เสียงปรบมือชื่นชมยังดังก้องเพื่อแสดงความยินดีให้กับ “นายภาณุสรณ์ เหมรัตน์ภูริดา” นักศึกษาชั้นปีที่ 2 หลักสูตรการบัญชียุคดิจิทัล วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ที่ขึ้นก้าวขึ้นรับใบประกาศเกียรติคุณ "นักศึกษาดีเด่นระดับประเทศ" สาขาสังคมศาสตร์ ประจำปี 2567 จากสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สสอท.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก
ซึ่งรางวัลนี้มอบให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเด่น มีผลงานทางวิชาการ และมีคุณธรรมจริยธรรม พร้อมกับเป็นเวทีแสดงพลังและความพร้อมของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในการผลิตคนรุ่นใหม่ให้เป็นบัณฑิตคุณภาพสูง ที่มีทักษะและความรู้เท่าทันเทคโนโลยีแห่งอนาคต และมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานยุค AI สอดคล้องกับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” เน้น “วิจัย สร้างนวัตกรรมดี ตรงความต้องการ” ของ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ซึ่งได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานและกล่าวแสดงความยินดีกับผู้รับรางวัลทุกท่านด้วยในงานนี้
จากครอบครัวสู่เส้นทางนักบัญชีสายเลือดใหม่
เส้นทางสู่ความสำเร็จของ “นายภาณุสรณ์” หรือ “แทน” เริ่มต้นจากการเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศของกิจการอสังหาริมทรัพย์ โดยภายใต้ร่มเงาของธุรกิจครอบครัวทำให้เขาได้มีโอกาสซึมซับทั้งคุณค่าของความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังเรื่องการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งตลอดทุกๆ ช่วงทำยื่นภาษี แทนจะได้รับของขวัญพิเศษที่มากกว่าสิ่งของเหมือนเด็กคนอื่น นั่นก็คือ คำสอนจากคุณพ่อคุณแม่ว่า "การเสียภาษีคือการช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า"
คำสอนนี้ได้หล่อหลอมให้เขาเติบโตมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้เขาเลือกศึกษาต่อสายอาชีพ ปวช. และ ปวส. ด้านการบัญชี โดยเขามองว่า “วิชาชีพบัญชี” เป็น “อาชีพที่สุจริต” ที่สามารถช่วยวางแผนอนาคตทางการเงิน ป้องกันการรั่วไหลของรายได้ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ
ด้วยความมุ่งมั่นและความหลงใหลในวิชาชีพบัญชี แทนสั่งสมประสบการณ์และได้เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชี “สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิริธร” เพื่อชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช. และ ปวส. ซึ่งจัดโดย วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยแทนเป็นตัวแทนจากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง ทำให้ได้รับทุนการศึกษา 100% จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
"ผมไม่เคยคิดเลยว่า เด็กอย่างผมจะมาได้ไกลขนาดนี้ ตอนนั้นผมรู้แค่ว่าทำในสิ่งที่ผมชอบและทำเต็มที่ในทุกๆ กิจกรรม แต่ในการช่วยเหลือผู้อื่นก็เหมือนกับการช่วยเหลือตัวเอง ทำให้เราได้ฝึกฝนสิ่งต่างๆ และเป็นบันไดนำพาเราสู่ความสำเร็จ" แทน กล่าว
DPU กับการบ่มเพาะ "โอกาส ศักยภาพและสังคม"
ก้าวแรกในรั้ว มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แทนได้พบกับ “ดร.สุพิชา ศรีสุคนธ์” อาจารย์ประจำหลักสูตรการบัญชี ที่เห็นแววจากผลงานและความประพฤติที่ดีของเขา จึงมุ่งส่งเสริมศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ โดยให้คำแนะนำ สนับสนุนการอบรมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน เช่น โปรแกรมบัญชี ภาษาอังกฤษ และจรรยาบรรณวิชาชีพ รวมถึงให้เข้าร่วมการแข่งขันต่างๆ ทางวิชาการระดับประเทศ ทั้งสภาวิชาชีพบัญชี และ สสอท. ซึ่งก็สามารถคว้ารางวัลมาครองได้ทั้งสองเวที
“ภาณุสรณ์เป็นนักศึกษาที่ Active ตั้งใจเรียน และมีความรับผิดชอบสูง เขาเป็น ผู้นำ ในกลุ่ม และมักจะเป็น แบบอย่างที่ดี ให้กับเพื่อนๆ เสมอ” ดร.สุพิชา ระบุ
ภาณุสรณ์ยังเป็นคนที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีวินัย ขยัน หมั่นเพียรและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ทำให้วิสัยทัศน์และสิ่งที่มุ่งหวังต่างๆ ที่วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี ปลูกฝังและให้ความสำคัญซึ่งนอกเหนือจากวิชาแล้ว ก็ต้องประกอบด้วยคุณธรรม จริยธรรมและจิตอาสา นั้นอัดแน่นอยู่ในตัวเขา
“วิทยาลัยเราเชื่อว่า คุณธรรม จริยธรรมและจิตอาสา สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคม และเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความรู้ความสามารถ” ดร.สุพิชา เผย
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งจรรยาบรรณของผู้สอบบัญชี วิทยาลัยเราอัปเดตให้นักศึกษาตลอดตั้งแต่ปี 1 นอกจากนี้ยังสอดแทรกศีลธรรม คุณงามความดี เรื่องของศีล 5 เป็นพื้นฐาน เพราะถ้าเราไม่มีศีล 5 กฎเกณฑ์ใดๆ ก็ไร้ประโยชน์ที่จะมาใช้กับเขา แต่ถ้าพื้นฐานเขาเป็นคนมีศีล ทุกอย่างจะตามมาเองอัตโนมัติ ทั้งวินัยในการเข้าเรียน อยู่กับเพื่อนให้เกียรติเพื่อน ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน การประสบสำเร็จในโลกยุคใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องของวิชาการอย่างเดียว นอกจากบัณฑิตจะมีคุณภาพก็ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความเอื้ออาทรต่อรุ่นพี่ รุ่นน้อง พ่อ แม่ ผู้มีพระคุณ ซึ่งจะส่งต่อเป็นคอนเนคชั่นที่ดี พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และนำมาซึ่งโอกาส”
ดร.สุพิชา ยังยกตัวอย่างถึงปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการขาดคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งสุดท้ายต้องลงเอยด้วยการติดคุก เพราะคนเราต่อให้เก่ง แต่ถ้าไม่ใช่คนดี ท้ายสุดชีวิตก็จบ
“ก้าวต่อไป” เพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่ดี
แม้จะประสบความสำเร็จคว้ารางวัลใหญ่มาแล้วถึง 2 รางวัล แต่แทนก็ยังคงถ่อมตัวและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง โดยมองว่ารางวัลที่ได้รับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความพยายาม และความตั้งใจของเขานั้นเดินทางมาถูกต้องแล้ว
“ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ผมมีเป้าหมายเพียงคือ อยากเรียนจบแล้วมีงานทำที่ดี มีรายได้ดี” แทน กล่าว
แต่หลังจากได้รับรางวัลและเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย เป้าหมายในชีวิตของแทนก็ขยับสูงขึ้น โดยปัจจุบันเขาวางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยการฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ก่อนจะก้าวสู่การเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) และไต่เต้าสู่ตำแหน่งสูงสุดในสายงานบัญชีอย่าง Chief Financial Officer หรือ CFO ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในสายงานบัญชี-การเงิน
นอกจากนี้แทนยังมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้ความสามารถที่สั่งสมมา ไปใช้ในการทำงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยตระหนักดีว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ ด้วยความขยัน ความอดทน และความซื่อสัตย์สุจริต
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ขอบคุณการสนับสนุนจากอาจารย์ และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เปิดโอกาสให้ผมและทำให้ผมมีโอกาสได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ผมจะตั้งใจศึกษาหาความรู้ และทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นในรูปแบบใดก็ตาม หรือแม้แต่การทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น" แทน กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี