"นายอำเภอบางมูลนาก" ชี้ "วัดป่าศิวิไลย์" ไม่ได้ขออนุญาตตั้งสุสานสั่งให้ตำรวจและเทศบาลดำเนินคดีตามกฏหมาย เป็นโทษปรับเหมือนกรณี"ที่พักสงฆ์ป่านครไชยบวร" ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เผยทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนแล้ว "อย่าทำผิดธรรมวินัยสงฆ์"

วันที่ 27 พ.ย.67 นายธงชัย ขิมมากทอง นายอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดอวุโสอำเภอบางมูลนาก ลงพื้นที่วัดป่าศิวิไลย์ หมู่ที่ 11 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เพื่อตรวจสอบในเรื่องที่เก็บศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 32 ศพ ซึ่งพบว่าทางวัดป่าศิวิไลย์นั้นไม่ได้มีการขออนุญาตจัดตั้งสุสานให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.สุสาน ซึ่งเรื่องนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางมูลนาก และทางเทศบาลฯให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นโทษปรับเหมือนที่พักสงฆ์ป่านครไชยบวร

ในส่วนเรื่องที่ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 32 ศพอยู่ระหว่างการตรวจเอกสารใบมรณบัตรที่มาที่ไปของศพและใบเอกสารต่างๆ ที่ทางญาติมามอบศพให้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งหมด หากพบว่าตรงไหนที่ไม่ถูกก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ตอนนี้ทางตำรวจได้ประสานตามตัวญาติทุกศพให้มายื่นยันตัวตนที่มอบศพให้ นอกจากนี้ในส่วนที่ทางวัดป่าศิวิไลน์ จะไปขออนุญาตกับทางท้องถิ่นในเรื่องการจัดตั้งสุสานซึ่งเขาจะให้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของท้องถิ่น ส่วนการประกอบกิจการภายในวัดลักษณะที่ทำกันแบบนี้ตนเองกำลังถามไปยังการปกครองของสงฆ์และสำนักพุทธเป็นผู้พิจารณา

ด้าน ดร. พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เรื่องของวัดป่าศิวิไลย์ และเรื่องของที่พักสงฆ์ป่านครไชยบวร ที่กำลังมีเหตุอยู่ในขณะนี้ที่พบศพเป็นจำนวนมากซึ่งทั้ง 2 แห่งอยู่ในความดูแลของอาจารย์สายฝน ปณฑิโต ที่ผ่านมาอาตมาเคยตักเตือนบอกกล่าวไปแล้วให้ปฎิบัติตามพระธรรมวินัย ให้อยู่ในกฏระเบียบของการปกครองสงฆ์ซึ่งอาจารย์น้ำฝน ก็สงบเสงี่ยมมาหลายปี ตั้งแต่ปี 52 ที่มีการนำเด็กนักเรียนไปฝึกจิตจนมีงูเหลือมรัด ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งจนถึงขณะนี้มีเรื่องเข้ามาอีก เรื่องของการฝึกจิตในการใช้ศพหรือฝึกตาทิพย์หูทิพย์ตามหลักการใช้ศพมาฝึกจิตนั้นไม่ได้นอกเหนือไปจากคำสอนพระธรรมวินัยไม่ผิดแต่อาจจะแตกต่างกันไปก็จะเป็นเรื่องที่มาที่ไปของศพได้มาอย่างไร อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการ

ดร. พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นผู้ปกครองสงฆ์จังหวัดพิจิตร ได้บอกกล่าวตักเตือนไปยังอาจารย์สายฝน ปณฑิโต และลูกศิษย์อาจารย์สายฝน ซึ่งสำนักสงฆ์นั้นมีเบื้องหลังมีลูกศิษย์คนใหญ่คนโต ถ้าไปแตะต้องจะกลายเป็นประเด็น แต่ในฐานะที่อยู่ในจังหวัดพิจิตร อาตมาก็ได้ทำไปตามหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือนหลายรอบในเรื่องนี้ส่วนเรื่องทำผิดธรรมวินัยไม่มี แต่ส่วนความเชื่อเป็นเรื่องของเขา ซึ่งอาตมาทำเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และสำนักพุทธแล้วในเรื่องนี้แล้ว - 003