ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ เปิดเผยว่า กสม. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT)
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) ที่ไทยเพิ่งให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 มาอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานการทำหน้าที่ด้านการตรวจเยี่ยมเชิงป้องกันสถานที่ควบคุมตัวที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำทรมาน โดยได้จัดตั้งกลุ่มงานตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวและการป้องกันการทรมาน ภายใต้สำนักรับเรื่องร้องเรียนและประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เป็นการเฉพาะ
เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำหน้าที่เป็นกลไกป้องกันการทรมานระดับชาติ (National Preventive Mechanism) หรือ NPM ที่สามารถตรวจสอบและเข้าถึงสถานที่ควบคุมตัวของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอิสระ และสม่ำเสมอ ซึ่งกลไกนี้จะเกิดขึ้นได้หากไทยเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ (OPCAT) โดย กสม. มีข้อเสนอแนะสนับสนุนให้รัฐบาลไทยเข้าเป็นภาคีพิธีสารดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ประเทศไทยมีกลไกคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่ถูกควบคุมในสถานที่ควบคุมตัวหรือสถานที่ลิดรอนเสรีภาพของรัฐจากการถูกกระทำทรมานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมร่วมกับทุกภาคส่วนของไทยในการให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคี OPCAT เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2567 กสม. โดย น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ และ น.ส.สุภัทรานาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เข้าร่วมในเวทีหารือระดับชาติว่าด้วยการเข้าเป็นภาคี OPCAT ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
โดยได้ยืนยันการสนับสนุนให้ไทยเข้าเป็นภาคี OPCAT และความพร้อมในการทำหน้าที่ตามกลไก NPM หากไทยเข้าเป็นภาคี OPCAT และ กสม. ได้รับมอบหมาย
ให้ทำหน้าที่ดังกล่าว นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพของเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ในการทำหน้าที่ตรวจสอบและเข้าถึงสถานที่ควบคุมตัวของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นอิสระ และเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการตรวจเยี่ยมตามหลัก OPCAT ซึ่งเน้นการป้องกันด้วยกระบวนการหารืออย่างสร้างสรรค์กับหน่วยงานที่มีสถานที่ในการคุมขังบุคคล
ระหว่างวันที่ 13-18 ธ.ค. 2567 กสม. จึงร่วมกับเครือข่ายสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APF) และสมาคมเพื่อการป้องกันการทรมาน (APT) จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพด้านการตรวจเยี่ยมสถานที่ลิดรอนเสรีภาพและสถานที่ควบคุมตัวบุคคล (NHRCT Capacity Building Week 2024) โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 40 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐที่มีสถานที่ควบคุมตัว เช่น เรือนจำสถานีตำรวจ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ของ APF และ APT รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม.
โดยผู้แทนจากหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ จะได้หารือและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกันเกี่ยวกับเครื่องมือวิธีการ และมาตรฐานการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัว เพื่อยกระดับมาตรฐานสถานที่ควบคุมตัวของรัฐให้สอดคล้องตามหลักกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคีหรือจะเข้าเป็นภาคีต่อไป โดยจะมีการศึกษาดูงาน ณ เรือนจำกลางพิษณุโลก และสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ด้วย
นอจากนั้น กสม. ยังเดินหน้าส่งเสริมให้เรือนจำพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับหลักทัณฑวิทยาและมาตรฐานที่กำหนดตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรฐานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานการตรวจประเมินของกรมราชทัณฑ์ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้ จะร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขับเคลื่อนการปฏิบัติตามแผนพัฒนาสถานีตำรวจ พ.ศ. 2568-2570 ที่จัดทำโดยคณะทำงานร่วมระหว่างสำนักงาน กสม. กับ ตร. โดยจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา กสม. ได้ตรวจเยี่ยมสถานที่ลิดรอนเสรีภาพเพื่อติดตามการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ รวม 13 แห่งประกอบด้วย เรือนจำ สถานีตำรวจ สถานบำบัดยาเสพติดในหลายภูมิภาค โดยการตรวจเยี่ยมเป็นไปในลักษณะที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจกับฝ่ายบริหาร มีการสำรวจสถานที่ควบคุมตัว การสัมภาษณ์ผู้ต้องขัง ญาติผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำโดยลับ และมีการตรวจดูบันทึกและเอกสารที่เกี่ยวกับการรับผู้ต้องขังไว้ควบคุมตัว สุขภาพ วินัย เรื่องร้องเรียน การใช้กำลัง เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงหรือการทำร้ายตนเอง โดยให้ความสำคัญกับประเด็นเฉพาะของกลุ่มเปราะบางที่ถูกคุมขังด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี