วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ชวนเที่ยวเมืองลับแล หรือเมืองแม่หม้าย "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขตห้ามพูดโกหก" ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว ชมวัฒนธรรม 8 วิถีของเมืองลับแลระหว่าง 26-28 ธันวาคม 2567 นี้
วันที่ 25 พ.ย.67 นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้พาผู้สื่อข่าวพร้อมนักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำจำลองเมืองลับแล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขตห้ามพูดโกหก ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากตำนานสู่การสัมผัสได้จริง โดยนายเจษฎา ศรุติสุต นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ผู้สร้างบ้านแปงเมืองสร้างพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล ถ้ำลับแล และพัฒนาต่อยอดประตูเมืองลับแล เพื่อเป็นการต้อนรับการเปิดฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวที่กำลังมาถึง โดยก่อนเข้าไปในถ้ำจำลองเมืองลับแลจะพบกับจุดเช็คอินซุ้มประตูเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ของเมืองลับแล มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะประยุกต์แบบสุโขทัยมีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 41 เมตร ออกแบบโดยพระพหมพิจิตร สมัยครั้ง ป.พลพิบูลสงคราม
ด้านข้างของซุ้มประตูจะมีประติมากรรมรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้าง ๆ มีสามีนั่งก้มหน้าในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้นเตรียมเดินทางออกจากเมืองลับแล บริเวณฐานจารึกข้อความ "ขอเพียงสัจจะวาจา"
จากนั้นนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวได้เข้าไปในถ้ำจำลองเมืองลับแล ดินแดนมหัศจรรย์ โดยเมื่อเข้าไปภายในถ้ำจะพบกับรูปปั้นต่างๆ มากมายในการบอกกล่าวเรื่องราวตำนานเมืองลับแล หรือเมืองแม่หม้าย มีภาพจำลองในรูปแบบสามมิติ ถ่ายทอดตำนานเมืองสัจจะวาจาเล่าเรื่อง "ตำนานเมืองสัจจะวาจา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ห้ามพูดโกหก" โดยเป็นการเล่าเรื่องผ่านการใช้กาพย์ยานี 11 บนผนังถ้ำ ไว้อย่างน่าสนใจเพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้สำหรับอนุชนรุ่นหลังหรือนักท่องเที่ยว ที่ต้องการสัมผัสตำนานหรือเรื่องเล่า เมื่อครั้งอตีดของเมืองลับแลและภายในถ้ำยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้และอำนวยความสะดวกอีกด้วย
สำหรับตำนานเมืองลับแล ตามตำนานของเมืองลับแลที่เล่าสืบต่อกันมาว่า "มีชายหนุ่มชาวทุ่งยั้งได้หลงเข้าไปในเมืองลับแล ซึ่งทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิงที่ถือศีลห้ามพูดปดหรือโกหกอย่างเคร่งครัด ชายหนุ่มได้พบรักและแต่งงานกับหญิงสาวในหมู่บ้านและสัญญาว่าจะอยู่ในศีลธรรมไม่พูดปด อยู่มาวันหนึ่งภรรยาไม่อยู่บ้าน ลูกน้อยก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ทำให้ผู้เป็นพ่อปลอบว่า "แม่มาแล้ว ๆ" เพื่อให้ลูกหยุดร้อง
เมื่อแม่ยายได้ยินก็นำไปเล่าให้ลูกสาวฟัง ทำให้หญิงสาวเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ จึงไล่สามีออกจากหมู่บ้าน พร้อมกับได้จัดย่ามใส่เสบียงรวมทั้งหัวขมิ้นจำนวนหนึ่งและกำชับไม่ให้เปิดย่ามจนกว่าจะถึงบ้าน แต่ระหว่างเดินทางชายหนุ่มรู้สึกหนัก จึงหยิบขมิ้นทิ้งไปเรื่อย ๆ พอกลับถึงบ้านจึงหยิบขมิ้นที่เหลือขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นทองคำ ชายหนุ่มเกิดความเสียดายจึงย้อนกลับไปหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ แต่ขมิ้นได้งอกเป็นต้นหมดแล้วและชายหนุ่มก็ไม่สามารถหาทางกลับเข้าเมืองลับแลได้อีก"
ภายหลังจากเข้าชมถ้ำเมืองลับแล จำลอง วัฒนธรรมจังหวัดได้พาเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองลับแลเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัฒนธรรม 8 วิถีของเมืองลับแล ประกอบด้วยภาษา อาหาร การแต่งกาย สถาปัตยกรรม ความเชื่อ ประเพณี และดนตรีพื้นบ้าน รวมถึงจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองลับแล โดยจำลองอยู่บนเรือนไม้ 2 หลัง เช่น เรือนชาน ห้องครัว ห้องนอน ยุ้งข้าว ผ้าซิ่นตีนจก ไม้กวาด ข้าวแคบ "หมี่พัน" เป็นต้น
โดยช่วงปลายปีทุกปีทางเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ โดยนายเจษฎา ศรุติสุต นายกเทศมนตรีตำบลศรีพนมมาศ จะมีการจัดงานมหกรรม 8 วิถี พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล และในปีนี้จัดช่วงระหว่างวันที่ 26-28 ธันวาคม 2567 จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจเข้ามาร่วมสัมผัสวัฒนธรรมวิถีชีวิตชาวเมืองลับแลในงานมหกรรมวัฒนธรรมดังกล่าว ณ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล ตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี