มูลนิธิกระจกเงาโพสต์เล่าเป็นอุทาหรณ์ เด็กภาคเหนือ อายุ 15 ถูกหลอกพาเข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สารพัดการถูกกดดันให้ทำยอดโทรหลอกคน
เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2566 ว่ามีเด็กชายวัย 15 ปีถูกหลอกพาเข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุว่า
เด็กชายวัยสิบห้า ผู้ถูกพาเข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์
.
1.เด็กเรียนไม่จบ ม.2 ทำงานก่อสร้าง รายได้วันละ 350- ทำได้เดือนนึง ไม่ไหว อยากหางานที่สบายกว่านี้ จนไปเจอประกาศในเน็ต รับแอดมินเพจเงินเดือนหมื่นห้า
.
2.รับอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่พอเด็กบอกอายุ 15 ปี ให้ใช้บัตรพี่ชายส่งมาสมัครได้ คุยทางข้อความและโทรผ่านเฟซบุ๊ก บอกว่าที่ทำงานอยู่อรัญประเทศ
.
3.เด็กอยู่ภาคเหนือ ก่อนขึ้นรถทัวร์ให้ยื่นโทรศัพท์ให้คนขายตั๋ว ทางนั้นจะโอนเงินซื้อตั๋วกับคนขายโดยตรงให้ทุกครั้ง ทั้งสองทอด จนถึงอรัญประเทศ
.
4.มีคนมาสมัครงานแบบเดียวกัน รวม 4 คน นั่งรอหน้า 7-11 จนมีรถมารับนั่งรถเกือบครึ่งชั่วโมง ให้ลงตรงโรงสีมีรถไถจอด จากนั้นให้ทุกคนวิ่งฝ่าไร่อ้อยข้ามไปฝั่งปอยเปต
.
5.ฝั่งปอยเปต มีรถรอรับ เด็กถูกถามอายุและถามว่ารู้มั้ยว่าทำงานอะไร ภายหลังเด็กถึงรู้ว่าถูกขายต่ออีกทอด และถูกพานั่งรถไปในกัมพูชา จนถึงชายแดนฝั่งจังหวัดสุรินทร์
.
6.เด็กถูกพาลงอาคารห้าชั้น มีคนพูดจีนกับคนพูดไทยได้มารับตัว บอกว่างานนี้คือคอลเซ็นเตอร์สายดำ ย้ำว่าเป็นงานเครียดและกดดัน ทำได้มั้ย? เด็กบอกว่าทำได้ เพราะกลัวถูกพาไปที่อื่นอีก
.
7.ที่นั่นมีคนไทยอยู่ประมาณ 30 คน มีคนจีน 2 คน งานแรกคือ ให้ท่องสคริปท์ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ธนาคาร “สวัสดีครับ ติดต่อจากธนาคาร... คุณเปิดใช้งานบัตรเครดิตใช่มั้ย”
.
8.ในสคริปท์ จะอำนวยความสะดวกโอนสายไปยังตำรวจ สภ.ตาก ก็จะเป็นการโอนสายไปยังคนที่สอง ตำแหน่ง ตำรวจสอบสวน ท่องอยู่หนึ่งวัน พอวันที่สองให้ทดลองฟังสายที่โทรไปหลอกจริง
.
9.วันที่สาม ต้องโทรไปหลอกเองแล้ว สายแรกเจอสวนว่า “หนูอย่ามาทำแบบนี้เลย มันบาป“ เด็กร้องไห้เลย เพราะทำไม่ได้
.
10.ระบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์รันสายเข้ามาจากระบบถึงพนักงาน โดยไม่ต้องกดเบอร์เอง มีหน้าจอ แจ้งชื่อนามสกุลและเลขบัตรประจำตัว ปลายสายไว้เป็นข้อมูลหลอกล่อ
.
11.งานเริ่ม 08.00-18.00 น. ถ้าใครไม่ได้ยอด ต้องซ้อมสคริปท์ต่อ เดือนแรก เด็กหลอกใครไม่ได้เลย แต่ได้เงินเดือน 20,000บาท ซึ่งก็ซื้อของจากร้านค้าในตึกเท่านั้น
.
12.เด็กบอกว่า ในนั้นไม่ได้ถูกบังคับหรือทุบตี มันเป็นไปโดยอัตโนมัติว่าต้องทำ แต่ฝึกกันหนัก เพื่อทำยอดให้ได้ ถ้าไม่ได้ยอด ต้องซ้อมบทจนถึงสามทุ่ม
.
13.เดือนที่สองไม่ได้เงินเดือนแล้ว ต้องหลอกคนให้ได้ โดยได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นเดือนที่สองไม่ได้เงินเลย เพราะหลอกคนไม่สำเร็จ แต่ที่นั่นนอนห้องแอร์และมีข้าวให้กินฟรีจึงยังอยู่ได้
.
14.เดือนที่สาม เด็กยังหลอกใครไม่ได้อีก คราวนี้เริ่มถูกกดดันโดยการด่า เด็กยังมีเงินเหลือจากเดือนแรก มีคนในนั้นชวนเล่นพนันออนไลน์ เป็นวังวนให้ต้องหาเงิน
.
15.เดือนที่สี่ หลอกคนได้ยอดรวมสองแสนจากเหยื่อหลายคนรวมกัน ได้เงินส่วนแบ่งมาหมื่นนึง เดือนที่สี่เด็กขยับตำแหน่งมาเป็นตำรวจ “ผมร้อยตำรวจโท ศุภชัย”
.
16.ขั้นตำรวจใช้อุปกรณ์เพิ่ม มีวิทยุสื่อสาร ทำทีพูดผ่านวิทยุให้เหยื่อได้ยิน เพื่อโอนสายไปตำรวจระดับสูงขึ้นไปอีกทอด ขั้นนี้จะขอตรวจบัญชี ต้องทำยอดเงินให้เป็นศูนย์บาท โดยโอนเงินมาที่บัญชีที่เตรียมไว้
.
17.ถ้าเหยื่อรวยและหลงเชื่อ จะหลอกถามทรัพย์สินอื่น บอกว่าทรัพย์สินได้มาโดยผิดกฎหมาย ให้ไปขายเอาเงินมาโอนให้ตรวจสอบ
.
18.เวลางานห้ามใช้โทรศัพท์ส่วนตัว หลังเลิกงานให้ใช้โทรศัพท์ได้
.
19.จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่เด็กโทรหลอกพระ ได้ครั้งแรกห้าหมื่น ครั้งต่อมาสามหมื่น ส่งต่อไปให้คนอื่นหลอกเพิ่มอีกเจ็ดหมื่น จนเปิดกล้องวิดีโอคอล เห็นพระร้องไห้ เด็กจึงไม่อยากทำแล้ว
.
20.เดือนที่ห้า เด็กไม่ได้ยอด เพราะไม่อยากทำ ขอกลับบ้าน เขาให้หาเงินมาไถ่ตัว 130,000 บาท ขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจ
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นช่วงปี 2566 - เคสนี้ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ช่วยเหลือเด็กกลับมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เสียเงินค่าไถ่ โดยการประสานงานแบบไม่เป็นทางการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตอนที่ข้ามฝั่งกลับมา เด็กถูกทำร้ายปรากฏบาดแผลและรอยฟกช้ำตามร่างกาย ครอบครัวไม่ประสงค์ดำเนินคดี เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี