นายอำเภอนำทีมบุกตรวจสอบสำนักสงฆ์ฝึกหูทิพย์-ตาทิพย์ สั่งห้ามสอนอย่างเด็ดขาด ด้านพระหัวหน้าที่พักฯ อ้างเป็นภาพเก่าเมื่อ 5 เดือนก่อน คนทำสึกไปแล้ว ตอนนี้สั่งให้หยุดทำทุกกิจกรรม เหลือเพียงการปฏิบัติธรรมหน้าโลงศพที่มีผู้ถวายเพื่อฝึกจิต ขณะที่เจ้าหน้าที่แนะให้เปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ พร้อมขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ให้ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องตั้งโลงศพ
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่ นายวรรธน์ ฉายอภิรักษ์ นายอำเภอภาณุวรรณลักษบุรี พร้อมด้วยสำนักพุทธ บ้านพักเด็กจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสลกบาตร แอดมินเพจ กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ สำนักงานสาธารณสุข เจ้าคณะตำบล ผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พบว่าภายในสำนักมีพื้นที่จำนวน 92 ไร่ มีพระสงฆ์ 4 รูป แม่ชี จำนวน 4 คน ไม่พบเด็กๆที่ปรากฏในคลิป พบเพียงมีผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่ในศาลาจำนวน 3 คน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โผล่อีกลัทธิประหลาด! ฝึกเรียนหูทิพย์-ตาทิพย์ นำศพใส่โลงมาประกอบกิจกรรม)
ทางด้าน ”พระปราโมธ สุจิธนธัมโม“ หัวหน้าที่พักสงฆ์ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้อย่างละเอียด โดยกล่าวว่า จากที่มีประเด็นเรื่องร้องเรียน การสอน ตาทิพย์-หูทิพย์ เป็นภาพที่ได้มีผู้ปฏิบัติธรรมจากต่างจังหวัด มาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ได้ถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ไว้ลงในโซเชียลประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา หลังได้ทราบเรื่องจึงได้สั่งให้หยุดการสอนที่วัดทันที่ จนถึงปัจจุบันไม่มีการสอนแล้ว ส่วนที่ผู้ปฎิบัติธรรมหน้าโลงศพ มีศพเป็นกระดูก 6 โลง ส่วนที่ยังสริระสมบูรณ์มี 1 โลง เป็นของญาติโยมที่มาถวายร่างให้กับทางสำนักสงฆ์ ซึ่งมีเอกสารจากญาติอย่างถูกต้อง และบางร่างแล้วแต่ญาติจะให้เป็นครูใหญ่กี่ปี โดยมีตั้งแต่ 2-5 ปี เมื่อถึงกำหนดจะมารับไปบำเพ็ญกุศลและให้วัดจัดการเองบ้าง
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ทางวัดเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ โดยให้สอนกับพระและแม่ชี และประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ให้สอนกับเด็กและเยาวชน พร้อมให้ยุติการสอนตาทิพย์หูทิพย์เด็ดขาด โดยต้องจัดการขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ให้ถูกต้องตามระเบียบของสำนักพุทธ ส่วนเรื่องโลงและศพจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยทางอำเภอเตรียมบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ. สุสานและฌาปนสถาน ซึ่งจากนี้อาจต้องมีโทษปรับตามกฎหมายเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ได้ทำบันทึกข้อตกลงเป็นรายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งลัด
พระปราโมธ สุจิธนธัมโม หัวหน้าที่พักสงฆ์ กล่าวว่า คลิปที่ปรากฏในข่าวนั้นเป็นของเก่า ตนไม่เคยสอนเรื่องตาทิพย์-หูทิพย์ น่าจะเป็นพระรุ่นเก่าซึ่งตนไม่ทราบเรื่องเนื่องจากเพิ่งมาจำวัดอยู่ที่นี่เพียง 2-3 ปี เท่านั้น ส่วนพระที่ ปรากฏอยู่ในคลิป ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว ออกพรรษาแล้วสึกไปแล้ว ส่วนกรณีศพผู้เสียชีวิตก็จะมีญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมถวายร่างให้ แล้วมีการทำหนังสือซึ่งได้รับอนุญาตจากญาติให้มาถวายร่างให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่ 2 ปี ซึ่งจะมี 4 ปีหรือ 5 ปีก็มี เมื่อถึงกำหนด ญาติเขาจะรับศพกลับไป ที่เหลืออยู่ตอนนี้จะมีแต่โครงกระดูกเฉยๆ ซึ่งตอนนี้ทางรองเจ้าคณะอำเภอ อนุญาตให้มีแค่โครงกระดูกได้และด้านทางนายอำเภอ ได้อนุญาตให้มีเพียงโลงทองตั้งอยู่ได้ จะทำให้เกิดความกลัว เป็นการฝึกจิต และทางรอง เจ้าคณะ อำเภอได้ร้องขอให้ฝึกเฉพาะผู้ใหญ่กับแม่ชีและพระซึ่งทางเราจะงดของเด็กไป งดสอนตาทิพย์ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ทุกที่ โดยทางหน่วยงานให้งดไม่ให้สอนก็จะงดไป ซึ่งจริงๆแล้วเป็นชาญขั้นแรก ส่วนเรื่องที่ เป็นความจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่จิตถ้าเป็นเด็ก เด็กเป็นจิตที่สะอาดอาจจะได้ผลส่วนผู้ใหญ่ผ่านอะไรมาเยอะชีวิตมาเยอะจิตไม่ใสเหมือนของเด็กดังนั้นในเมื่อทางผู้ใหญ่ขอร้องเราให้หยุดเราก็ต้องหยุดให้
พระครูสิทธิ วชิรธรรม รองเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี กล่าวว่า เรื่องความเชื่อของตาทิพย์หูทิพย์นั้นขึ้นอยู่ที่ครูบาอาจารย์ของแต่ละคน ส่วนการพิจารณาศพหรือเรียกว่าอสุภมีมาตั้งแต่อดีดในพระไตรปีฎกแล้ว ซึ่งก็ไม่นิยมให้สอนกัน ส่วนการมาปฏิบัติกับเด็กให้พิจารณาศพเป็นเหตุที่ไม่ควร เพราะจิตของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่นเดียวก้บคนเราไม่ผ่านการอบรมก็อาจจะทำให้จิตเสียได้เด็กก็เช่นกัน ซึ่งก็ให้เปลี่ยนวิธีการสอนใหม่และให้ยุติวิธีที่ทำมาทั้งหมด ซึ่งแท้ที่จริงตามหลักพระพุทธศาสนาก็เป็นอีกทางหนึ่ง แต่ตนยังอาจจะศึกษาไม่ถึงก็ได้ อาจจะเป็นแนวของแต่ละคนที่สอน บางคนจิตโน้มน้าวจนหลุดก็มี โดยตนเคยเข้ามาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ 3-4 ครั้ง ซึ่งก็ไม่เคยเห็นเขาสอนกับตารู้แค่วิธีการสอนแบบนี้
นายพิพัฒน์ บุญคุ้มอยู่ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า หลังจากที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วกับทุกฝ่าย ก็ได้แจ้งให้สำนักสงฆ์ทราบว่าวิธีการสอนนั้นทำให้สังคมมองว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ ซึ่งภาพที่ออกสื่อนั้นเจ้าสำนักสงฆ์ แจ้งว่าเป็นภาพเก่าเอาไปลงโซเชียลในเพจ Facebook ที่ไม่ได้มีการใช้ต่อแล้ว ส่วนเรื่องศพก็แจ้งให้ดำเนินการตามระเบียบให้ถูกต้อง โดยสำนักสงฆ์ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ถูกต้องตั้งตามกฎหมาย ซึ่งได้จะได้ประสานพระผู้ใหญ่ที่อยู่จังหวัดพิจิตรที่ก่อตั้งทำให้ถูกต้อง โดยยังเป็นสำนักสงฆ์เถื่อนอยู่ตอนนี้
ขณะที่ลูกศิษย์วัดได้พาผู้สื่อข่าวและแอดมินเพจ กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ เดินเข้าไปดูบริเวณที่ใช้นั่งพิจารณาศพ ระหว่างทางที่เดินเกือบ 2 กิโลเมตร มีเศษของวัตถุ เทวรูป ศาลพระภูมิ ที่พังเสียหายอยู่ทั้งสองฝั่งข้างทาง และเป็นป่ารกทึบ โดยพาไปดูจุดที่เป็นโลงเปล่า และจุดที่มีศพของพระสงฆ์ที่เคยอยู่ในที่พักสงฆ์และถวายร่างเป็นครูใหญ่ให้ปฏิบัติธรรม
สิบเอกประจักษ์กฤษ สายทิพย์ แอดมินเพจฯ ขอทดลองนั่งสมาธิเพื่อสื่อสารกับสิ่งเร้นลับแต่ก็ไม่พบหรือเห็นสิ่งใด ซึ่งก็มองว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และหากทางสำนักสงฆ์สอนไปในทิศทางตามหลักพระพุทธศาสนาก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าบิดเบือนไปในทางที่งมงายชักชวนให้หลงใหลอันนี้อาจจะเป็นการหลอกลวงต้มตุ๋น ซึ่งก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด หากพบว่ามีความผิดก็ขอให้สั่งปิดสำนักสงฆ์แห่งนี้ถาวร ขณะที่บริเวณจุดที่เป็นต้นโพธิ์จากในภาพก่อนหน้าที่มีองค์คุณใหม่วางอยู่และใช้เป็นสถานที่นั่งสมาธิและประกอบพิธีกรรมนั้น พระสงฆ์ได้ให้ข้อมูลว่าเป็นจุดที่บรรดาญาติโยมนำเทวรูป และ ศาลพระภูมิที่พังชำรุดเสียหายมาทิ้งไว้ ซึ่งมองแล้วก็รกตาโดยปัจจุบันได้ตกแต่งให้สะอาดตามากขึ้นซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะมามานั่งสมาธิหรือทำกิจกรรมอะไร
นางรำพัน วงเวียน ลูกศิษย์สำนักสงฆ์ เล่าว่า เรื่องการมอบศพให้มาทำกิจกรรมปฏิบัติธรรมในวัดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นความต้องการของญาติผู้ตายซึ่งก็ทำอย่างถูกต้อง โดยบางรายไม่มีเงินฌาปนกิจศพก็จะให้ทางสำนักสงฆ์จัดการให้เลยหลังมอบร่างเป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว ส่วนศพของอดีตพระสงฆ์ที่ตั้งและพาทุกคนมาดูนี้ก็เป็นพระที่เคยอยู่ที่สำนักสงฆ์มาก่อนและร่วมก่อตั้งสำนักสงฆ์มาก่อน พอละสังขานก็นำร่างท่านไว้เป็นร่างอาจารย์ใหญ่เลย โดยผู้ที่มาปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์นั้นก็จะเริ่มจากการมานั่งสมาธิในช่วงกลางวัน และฝึกให้นั่งในช่วงกลางคืนโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเป็นการฝึกปฏิบัติจิตใจในการเผชิญความกลัวในสถานที่จริง ซึ่งผู้ที่มาปฏิบัติก็จะได้สัมผัสแตกต่างจากที่นั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อก่อนมีผู้มาปฏิบัติธรรมจากต่างๆจังหวัดเยอะ และในพื้นที่จะน้อย ตนเองไม่เคยฝึกนั่งต่อหน้าศพเพราะไม่เชื่อเพราะเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ไปปฏิบัติธรรมแบบอื่นแทน ส่วนเรื่องการฝึกตาทิพย์หูทิพย์ตนก็เห็นจากหลายสถานที่ก็ฝึกกันซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถเห็นสิ่งที่บังตาได้ ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็มีเด็กที่อื่นมาฝึกไม่ใช่เด็กที่นี่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี