วันนี้วันพระเป็นวันหยุด ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2567 ได้มีโอกาสเดินทางไปทำบุญ สร้างกุศล ที่ วัดบ่อชะเนง อยู่ห่างจากตัวอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ด้านทิศใต้ ประมาณ 15 กิโลเมตร ถนนสายหัวตะพาน – บ้านขมิ้น อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เป็นวัดสังกัดมหานิกาย โดยมี เจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนงปกครองพระสงฆ์ และสามเณร (บวชเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดบ่อชะเนง) บนเนื้อที่ 40 ไร่ ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เงียบ สงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับ ผู้ที่จะเข้าไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิยิ่งนัก
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่คู่วัดบ่อชะเนง มาช้านาน ซึ่งพุทธศาสนิกชน ญาติโยม เดินทางเข้าไปกราบนมัสการขอพรเป็นประจำ นั่นคือ รูปเหมือน หลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร และพระพุทธรูปอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับประวัติ หลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งเขียนระบุไว้ ที่กำแพงปูชีเมนต์ ด้านข้างวิหาร ว่า หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นามเดิม ขาว โคระถา เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2431 ที่บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ บิดา ชื่อ พั่ว มารดาชื่อ รอด อาชีพทำนา มีพี่น้อง 7 คน หลวงปู่ขาว คนที่ 4 และหลวงปู่ขาวแต่งงานมีธิดา 7 คน การครองเรือนไม่ราบรื่น เพราะภรรยา ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เป็นเหตุให้หลวงปู่ขาว เกิดความสลดสังเวช เบื่อหน่ายในชีวิตของการครองเรือน จึงได้ตัดสินใจบวชอย่างสง่างาม ที่วัดบ่อชะเนง สมัยนั้นเรียกว่า วัดโพธิ์ศรี ในปี พ.ศ.2462 อยู่จำพรรษา 6 พรรษา จึงได้ออกเดินธุดงคกรรมไปที่วัดพระธาตุพนม ลุถึง อุดร หนองคาย ได้พบศึกษา อบรม ปฏิบัติธรรม กับ หลวงปู่มั่น ภูริทตโต ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อหลวงปู่มั่น อยู่ที่ เชียงใหม่ หลวงปู่ข่าว จึงเดินธุดงคกรรมฐานไปด้วย พักจำพรรษา ตามป่าภูเขาลำเนาไพร ผจญสัตว์ป่า มีช้างใหญ่ เสือโคร่ง เป็นต้น
แต่หลวงปู่ขาว ไม่ท้อถอย ปฏิบัติธรรมตามปกติ ได้ศึกษา ข้ออรรถธรรมกับหลวงปู่มั่นอยู่บ่อยๆ จนภูมิธรรมเต็มจิตใจหมดความสงสัยในธรรมอย่างสิ้นเชิง จึงได้อนุสรณ์ย้อนกลับถิ่นปิตุภูมิมาตุภูมิ เพื่อโปรดญาติโยมและจำพรรษาในอุโบสถวัดบ้านเก่าบ่อ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ห่างจากวัดบ่อชะเนง ประมาณ 2 กิโลเมตร หลวงปู่ขาว จึงกลับ สกลนคร ในปี พ.ศ.2501หลวงปู่ขาว ท่านได้วิเวกไปตามลำดับ จนถึง วัดถ้ำกลองเพล ท่านเห็นว่า เหมาะสมแก่อัธยาศัย จึงพักประจำอยู่ที่นี่ จนถึงสาระสุดท้าย ของชีวิตท่าน ซึ่งมรณภาพ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 สิริรวมอายุได้ 96 ปี 64 พรรษา
ขณะที่ หลวงปู่ขาว อนาลโย บวชและจำพรรษา อยู่ที่วัดบ่อชะเนง ปี พ.ศ.2462 – 2468 พร้อมด้วย ญาติโยม ชาวบ้าน ได้ทำการก่อสร้างเป็นลักษณะ ก่อด้วยอิฐฉาบดินเหนียว สูตรผสมตามภูมิปัญญาชาวบ้าน หลังคามุงด้วยกระเบื้อง ดินเผา ให้เป็นที่ทำ สังฆกรรมของสงฆ์ จนกลายเป็นอุโบสถหลังใหม่ ปี พ.ศ. 2530 จึงเปลี่ยนเป็น “ วิหารหลวงปู่ขาว “ ในปัจจุบัน ตั้งอยู่ใกล้กับ อุโบสถ ภายในประดิษฐาน มณฑป บรรรจุ พระบรมสารีรึกธาตุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านซ้าย องค์พระประธาน ซึ่งพุทธสนิกชน เดินทางเข้ามากราบนมัสการเป็นประจำ
ก่อนเดินทางกลับ ควรแวะฟังพระธรรมเทศนา กับ เจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนง ท่านเทศนาตอนหนึ่งว่า คนที่มาวัดจะมาทำบุญ ฟังธรรมะ คือ ความสุข และมีจำนวนไม่น้อย ที่มาวัด เพราะมีทุกข์ มีทุกข์ 5 ประเภท คือ 1. ครอบครัวไม่มีความสุข ครอบครัวทะเลาะกัน 2. ผิดหวังในชีวิต 3.ลูกไม่เรียนหนังสือ เถียงพ่อ เถียงแม่ 4. เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง และ 5 มีแล้วไม่พอ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า หน้าที่ทางพระพุทธศาสนาที่เราเป็นชาวพุทธ มี 2 ประการ คือ 1. คันถธุระ ภาคทฤษฎีต้องบังคับให้เรียน และ 2. วิปัสสนาธุระ เรียนภาคทฤษฎี ต้องฝึกภาคปฏิบัติด้วย มีเท่านี้เอง อย่าไปลามปามเครื่องรางของขลังเป็นเพียงที่ระลึกในการสร้างความดีในจิตใจ มีพระประจำกายแล้วก็มีพระประจำใจ มีทั้งนอกทั้งใน จะมีประโยชน์มาก ที่สำคัญ ญาติโยมทั้งหลาย ควรปฏิบัติตามศีล 5 ข้อให้ได้ ซึ่งว่าไว้ คือ 1. ห้ามฆ่าสัตว์ 2.ห้ามลักทรัพย์ 3. ห้ามดื่มสุรา 4 ห้ามพูดเท็จและ 5 ห้ามผิดในกาม หากทุกคนทำได้ จะมีแต่ความสงบสุข และ อาตมา ขอเชิญชวนทุกท่าน สวดมนต์ทุกวัน อย่างคำที่ว่า ไหว้พระเป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน ทั้งกินทั้งทา ท่านจะมีความสุขสบายมากมายหลายประการ มีความสุขถึงลูกถึงหลานของท่านทั้งหลาย...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี