ไส้เดือนตากแห้ง Soft Power Thailand ส่งขายแดนมังกร โกยเงินเข้าประเทศปีละกว่า 100 ล้านบาทผสมสมุนไพรปรุงเป็นยาชูกำลัง
อย่างที่ทราบกันดีและเป็นข่าวฮือฮาต่อเนื่องทุกปีว่า บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ชาวบ้านในชุมชนส่วนหนึ่งมีอาชีพที่ไม่เหมือนใคร หรืออาจเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในแต่ละฤดูเขาจะสร้างรายได้จากอาชีพแปลก คือแปรรูปไส้เดือน ตุ๊กแก และปลิงตากแห้ง ปีๆหนึ่งมีเงินหมุนเวียนสะพัด จากอาชีพเหล่านี้รวมกันแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ห้วงเดือนตุลาคมของทุกปี หลังน้ำลดในเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว สภาพอากาศเริ่มเย็นลง ถือว่าหมดฤดูการแปรรูปปลิงตากแห้ง ชาวบ้านตาลก็จะหันมาสร้างรายได้จากเก็บไส้เดือนตากแห้งต่อเลย เนื่องจากธรรมชาติหลังน้ำลด วิถีของไส้เดือนจะมีการอพยพเคลื่อนย้าย ไปอาศัยในที่ชุ่มชื้น โดยอาศัยในช่วงหมอกลงยามเช้าและช่วงกลางคืนเพื่อหาที่อยู่ใหม่ ชาวบ้านตาลจึงเดินป่าเก็บไส้เดือนในช่วงเช้า บางกลุ่มจะใช้ไฟส่องหาเก็บในเวลากลางคืนกัน
สอบถามชาวบ้านอาชีพปริศนา ระบุว่า หลังเก็บไส้เดือนดิน ที่ชาวบ้านเรียกว่า ไส้เดือนแดง กับไส้เดือนดำ โดยสีของไส้เดือนนั้นขึ้นกับสภาพพื้นดินที่อาศัยอยู่ ส่วนใหญ่สภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ใกล้แหล่งน้ำจะเป็นไส้เดือนดำตัวใหญ่ ช่วงอากาศเย็นสามารถเก็บได้วันละ 10 - 20 กิโลกรัมเมื่อนำไปขายตัวสดๆกับพ่อค้ารับซื้อ ตกราคากิโลกรัมละ 30 - 40 บาท ราคาถูกแพงแล้วแต่ขนาด ชาวบ้านกลุ่มนี้จะหาอย่างเดียว แต่บางกลุ่มนอกจากหาเองแล้ว ยังจะทำหน้าที่แปรรูปตากแห้งขายในราคากิโลกรัมละ 500 - 600 บาท
จากข้อมูลพบว่าแต่ละปีพื้นที่ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ส่งออกไส้เดือนแปรรูปตากแห้งปลายทางอยู่ประเทศจีน เพื่อนำไปผสมกับสมุนไพรตัวอื่นปรุงเป็นยาชูกำลัง ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ตันรายได้เฉพาะไส้เดือนตากแห้งประมาณปีละ 50 ล้านบาท ส่วนชาวบ้านมีรายได้วันละ 600-1,000 บาทต่อครอบครัว
สำหรับขั้นตอนการแปรรูป หลังชาวบ้านเก็บตัวสดมาแล้วจะมีการทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เพื่อนำไปแปรรูปชำแหละ ผ่าท้องเอาดินออก ภูมิปัญญาชาวบ้านจะใช้เหล็กแหลมเสียบชำแหละด้วยความชำนาญ ปัจจุบันได้คิดค้นเครื่องชำแหละผ่าไส้เดือนจำหน่ายเครื่องละประมาณ 20,000 บาททำให้เกิดความสะดวก สามารถแปรรูปได้เร็วขึ้นกว่าวิธีเดิม ปัจจุบันสามารถชำแหละแปรรูปเพิ่มได้ถึงวันละ 30 - 50 กิโลกรัม หลังชำแหละจะทำความสะอาดด้วย น้ำเปล่าอีกครั้ง รวมถึงแช่เปลือกไม้สมุนไพร หรือสารส้มเพื่อล้างเมือก เมื่อสะอาดจนเป็นที่พอใจ จะนำไปแผ่บนตะแกรงตากแดด 1-2 วัน บางรายพัฒนาทำตู้อบด้วยการก่อไฟรมควัน ก่อนจะนำไปชั่งน้ำหนักขายกิโลกรัมละ 500 - 600 บาทโดยมีพ่อค้าคนกลางรอรับซื้อ เพื่อส่งออกไปประเทศจีน ถือเป็นอาชีพแปลกที่สร้างรายได้มายาวนานกว่า 30 ปี ปัจจุบันไส้เดือนในพื้นที่เริ่มหายาก จึงมีการรับจากต่างจังหวัดเข้ามาแปรรูปอีกด้วย
ทั้งนี้ พื้นที่ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านปริศนาที่สร้างรายได้จากอาชีพแปลกหมุนเวียนตามฤดูกาลตลอดปี คือฤดูหนาวจะเก็บไส้เดือนแปรรูปขาย ฤดูร้อนจะจับตุ๊กแกแปรรูปขาย และช่วงฤดูฝนจะจับปลิงแปรรูปขาย สร้างรายได้หมุนเวียนปีละ 100-200 ล้านบาท สร้างงาน สร้างรายได้ครบวงจร คนในหมู่บ้านจึงไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น และยังเป็นรายได้หลักอีกอย่าง นอกจากทำการเกษตรด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี