คนระลึกชาติได้ทุกวันนี้ยังมีอยู่ บางคนก็ระลึกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พอพูดได้ก็บอกได้เป็นเรื่องเป็นราว ขอไปหาแม่เก่าพ่อเก่าที่บ้านนั้นบ้านนี้บางคนเห็นรูปใครบางคนก็สนใจมากมาย ถามชื่อและบางรายก็บอกเล่าเรื่องอดีต เคยใกล้ชิดกับผู้นั้นผู้นี้เคยเป็นทหารไปร่วมรบในอดีตกาลนานไกล
ที่น่าอัศจรรย์ก็คือเด็กชายเล็กๆ บางคนเล่าว่าเคยเป็นทหารร่วมรบด้วยกันกับสมเด็จพระบุรพบรมกษัตริยาธิราชเจ้าบางพระองค์ทั้งที่เขายังเป็นเด็กชายไร้เดียงสา เขายังไม่ทันจะรู้ว่าพระมหากษัตริย์ของเขาพระองค์นั้นทรงเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ และเขาก็ยังบริสุทธิ์เกินกว่าจะคิดแต่งเรื่องราวขึ้นหลอกลวงเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ได้ฟังเขาพูดอย่างเด็กทารกไร้เดียงสาจึงยอมรับว่าเขากําลังระลึกได้ถึงในอดีตชาติของเขา นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงความมีภพชาติในอดีตของคนทั้งหลายสัตว์ทั้งหลายในปัจจุบันชาติ
ท่านพระอาจารย์สําคัญรูปหนึ่งที่เป็นพระปฏิบัติท่านเดินป่าอยู่เป็นประจําในชีวิตของท่าน โดยเพื่อนปฏิบัติธรรมร่วมทางไปด้วยบ้างเป็นครั้งคราวเป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อพบช้างในระหว่างทางท่านพระอาจารย์รูปนั้นก็จะต้องเป็นผู้นําเจรจาปราศรัยกับช้างท่านจะพูดจากับช้างใหญ่ด้วยภาษามนุษย์และท่านจะใช้วาจาไพเราะอ่อนโยนยิ่งนัก เป็นที่เจริญหูเจริญใจ ช้างก็ฟังท่านโดยดีเมื่อท่านขอให้หลีกก็จะหลีก ขอให้หลบก็จะหลบ ขอให้ไปให้พ้นก็จะไปจนพ้น
ท่านทําได้เช่นนี้โดยที่รูปอื่นทําไม่ได้เพราะอะไร น่าจะตั้งปัญหานี้ขึ้นและผู้ไม่ปฏิเสธว่าผู้อยู่ในปัจจุบันชาตินั้นมีอดีตชาติย่อมจะยอมคิดว่าท่านพระอาจารย์รูปนั้นท่านคงมีอะไรเกี่ยวข้องกับช้างมาแล้วในอดีตชาติและต้องเกี่ยวข้องอย่างสําคัญด้วย ในชาตินี้ท่านจึงสามารถพูดจากับช้างได้รู้เรื่องและช้างก็ยินดีอ่อนให้กับท่านอย่างน่าอัศจรรย์นัก
เมื่อคิดเช่นนี้ก็น่าจะคิดต่อไปได้ว่า จากช้างก็มาเป็นมนุษย์ได้สําหรับผู้มีญาณหยั่งรู้ไปในอดีต ย่อมรู้ได้ว่าท่านพระอาจารย์รูปนั้นท่านอาจจะเคยเกิดเป็นช้างสําคัญก่อนจะมาเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้ก็เป็นได้ และก็เป็นได้อีกเช่นกันที่ท่านอาจจะเกิดเป็นช้างอยู่หลายภพหลายชาติในบรรดาภพชาติที่นับไม่ถ้วนของท่านในอดีต
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้และสามารถมีญาณหยั่งรู้ภพชาติในอดีตของตนที่เป็นสัตว์ เช่น ท่านพระอาจารย์รูปสําคัญที่ท่านเล่าไว้ว่าเคยเกิดเป็นไก่ ย่อมรู้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างความเป็นคนกับเป็นสัตว์ย่อมได้ความสลดสังเวชและย่อมได้ความหวาดกลัว ความต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นที่สุด เพราะได้รู้ชัดด้วยตนเองแล้วว่าการพลาดพลั้งทํากรรมไม่ดีไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ คือ การนําไปสู่ทุคติต่างๆ อันไม่เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งอันจักก่อให้เกิดความทุกข์ร้อนนานาประการ
การที่อยู่ดีๆ ก็ถูกจี้ถูกปล้นจนถึงชีวิต เป็นการต้องตายจากผู้เป็นที่รักสิ่งที่เป็นที่รักอย่างไม่รู้ตัว อย่างไม่อาจขอความช่วยเหลือจากผู้ใดได้ ผู้นับถือพระพุทธศาสนารู้ว่านั่นเป็นผลของกรรมที่ต้องได้กระทําไว้แล้วในภพชาติใดภพชาติหนึ่ง ซึ่งปุถุชนไม่มีญาณพิเศษทั้งหลายหาอาจรู้ชัดไม่ว่าได้มีการทํากรรมอันเป็นอกุศลเหตุนั้นตั้งแต่เมื่อใด และจะส่งผลเมื่อใด แต่ผู้ปฏิบัติธรรมจนสามารถมีความรู้พิเศษจะรู้ได้และบางทีก็ได้แสดงให้รู้ล่วงหน้า เช่น ที่พระอาจารย์สําคัญรูปหนึ่งท่านได้ปรารภให้ได้ยินกันเนืองๆ ว่า ในอดีตท่านเคยขับเกวียนทับเด็กตายโดยจงใจเจตนา
ดังนั้น ท่านจะต้องได้รับผลของกรรม คือจะต้องถูกรถทับจนเสียชีวิตแน่ในภพชาตินี้ท่านปรารภอยู่นานปี และแล้ววันหนึ่งท่านก็เตรียมตัวออกเดินทางจากวัด เมื่อถูกทักท้วงว่ารุ่งขึ้นจึงจะถึงวันที่ท่านได้รับอาราธนาไปในการทําบุญที่บ้านหนึ่ง ท่านก็ตอบง่ายๆ ตรงไปตรงมาว่าถึงเวลาวันนั้นแหละถูกแล้ว ไม่มีผู้เข้าใจความหมายของท่าน และในวันนั้นเอง เมื่อออกไปพ้นวัดเพียงไม่นานรถที่ท่านนั่งไปก็คว่ําทับร่างท่านมรณภาพทันที ท่านมรณภาพรูปเดียว คนอื่นทุกคนปลอดภัย
หลังจากนั้นไม่กี่วันได้มีการทําศพท่าน ปรากฏว่าอัฐิของท่านที่ยังไม่ทันเย็นสนิทได้กลายเป็นมณีสีสวยงามต่างๆ กัน ที่รู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายว่า นั่นคือพระธาตุ นั่นคือเครื่องหมายแสดงความไกลกิเลสสิ้นเชิงแล้ว พระอาจารย์รูปนี้ท่านไม่เพียงแสดงให้เห็นอํานาจของกรรม ที่ผู้ใดได้ทําแล้วจักต้องได้รับผล แม้จะปฏิบัติธรรมสูงสุดก็ยังหนีไม่พ้น ท่านยังแสดงให้เข้าใจด้วยว่าทุกชีวิตผ่านภพชาติในอดีตมาแล้ว จะต้องผ่านมามากมายด้วยกันทั้งนั้น
เป็นที่เห็นกันอยู่ว่าทุกคนมีชีวิตที่มิได้ราบรื่นเสมอไป ไม่มีสุขตลอดชีวิต ไม่มีทุกข์ตลอดชีวิต ไม่พบแต่สิ่งดีงามตลอดชีวิต ไม่พบแต่สิ่งชั่วร้ายตลอดชีวิต แต่ละคนพบอะไรๆ ทั้งดีทั้งร้าย หนักบ้างเบาบ้าง โดยที่บางทีก็ไม่เป็นที่เข้าใจว่าทําไมจึงต้องเป็นเช่นนั้น เช่น บางคนเกิดในครอบครัวที่ต่ําต้อย ลําบากยากจน พอเกิดได้ไม่นาน เงินทองจํานวนมากก็เกิดขึ้นในครอบครัว เป็นลาภลอยของมารดาบิดาบ้าง เป็นความได้ช่องได้โอกาสทําธุรกิจการงานบ้างใครๆ ก็จะต้องพูดกันว่าลูกที่เกิดใหม่นั้นเป็นผู้มีบุญ ทําให้มารดาบิดามั่งมีศรีสุข ถ้าไม่คิดให้ดีก็เหมือนจะเป็นการพูดไปเรื่อยๆ ไม่มีมูลความจริง และทั้งผู้พูดผู้ฟังก็มักจะไม่ใส่ใจพิจารณาให้ได้ความรู้สึกลึกซึ้งจริงจัง แต่ถ้าพิจารณากันให้จริงด้วยคํานึงถึงเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ก็น่าจะเชื่อได้ว่าเด็กที่เกิดใหม่นั้นเป็นผู้มีบุญมาเกิด
ผู้มีบุญคือผู้ที่ทําบุญทํากุศล ทําคุณงามความดีไว้มากในอดีตชาติอันความเกิดขึ้นของผู้มีบุญนั้นย่อมเกิดขึ้น พร้อมกับมีบุญห้อมล้อมรักษา แม้ชนกกรรมนําให้เกิดจะนําให้เกิดลําบาก แต่เมื่อบุญที่ทําไว้มากกว่า กรรมไม่ดีที่นําให้ลําบากก็จะต้องถูกตัดรอนด้วยอํานาจของกุศลกรรม คือบุญอันยิ่งใหญ่กว่าคือเกิดมามารดาบิดายากจน มือแห่งบุญก็จะต้องเอื้อมมาโอบอุ้มให้พ้นจากความลําบากยากจน ให้มั่งมีศรีสุขควรแก่บุญที่ได้ทําไว้
ผู้ที่เกิดในที่ลําบากยากจน แต่เมื่อมีบุญเก่าได้กระทําไว้มากมายเพียงพอ มือแห่งบุญก็จะเอื้อมมาโอบอุ้มให้พ้นความยากลําบากได้อย่างรวดเร็ว พ้นจากความยากจนดังปาฏิหาริย์มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ เด็กบางคนทําบุญทํากุศลไว้ดีแต่ชนกกรรมนําให้เกิดกับมารดาบิดาที่ยากแค้นแสนสาหัส พอเกิด มารดาบิดาก็หาทางช่วยให้ลูกพ้นความเดือดร้อน นําไปวางไว้หน้าบ้านผู้มั่งมีศรีสุขที่รู้กันว่าเป็นผู้มีเมตตา แล้วเด็กนั้นก็ได้เป็นสุขอยู่ในความโอบ-อุ้มของมือแห่งบุญควรแก่บุญที่เขาได้กระทําไว้
แต่เด็กบางคนเกิดในที่ต่ําต้อยยากไร้และเป็นผู้ที่มิได้ทําบุญกุศลมาในอดีตชาติเพียงพอย่อมไม่มีมือแห่งบุญมาโอบอุ้มเขาให้พ้นความลําบากยากจน แม้เมื่อมารดาบิดาจะพยายามเสี่ยงนําไปวางไว้ในที่ที่หวังว่าจะมีผู้ดีมีเงินมานําไปอุปการะเลี้ยงดูความไม่มีบุญทําไว้ก่อนทําให้ไม่เป็นไปดังความปรารถนาของผู้เป็นมารดาบิดา เขาอาจจะถูกทิ้งอยู่ตรงที่ที่ถูกนําไปวางและสิ้นชีวิตไป ณ ที่นั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย อาจจะทรมานด้วยความหนาว ความร้อน ความหิวโหย หาผู้ช่วยเหลือไม่ได้และผู้เป็นมารดาก็อาจถูกจับได้รับโทษทางอาญา นั่นก็เป็นเรื่องอํานาจอันยิ่งใหญ่นักของกรรมอย่างแท้จริง
อดีตชาติของทุกคนมีมากมายนัก จึงได้ทํากรรมกันไว้มากมายนัก กุศลกรรมบ้างอกุศลกรรมบ้าง ชีวิตในปัจจุบันจึงมีดีบ้างไม่ดีบ้าง สุขบ้างทุกข์บ้าง คนมั่งมีเป็นมหาเศรษฐีก็ด้วยอํานาจของกุศลกรรม คือการบริจาคช่วยเหลือเจือจุนผู้อื่นที่ได้กระทําไว้ในอดีตชาติเมื่ออกุศลกรรมคือการคดโกงเบียดเบียนทรัพย์สินให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อนที่ได้กระทําไว้ในอดีตชาติตามมาส่งผล และเมื่อเป็นผลที่แรงกว่ามีกําลังกว่ากุศลกรรมที่กําลังเสวยผลอยู่อกุศลกรรมก็จะตัดรอนกุศลกรรม ส่งผลไม่ดีของอกุศลกรรมให้เกิดแทน ความมั่งมีก็จะกลับเป็นความไม่มีเงินทองของมีค่าก็จะสูญหายหมดไป
อกุศลกรรมแรงมากก็จะสามารถทําให้มหาเศรษฐีสิ้นเนื้อประดาตัวได้กําลังเป็นสุขก็จะกลับเป็นทุกข์เดือดร้อนอํานาจของกรรมเป็นเช่นนี้จริง ผู้มีปัญญาจึงกลัวกรรมยิ่งกว่ากลัวอะไรอื่น กลัวเพราะรู้ว่าเมื่อทํากรรมไม่ดีไว้แล้วต้องได้รับผลไม่ดี และเมื่อถึงเวลาที่กรรมส่งผลไม่ดีมาถึงตัวแล้ว แม้ตั้งแต่เกิดมาในชาตินี้จะไม่เคยทํากรรมไม่ดีเช่นนั้น ก็จะต้องได้รับผลไม่ดีที่อาจทําให้พิศวงสงสัย จนถึงมากคนมิจฉาทิฐิความเห็นผิด คือเห็นไปว่าทําดีไม่ได้ดี ซึ่งความจริงไม่ใช่เช่นนั้น ทําดีต้องได้รับผลดีเสมอ ทําไม่ดีจึงจะได้รับผลไม่ดี
เพียงในชาติปัจจุบันนี้เท่านั้น มีอายุกันเพียงอย่างมากร้อยปีเท่านั้น ทุกคนทุกสัตว์ต่างก็ทําอะไรๆ ที่เป็นกรรมแล้วมากมายนับไม่ถ้วน เป็นกรรมดีคือกุศลกรรมบ้าง เป็นกรรมชั่วคืออกุศลกรรมบ้าง มากมายจริงๆ เพียงทําในชาติเดียวก็มากมายจริงๆ แล้ว เมื่อได้ทํามานับภพชาติไม่ถ้วนจะมากมายเพียงไหนขณะที่มาเป็นอยู่ในภพนี้ชาตินี้ได้ละภพชาติในอดีตที่ทํากรรมไว้เบื้องหลังมากนักหนา กรรมดีกรรมชั่วอาจไม่เสมอกัน บางคนกรรมดีอาจมากกว่า บางคนกรรมชั่วอาจมากกว่า บางคนทํากรรมดีที่ไม่สําคัญไม่ยิ่งใหญ่แต่ทํากรรมไม่ดีที่สําคัญหนักนักหนา เช่นนี้ย่อมได้เสวยผลตามเหตุคือในภพชาตินี้ย่อมประสบส่วนดีน้อยกว่า ส่วนไม่ดีส่วนผู้ที่ทํากรรมดีมาก ทํากรรมไม่ดีน้อย เช่นนี้ย่อมได้เสวยผลตามเหตุคือในภพชาตินี้ย่อมประสบส่วนดีมากกว่าส่วนไม่ดีดังมีตัวอย่างให้พบเห็นอยู่ทั่วไปในทุกวันนี้
เมื่อกรรมดีจะส่งผลก็ไม่มีอะไรหรือผู้ใดจะกีดกั้นยับยั้งได้กรรมไม่ดีที่แรงกว่าเท่านั้นที่จะกีดกั้นขัดขวางได้ไม่ให้กรรมดีอาจส่งผล แต่ถ้ากรรมดีแรงกว่ากรรมไม่ดีกรรมดีก็ต้องส่งผลจนได้กรรมไม่ดีหาอาจขัดขวางได้ไม่อะไรๆก็หาอาจขัดขวางได้ไม่เมื่อกรรมไม่ดีจะส่งผลก็ไม่มีอะไรหรือผู้ใดจะกีดกั้นยับยั้งได้ กรรมดีที่แรงกว่าเท่านั้น ที่จะกีดกั้นขัดขวางได้ไม่ให้กรรมไม่ดีส่งผล แต่ถ้ากรรมไม่ดีแรงกว่ากรรมดีกรรมไม่ดีก็ต้องส่งผลจนได้กรรมดีหาอาจขัดขวางได้ไม่อะไรๆ ก็หาอาจขัดขวางได้ไม่
คัดลอกจาก "ชีวิตนี้น้อยนัก" บทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี