ภายหลังจาก สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ดำเนิน โครงการ Fin Lab : คาราวานความรู้ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาค และบ่มเพาะคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดทุน โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 13-18 ปี ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุน สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี รวมทั้งพัฒนาให้เป็นคนต้นแบบ ที่สามารถขยายผลองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรอบข้างและครอบครัว อันนำไปสู่การเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคต
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ OKMDเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชนและคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 13-18 ปี ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุน ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการกว่า 70 หน่วยงาน โดยสามารถนำองค์ความรู้ทางการเงินการลงทุนไปขยายผลในรูปแบบต่างๆ หลากมิติ ทั้งมุมความรู้ในเชิงกว้าง และมุมความรู้ในเชิงลึก
โดย “ความรู้ในเชิงกว้าง” ได้แก่ 1.Online Platform ที่เด็กทุกคนสามารถใช้เครื่องมือเข้าถึงข้อมูลจากคลิปองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่เหมาะสมกับช่วงวัยทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ รายได้ การออม รายจ่าย การลงทุน การจัดการหนี้ และภัยการลงทุน โดยมีการเผยแพร่ผ่าน E-Book ที่เกี่ยวข้องกับทักษะการจัดการทางการเงิน การออม และการบริหารการลงทุนผ่านตลาดทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Knowledge Portal และ TK Read รวมทั้งสื่อออนไลน์ในโซเชียลมีเดีย เช่น FB TikTok และช่องทางออนไลน์ของ OKMD โดยมีผู้เข้าถึงองค์ความรู้มากกว่า 6 ล้านคน/ครั้ง, 2.Knowledge Corner โดยพัฒนาการเชื่อมโยงและกระจายมุมความรู้ด้านการเงินการลงทุนในพื้นที่เป้าหมายโดยติดตั้งไว้ 14 แห่ง ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ลำปาง ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สิงห์บุรี ชลบุรี และภูเก็ต มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้.จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 543,636 คน, 3.Knowledge Kiosk Alive โดยการสร้างสรรค์ชุดความรู้เผยแพร่ผ่าน Kiosk TV ซึ่งนำเสนอความรู้ด้านการเงินการลงทุนและประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้การเงิน 24 แห่ง พร้อมติดตั้งไว้ที่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร อุดรธานี อุบลราชธานี สิงห์บุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรสาคร พังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต สงขลา และกรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้ จนถึงพ.ย. 2567 จำนวน 335,901 คน
“ความรู้ในเชิงลึก” มุ่งเน้นในการพัฒนาคนประกอบด้วย 1.Knowledge Market : การจัดตลาดนัดความรู้ในพื้นที่ 8 จังหวัด ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ขอนแก่น นครราชสีมา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต และยะลา โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ตลาดทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ และคาราวานความรู้จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายกว่า 32 หน่วยงาน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจด้านการเงินการลงทุนจาก กองทุนการออมแห่งชาติ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สมาคมยุวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วม 10,117 คน เกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,500 คน, 2.Fin Lab Online Bootcamp : การจัดค่ายอบรมบ่มเพาะ เชิงลึกออนไลน์ เน้นสร้างบุคลากรต้นแบบรุ่นใหม่ด้านการเงินและการลงทุนในภูมิภาค และพัฒนาต่อยอดเป็นต้นแบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีน้องๆ ระดับชั้นม.ต้น และม.ปลายกว่า 1,000 คนเข้าร่วมอบรม, 3.กิจกรรม Fin Lab Hackathon : ฝึกฝนให้เยาวชนที่เข้าร่วมอบรม รวมทีมและระดมสมองจัดทำโครงงาน รู้จักวางแผน กำหนดเป้าหมาย และฝึกกระบวนการคิด วางแผนทางการเงินบริหารผลตอบแทนและความเสี่ยง มีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายมากกว่า 58 ทีม
ด้าน นายจักรชัย บุญยะวัตรผู้อำนวยการ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวว่า CMDF ให้ทุนสนับสนุน OKMD ในเรื่องการสร้างความตระหนักรู้ ให้กับเด็กและเยาวชน โดยไม่จำกัดวงเพียงแค่คนในวัยทำงานเท่านั้น เพราะการปูพื้นฐานความรู้ด้านการออม การจัดการทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง เด็กและเยาวชนก็จะเกิดความตระหนักรู้และเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยส่วนตัวได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมที่ จ.ขอนแก่น เด็กและเยาวชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนับพันคน และเขามีความสุขในกิจกรรม
“เราอยากจะสนับสนุนในเรื่องของการให้ความรู้ในเรื่องการเงิน การลงทุนที่สามารถย่อยภาษาทางการเงินให้เข้าใจได้ง่ายสอดรับกับคนรุ่นใหม่ เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า หนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เกิดจากความไม่มีวินัยในเรื่องการออมและการลงทุน และอาจมีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย ถ้าเราปูพื้นฐานทางด้านการเงินตั้งแต่เด็ก ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่จะมีทักษะทางด้านการเงินและมีภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต” นายจักรชัย กล่าว
สอดคล้องกับ นายเศรษฐพล ธรรมจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่บอกว่า SET มองว่าเด็กและเยาวชนที่ได้รับการปูพื้นฐานทางด้านการออมการลงทุน ฝีกเขาตั้งแต่การรู้หารู้เก็บ รู้ใช้ จะทำให้เขาวางแผนชีวิตตัวเองได้ และเท่าที่สัมผัสในกิจกรรมนี้ตั้งแต่ต้นพบว่าเด็กรุ่นใหม่มีความรู้เรื่องการเงินมากขึ้นเขาสามารถวางแผนทางการเงิน และมานำเสนอได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่ระดับมัธยมต้น เชื่อมั่นว่า พวกเขาจะเติบโตเป็นนักลงทุนที่ดีในอนาคต
ขณะที่ นายชนินทร์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษากรุงเทพมหานครกล่าวให้คำมั่นว่า จะนำบอร์ดเกม ที่ทาง OKMD มอบให้โรงเรียนในสังกัด กทม. ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน เพราะบอร์ดเกมสอนให้เด็ก คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง
“Fin Lab ถือเป็นโครงการที่อัปเกรดความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้เด็กไทย โดยความสำเร็จในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้ทั้งในมิติของการเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่ และสื่อการเรียนรู้ จะยังคงได้รับการถ่ายทอดสู่เด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ ผ่านโรงเรียน ครู อาจารย์ ที่ได้รับการสื่อและกระบวนการในการถ่ายทอดที่เหมาะสมเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการลงทุนและการวางแผนการเงินสำหรับตนเองต่อไปนอกจากนี้ ยังสามารถเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเด็กเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุน ให้มีความรู้ความเข้าใจ พฤติกรรมการออมและการลงทุนที่เหมาะสม รวมทั้งพัฒนาให้เป็นคนต้นแบบ ที่สามารถขยายผลองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรอบข้างและครอบครัว สามารถเชื่อมโยงและเพิ่มแหล่งเรียนรู้องค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนในภูมิภาค เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงความรู้ด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุนให้แก่เด็กเยาวชน คนรุ่นใหม่ ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนในภูมิภาคได้” ผู้อำนวยการOKMD กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี