรือ “ตั๊ก บริบูรณ์” ที่มีบุคคลของความสนุกสนาน แค่เพียงเห็นหน้าคนทั่วไปก็จะเกิดอารมณ์ขันขึ้นทันที การสร้างภาพลักษณ์ CEO ก็เหมือนกัน คือต้องเป็นผู้นำที่สามารถสร้างความเชื่อถือให้กับพนักงาน ถึงแม้ว่าเหรียญอีกด้านจะดูเป็นคนอารมณ์ขันก็ตาม
“ทุก 6 เดือน เราจะมีการประเมินพนักงาน โดยผมจะคุยแบบตัวต่อตัวกับพนักงาน เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะโดยตรง เพราะเมื่อองค์กรใหญ่ขึ้นก็จะมีระบบซีเนียร์ มีหัวหน้า ซึ่งบางทีเราอาจจะไม่ถูกกัน คือในองค์กรย่อมมีความชอบและความไม่ชอบเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันพนักงานก็จะไม่กล้าพูดความจริงกับหัวหน้า การที่พนักงานได้คุยกับผมโดยตรงจะทำให้เห็นปัญหาที่แท้จริง ทำให้พนักงานพูดแบบไม่มีฟิลเตอร์ และกล้าบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรา” โอ๊ต ปราโมทย์ กล่าว
นอกจากนี้ โอ๊ต ปราโมทย์ ยังเล่าถึงความสำเร็จของ บริษัท โคตรคูล จำกัด ที่เกิดจากความใส่ใจในการสร้างและวางรากฐานของระบบ ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงและมีรายได้ที่เรียกได้ว่าไม่เดือดร้อนใคร แต่ด้วยความที่ตนเองกับบริษัทเป็นเนื้อเดียวกันจนคนทั่วไปแยกไม่ออก และถ้าหากวันหนึ่งตัวเองต้องสละเรือออกไปจากบริษัทเชื่อได้ว่าน่าจะเกิดการล่มสลาย เขาจึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัทเวิร์คพอยท์ เพื่อทำให้บริษัทมีระบบการบริหารจัดการหลังบ้านที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของบัญชีและ HR ซึ่งที่ผ่านบริษัท โคตรคูล ทำแบบบ้านๆ ไม่มีทั้งฝ่ายบุคคลและฝ่ายบัญชี ทำโดยการจ้าง Outsource บริหารเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งเขาถึงกับพูดติดตลกว่า "ไม่โดนโกงก็บุญแล้ว"
อย่างไรก็ตามการร่วมทุนกับบริษัทเวิร์คพอยท์ไม่เพียงแบ่งเบาภาระของเขา แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทได้ผลิตรายการที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งรายการออนไลน์ ออฟไลน์ คอนเสิร์ตใหญ่ และอีเวนต์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น "โคตรคูล Campus" ซึ่งเป็นกิจกรรมแรกที่ บริษัท โคตรคูล จำกัด จัดขึ้นในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ โดยมีกิจกรรม "ร่อนเรซูเม่" เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สมัครงาน ทั้งในรูปแบบการฝึกงานและการทำงานจริง กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่เข้าสู่บริษัท แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับวงการ โดยการให้โอกาสเด็กฝึกงานได้เรียนรู้การทำงานจริง คู่ขนานไปกับการปลูกฝังความภูมิใจในผลงาน ซึ่งจะนำไปสู่ประสิทธิภาพและความยั่งยืนในอนาคต แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้นั่งแท่นบริหารแล้วก็ตาม
สำหรับความสำเร็จของการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ “อาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์” กรรมการบริษัท โคตรคูล ได้แนะนำนักศึกษาที่กำลังจะเข้าสู่โลกการทำงานว่า ควรเริ่มต้นจากการทำคอนเทนต์ที่ตัวเองรักและสนุก โดยไม่ต้องคาดหวังผลตอบแทน เพราะเมื่อทำด้วยความชอบ รายได้จะตามมาเอง เหมือนอย่างตัวเขาเองที่สร้างรายได้จากการสตรีมเกม ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่เขาชื่นชอบ โดยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา งานในวงการบันเทิงซบเซา เขาจึงเริ่มสตรีมเกมจนมีผู้ชมหลักหมื่น และได้รับการติดต่อจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook และ ได้รับโอกาสเซ็นสัญญาเป็นสตรีมเมอร์ ซึ่งทำให้เขามีรายได้มากขึ้น
ขณะที่ “อุล-ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา” น้องเล็กสุดของบริษัทเสริมว่า นอกจากความชอบแล้ว ต้อง "หมกมุ่น" ฝึกฝน และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยในช่วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ เป็นช่วงเวลาทองที่ควรใช้ให้คุ้มค่า และอยากให้น้องๆ นักศึกษาได้ลองทำสิ่งต่างๆ หาตัวเองให้เจอ เพราะหากผิดพลาดยังมีอาจารย์ เพื่อน และครอบครัวคอยช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามกว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาต่างๆ มามากมาย โดยปัญหาคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องเผชิญ คือ "การถูกโซเชียลถาโถม" ไม่ว่าจะทำอะไร ย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งในช่วงแรกๆ เครียดมาก จนกระทั่งเรียนรู้ที่จะ "ภูมิใจในตัวเอง" และ "ทำงานให้ตัวเองพอใจเป็นอันดับแรก" โดยไม่ต้องพยายามทำให้คนอื่นพอใจ
ทั้งนี้ในช่วงท้าย “โอ๊ต-อาร์ต-อุล” ยังได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ซักถาม ในช่วง Q&A อย่างเป็นกันเอง โดยมีนักศึกษาให้ความสนใจและร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดย “โอ๊ต-อาร์ต-อุล” ยังฝากข้อคิดให้กับนักศึกษาที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกการทำงานว่า "ไม่จำเป็นต้องทำงานตรงสายที่เรียนมา ขอแค่มีความสามารถ และมีความตั้งใจ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้" และ "ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน" บางคนอาจมองว่า ความสำเร็จ คือ ชื่อเสียง เงินทอง แต่สำหรับบางคน ความสำเร็จ อาจเป็นเพียง "การได้ทำงานที่รัก" หรือ "การไม่เป็นภาระของใคร"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี