“กาเฟอีน” เป็นสารในกาแฟที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่ทราบหรือไม่ว่ากาเฟอีนมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในน้ำได้ เช่น สัตว์น้ำขนาดเล็ก ซึ่งน้ำที่เกิดจากกระบวนการผลิตกาแฟทั้งในโรงงานและตามร้านกาแฟ ก็ล้วนมีสารชนิดนี้เจือปนอยู่ หากน้ำถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะโดยไม่มีการบำบัดเพื่อลดปริมาณสารกาเฟอีน ตัวอ่อนของสัตว์น้ำชนิดต่างๆ ทั้งปลา กุ้ง ปู รวมถึงสัตว์น้ำขนาดเล็ก อาจได้รับผลกระทบจากสารคาเฟอีนในระยะยาวได้
จึงเป็นที่มาของการนำ “กระบวนการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง (Photocatalysis)” มาช่วยลดปริมาณกาเฟอีนในน้ำจากโรงงานแปรรูปกาแฟหรือร้านกาแฟ ผลงานวิจัยการอัปไซเคิลกากกาแฟให้เป็นหมุดควอนตัมคาร์บอนเรืองแสงเพื่อบำบัดน้ำเสียกากกาแฟด้วยกระบวนการเร่งปฏิกิริยาเชิงแสง ของ รศ.ดร.ภาติญา เขมาชีวะกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
ร่วมกับ รศ.ดร.สุรวุฒิ ช่วงโชติ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องมือและวัสดุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และ ดร.รัตนา ม่วงโมรา โดยทีมผู้วิจัยได้ให้ข้อมูลว่ากระบวนการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง คือ การใช้แสงมาเป็นตัวกระตุ้นตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีและให้สารอนุมูลอิสระของไฮดรอกซิล (-OH) และซูเปอร์ออกไซด์แอนไอออน (O2 .-) เพื่อกำจัดมลพิษในน้ำ ซึ่งหนึ่งในตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงที่นิยมใช้งานด้านการบำบัดน้ำเสียก็คือ ไททาเนียมไดออกไซด์
โดยเมื่อไททาเนียมไดออกไซด์ได้รับการกระตุ้นด้วยแสงในช่วงคลื่นที่จำเพาะและเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยอิเล็กตรอน (-) จะรวมกับออกซิเจน และให้ซูเปอร์ออกไซด์แอนไอออน ขณะที่โฮลจะทำปฏิกิริยากับน้ำและให้สารอนุมูลอิสระของไฮดรอกซิล ซึ่งจะเกิดกระบวนการเคมีที่จะสลายสารมลพิษอินทรีย์ที่เจือปนอยู่ในน้ำ แต่แสงที่สามารถใช้กับไทเทเนียมไดออกไซด์ได้ คือ แสง UV ทำให้ระบบนี้อาจยังไม่จูงใจในการนำมาใช้กับการบำบัดน้ำเสียของโรงงานในปัจจุบันเท่าที่ควร
ดังนั้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ การทำให้ไทเทเนียมไดออกไซด์สามารถทำปฏิกิริยาภายใต้แสงที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ (Visible Light) แทนการใช้แสง UV โดยวิธีการที่เลือกใช้คือ “การเพิ่มหมุดควอนตัมคาร์บอนให้กับไททาเนียมไดออกไซด์” โดยหมุดควอนตัม หรือ “ควอนตัมดอท (quantum dot)” คือวัสดุขนาดเล็กระดับนาโน (เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 นาโนเมตร) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารกึ่งตัวนำ (semiconductor) ซึ่งสมบัติเชิงแสงสามารถเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนขนาดของวัสดุ
และมีคุณสมบัติในการปล่อยพลังงานในรูปแบบของแสงที่มีความยาวคลื่นต่างจากที่ดูดกลืนเข้าไปได้ จึงมีการนำไปใช้ในไดโอดเพื่อทำให้เกิดเป็นจุดสีและเป็นที่รู้จักกันในการสร้างเป็นจอแสดงผล เช่น จอ LED การเพิ่มหมุดควอนตัมคาร์บอนให้กับไททาเนียมไดออกไซด์จึงช่วยปรับแสงที่ได้รับในช่วงอื่นมาปล่อยในช่วงที่ไททาเนียมไดออกไซด์ทำงานได้
นอกจากนั้น หมุดควอนตัมคาร์บอนยังมีสมบัติเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงด้วยตัวเองที่ทำงานได้ภายใต้แสงในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองเห็น ดังนั้นตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ที่หมุดควอนตัมติดอยู่บนผิวของไทเทเนียมไดออกไซด์ได้จึงทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงในการบำบัดน้ำเสียได้โดยไม่จำเป็นต้องให้แสง UV ซึ่ง รศ.ดร.ภาติญา กล่าวว่า จากโจทย์ที่ต้องการบำบัดสารกาเฟอีนในน้ำที่เกิดจากการผลิตกาแฟ
ทีมวิจัยจึงเลือกที่จะผลิตหมุดควอนตัมคาร์บอน จาก “กากกาแฟ” ที่เป็นของเหลือทิ้งจากการแปรรูปกาแฟ หรือชงกาแฟอยู่แล้ว (ที่เรียกหมุดควอนตัมคาร์บอน เพราะมีโครงสร้างหลักเป็นวัสดุคาร์บอน) โดยนอกจากทีมวิจัยจะสามารถผลิตหมุดควอนตัมคาร์บอนจากกากกาแฟและนำไปติดอยู่บนผิวของไทเทเนียมไดออกไซด์ได้แล้ว ยังพัฒนาเทคนิคในการใช้งาน โดยนำไปเคลือบไว้บนผิวของผ้าใยแก้ว และนำผ้าใยแก้วไปขึงเพื่อให้น้ำเสียไหลผ่าน แทนวิธีการเดิมที่เป็นการใส่ลงไปในน้ำที่ต้องการบำบัดโดยตรง
“จากการทดลองในห้องทดลองที่ให้น้ำกาแฟที่เหลือจากการชงกาแฟไหลผ่านผ้าใยแก้วอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 12 ชั่วโมง พบว่าสีของน้ำจะมีความใสขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้ปริมาณกาเฟอีนในน้ำลดลงร้อยละ 80 ที่สำคัญ คือ การเคลือบไทเทเนียมไดออกไซด์บนผ้าใยแก้ว ทำให้ลดปริมาณไทเทเนียมไดออกไซด์และหมุดควอนตัมคาร์บอนที่ต้องใช้ เพราะผ้าใยแก้วที่ใช้แล้วสามารถนำไปล้างทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้อีก และแม้จะใช้ซ้ำถึง 5 ครั้ง ก็ยังคงประสิทธิภาพในการกำจัดสารกาเฟอีนได้เท่ากับการใช้ในครั้งแรก” รศ.ดร.ภาติญา กล่าว
สำหรับการนำ “ผ้าใยแก้วเคลือบตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงจากกากกาแฟ เพื่อลดสารกาเฟอีนและมลพิษอื่นๆ ในน้ำ” ชิ้นนี้ มาสู่การใช้งานจริงนั้น ทางผู้วิจัยกล่าวว่า เนื่องจากกฎหมายประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานเกี่ยวกับปริมาณกาเฟอีนในน้ำที่ถูกปล่อยออกสู่แหล่งน้ำ แต่ด้วยจุดเด่นของนวัตกรรมที่มีค่าวัสดุและต้นทุนการผลิตที่ไม่สูง เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน และทำงานได้ทันทีที่มีแสงแดด
จึงน่าจะเป็น “จุดขาย” ให้กับผู้ผลิตกาแฟหรือร้านกาแฟ ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี