เทศบาลตำบลลำปลายมาศ จัดพิธีผูกเสี่ยวรักศรัทธา นำส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียน ที่รักกันและคู่ขัดแย้งกัน มาผูกเสี่ยวเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคีกัน ลดปัญหาการทะเลาะวิวาทกัน และลดการเกิดข้อขัดแย้งกัน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.67 ที่บริเวณโดม หลังอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลลำปลายมาศ ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาธิการในสภาผู้แทนราษฎรไทย ในฐานะประธานมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) เป็นประธานการจัดพิธี ‘ผูกเสี่ยวรักศรัทธา’ ซึ่งเทศบาลตำบลลำปลายมาศ จัดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในงานมหกรรมของดีลำปลายมาศ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.2567 โดยมีนายศักดิ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย, พันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ, นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ นายกเทศมนตรีตำบลลำปลายมาศ, สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนและนักเรียน ที่มาร่วมผูกเสี่ยวอีกกว่า 100 คู่ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
โดยก่อนเริ่มพิธี ได้มีการให้คู่ผูกเสี่ยว ที่มีอาวุโสสุดกว่าเพื่อน จุดเทียนชัยบนยอดพานบายศรี หรือจุดเทียนที่ปักไว้ยอดขันหมากเบ็ง แต่ทว่าพานบายศรี หรือยอดขันหมากเบ็ง นั้นมีความสูงกว่า 1 เมตร และยังวางอยู่บนโต๊ะอีกจึงทำให้ยอดเทียนบนพานบายศรีมีความสูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร จึงต้องนำเก้าอี้มาขึ้นยืนจุดเทียนชัย แต่ก็จุดไม่ถึง จำเป็นต้องโน้มพานบายศรีลงมาจึงสามารถจุดเทียนชัยได้ ระหว่างนั้นทำให้ผู้คนที่มาร่วมพิธีผูกเสี่ยว ถึงกับลุ้นกลัวว่าพานบายศรีจะหักลงมาแต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
จากนั้น หมอสู่ขวัญ เจ้าพิธีกรรมได้ทำพิธีสวดบายศรีสู่ขวัญ และทำพิธีเฮียกขวัญ หรือการเรียกขวัญ โดยมีผู้ที่จะทำการผูกเสี่ยว นั่งห้อมล้อม หลังจากนั้นหมอสู่ขวัญ และนายโสภณ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ จะนำด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อไม้ข้อมือให้กับประชาชนและนักเรียนที่ทั้งกว่า 100 คู่ ที่มาร่วมพิธีกรรมการผูกเสี่ยว ก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันดื่มน้ำสาบาน แสดงตนความเป็นเสี่ยว และสัญญาว่าจะรัก จะช่วยเหลือดูแลกันซึ่งกันและกัน ตามเจตนารมณ์ของการผูกเสี่ยว ซึ่งยังได้มีการมอบประกาศนียบัตรความเป็นเสี่ยว ให้กับผู้ที่มาผูกเสี่ยวทั้งกว่า 100 คู่อีกด้วย
นายโสภณ ซารัมย์ กล่าวว่า ประเพณีผูกเสี่ยว หรือพิธีผูกเสี่ยว ถือเป็นประเพณีที่เก่าแก่ และดีงามพิธีหนึ่งของชาวอีสาน ซึ่งได้มีการประพฤติปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน โดยเสี่ยวเป็นภาษาอีสาน หรือภาษาลาว ส่วนภาษาเขมรเรียกว่า เกลอ ภาษาไทยเรียกว่าเพื่อน หรือสหาย ที่มีความหมายว่ามิตรแท้ เพื่อนแท้ หรือเพื่อนตาย ซึ่งมีความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อกัน มีความผูกพันทางด้านจิตใจกันอย่างจริงใจและเต็มใจ และไม่มีอำนาจใดๆ จะมาพรากให้จากกันได้แม้แต่ความตาย
ทั้งนี้ ความผูกพันของเสี่ยวนี้ไม่มีเฉพาะกับเสี่ยวเท่านั้น หากมีความหมายผูกพันเชื่อมโยงไปถึงครอบครัว ญาติ พี่น้อง และหมู่บ้านของเสี่ยวด้วย ซึ่งการผูกเสี่ยวนั้น เสมือนเป็นการผูกพันสร้างมิตรภาพระหว่างกัน มีเพื่อนที่มีความรัก ความจริงใจ ความเข้าใจต่อกันเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ตัวของเสี่ยว ครอบครัวต่อครอบครัว หมู่บ้านต่อหมู่บ้าน หรือ อำเภอต่ออำเภอ ความรักความเข้าใจนี้จะช่วยให้บุคคลในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขฉันท์พี่น้อง สงเคราะห์เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน การผูกเสี่ยวจึงเท่ากับเป็นการสร้างสรรค์ ความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคีระหว่างชนในหมู่บ้าน
นอกจากนี้ ยังเป็นการรณรงค์ให้กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาได้ใช้การผูกเสี่ยวเป็นเครื่องมือ ในการสร้างความรัก คยามสามัคคีต่อกัน โดยการนำเด็กวัยรุ่นคนไหนที่เขามีปัญหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน มาปรับทำความเข้าใจกัน แล้วนำมาผูกเสี่ยวกัน เพื่อให้ได้มีความรักความสามัคคีกัน ก็จะสามารถลดปัญหาเรื่องการทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน ในชุมชนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี