กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน “PMUC CONNECT” โดยเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ Deep Tech Startup และนักลงทุนกว่า 10 ราย รวมถึง stakeholders ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการภาคเอกชน ภาครัฐ มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และAccelerators ได้มา connect กัน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดมุมมองประสบการณ์ และร่วมกันเสนอแนวทางในการผลักดัน Deep Tech Startup ไทยให้สามารถเติบโตได้ในตลาดโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวว่า ที่ผ่านมา บพข.ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการทุนวิจัยของประเทศ ได้มุ่งสร้างระบบบริหารจัดการที่ดี เพื่อให้การวิจัยและพัฒนาของประเทศไปสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งจะมีกลไกต่างๆ ในการยกระดับสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทยที่มีศักยภาพ ทำให้เกิดธุรกิจใหม่หรืออุตสาหกรรมใหม่ ทั้งนี้ การทำงานในทุกแผนงาน จะเน้นย้ำใน 4 เรื่องหลักคือ 1.Connection ความเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อลดช่องว่างของการทำงานวิจัย 2.Collaboration การทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการนำวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง 3.การสร้าง Innovation Platform เพื่อเร่งและขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และ 4.การสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกันซึ่งมีความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในส่วนของ Deep Tech Startup ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และ ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ บพข. ในฐานะแกนหลักในการดำเนินงานและสนับสนุนทุนพัฒนา Deep Tech Startup ไทยในช่วง Pre Venture Building ผ่านการสร้างแพลตฟอร์มบ่มเพาะและพัฒนาธุรกิจที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึก(Deep Science and Technology Accelerator Platform) ซึ่งเปรียบเสมือน navigator ที่สำคัญในการส่งเสริมหน่วยงานวิจัยของภาครัฐและเอกชนในการสร้างระบบบริหารจัดการนวัตกรรม (Innovation Management System) และแพลตฟอร์มบ่มเพาะและพัฒนาธุรกิจ (Accelerator Platform) ในการช่วยเร่งพัฒนานวัตกรรม ลดความเสี่ยง เชื่อมโยงและปิดช่องว่างในการนำงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นในองค์ความรู้จากงานวิจัยไทยอันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการนำองค์ความรู้และผลงานวิจัยและนวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์ที่มีความสามารถในแข่งขันสูงในอนาคต
“ปัจจุบัน Deep Tech Startup ไทย มีศักยภาพและความสามารถมาก เพียงแต่ยังต้องการการบริหารจัดการและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งไม่ใช่การบริหารจัดการทั่วไป แต่เป็นการจัดการให้อยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า Accelerator Platform ที่จะเร่งทุกอย่างให้เร็วขึ้น และเป็น Navigator สำคัญที่จะนำพางานวิจัยจากห้องปฏิบัติการไปสู่เชิงพาณิชย์ สามารถขยายขนาดการผลิตในระดับอุตสาหกรรม มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และไปสู่ตลาดโลกได้ อย่างไรก็ดีใน 5 ปีที่ผ่านมา บพข. ได้สนับสนุนทุนไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท ในการสร้าง Accelerator Platform ให้กับหน่วยงานวิจัยและมหาวิทยาลัยจำนวน 10 แห่ง รวม 12 platforms และมี Deep Tech Startup ช่วง early stage มากกว่า 90 บริษัท ที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการดังกล่าว โดยมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมออกสู่ตลาดแล้วกว่า 90 รายการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 965 ล้านบาท”
รศ.ดร.ธงชัย กล่าวอีกว่า บพข. ยังมีเป้าหมายในการปั้น Deep Tech Startup ไทยเข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยยังประสบปัญหาเรื่องความเข้าใจในการขับเคลื่อน Accelerator Platform เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน บพข. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เป็น Accelerators พัฒนาโปรแกรมใหม่ๆ เข้าไปเสริม เช่น โปรแกรม Top Research Executive ที่จะช่วยให้บุคลากรที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของหน่วยวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบนิเวศนวัตกรรมให้เอื้อต่อการทำวิจัยทั้งการวิจัยพื้นฐาน การวิจัยประยุกต์และการวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการพัฒนา CTO หรือผู้บริหารสูงสุดด้านเทคโนโลยี สำหรับบุคลากรวิจัยที่มีผลงานที่น่าสนใจ จดสิทธิบัตรแล้วและต้องการ Spin off จากหน่วยงานวิจัยหรือมหาวิทยาลัยอีกด้วย
สำหรับภายในงาน “PMUC CONNECT” มี Deep Tech Startup ไทยที่น่าสนใจ ที่เติบโตจากการบ่มเพาะธุรกิจโดย Accelerators ภายใต้การสนับสนุน ของ บพข. มาร่วมแชร์ประสบการณ์ในการพัฒนาธุรกิจโดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึกจนเข้าสู่ตลาดได้สำเร็จ อาทิ บริษัท แนบโซลูท จำกัด สตาร์ทอัพด้านไบโอเทค ที่บ่มเพาะโดย CU Innovation Hub ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเทคโนโลยี HyaSphereX (ชื่อเดิม Hy-N) ซึ่งเป็นนวัตกรรมไบโอพอลิเมอร์ ระบบนำส่งสารสำคัญรูปแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวชสำอาง ยาและวัคซีน โดยเทคโนโลยี HyaSphereX ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ BSB Innovation Award 2024 ในหัวข้อ “Most Innovative Raw Material” ประเภท Functional Ingredients ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนา “PMUC x Accel: Synergy for Thailand’s Next Chapter” ซึ่งมี 3 ตัวแทน Accelerator ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บพข. ได้แก่ รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล จาก บพข. รศ.ดร.สุขกิจ ยะโสธรศรีกุล จาก OTAP มหาวิทยาลัยนเรศวร อาจารย์พงศ์วราวุฑฒิ หมื่นยุทธิ จาก SUT Horizon มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และคุณวีระวัฒน์ รุ่งวัฒนะกิจ จาก iNT มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันแชร์ประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับ บพข. ในการขับเคลื่อนสตาร์ทอัพโดยมีใจความสำคัญว่า การดำเนินการ acceleration platform นั้นมีความท้าทายอย่างยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากระบวนการเร่งพัฒนาธุรกิจของแพลตฟอร์มให้มีศักยภาพที่ดีในการพัฒนาสตาร์ทอัพ ควบคู่ไปกับการดำเนินปิดช่องว่างในเรื่องเฉพาะต่างๆ เช่นการพัฒนาโรงงานต้นแบบ เป็นต้น โดยทุกท่านได้สะท้อนถึงการทำงานที่ดีร่วมกับ บพข.ทั้งในมิติของบพข.กับ accelerator และมิติของ accelerator ด้วยกันเอง โดยมีจุดมุ่งหวังเดียวกันคือการนำงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และ บพข. ได้ทำหน้าที่ส่งเสริม เชื่อมโยง และเป็นคู่คิดให้กับ accelerator แต่ละแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อ
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี