14 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สว.(ป้องกันและปราบปราม) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีแจ้งว่า พบหญิงคล้ายคนวิกลจริตร้องเอะอะโวยวายอยู่ริมถนน ภายในซอยสัมพันธ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบทันที
เบื้องต้นพบหญิงอายุประมาณ 30-35 ปี ร้องเอะอะโวยวายพูดจาไม่รู้เรื่องโดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่จำนวนหลายใบอยู่ข้างๆเมื่อเข้าไปถามใกล้ๆ เจ้าตัวบอกว่า ชื่อคำหล้า อายุ 15 ปี แต่ดูหน้าตาแล้วคงไม่ใช่ 15 ปีแน่นอน ดูสำเนียงคล้ายคนเขมร
คำหล้า บอกว่า มาจากเขมรได้ผัวไทยเลยมาทำงานด้วย แต่ตอนนี้ผัวไปทำงานอยู่ยังไม่กลับมา บางครั้งก็ดูเหมือนพูดจาไม่รู้เรื่อง และในมือซ้ายยังกำฟอยซ์เสพยาบ้าคามืออยู่เลย ถามว่าคำหล้ายอมรับเสพยาไหม เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้เสพแต่ไม่รู้จักกินแล้วมันอร่อยดีค่า แต่คำหล้าบอกไม่ใช่ยาบ้า แค่มีคนขี่มอเตอร์ไซด์มาให้ ดูท่าพูดวกไปวนมา บ้างก็บอกว่าเป็นคนไทย บ้างก็บอกว่าเป็นคนเขมร แต่ดูสำเนียงพูดเร็วๆ รัวๆ น่าจะมาเขมรแน่นอน พอตำรวจเห็นท่าจะสร้างความวุ่นวายให้ชาวบ้านจึงเชิญตัวขึ้นรถ แต่คำหล้าไม่ยอมไป แต่สุดท้ายก็ยอมขึ้นท้ายกระบะไปสงบสติอารมณ์ที่สภ.เมืองอุดรธานีต่อไป
นายวรรัตน์ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านในซอยสัมพันธ์ เล่าว่า เห็นหญิงคนดังกล่าวร้องเอะอะโวยวายเสียงดังนั่งอยู่ริมฟุตบาทตั้งแต่เช้า สักพักก็เงียบตนจึงเฝ้าสังเกตดูจึงพบว่าหญิงเร่ร่อนคนดังกล่าวกำลังนั่งเสพยาบ้าเห็นจะจะคามือพี้อย่างเมามันเลยตนจึงเข้าไปสอบถามว่าทำอะไรแต่ก็ยังพูดจาไม่รู้เรื่องในมือยังถือไฟและไฟแช็คมีฟอยซ์เสพยาคามือ ก่อนที่เขาเสพยาเห็นมีวัยรุ่นสองคนขับรถมอเตอร์ไซด์มาแล้วยื่นยาบ้าให้ เสพยาอะหล่างฉ่างเกินไปอยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลบุคคลเหล่านี้ถือเป็นบุคคลอันตราย พร้อมกับส่ายหัวทำไมสังคมคนอุดรจึงเหลวเละเทะแบบนี้หน่วยงานที่ดูแลกำกับคนเร่ร่อนก็ไม่ยอมเข้ามาทำงานปล่อยให้ประชาชนอยู่กันตามยถากรรม คนบ้าคนเร่ร่อนเต็มเมืองไปหมด
ทั้งนี้ ยังมีอีกรายเสพยาเผาเพิงพักตัวเองวอด โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ดับเพลิงและตร.สายตรวจสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีคนเผาเพิงพักริมถนนข้างบขส.แห่งที่ 1 วอด เจ้าหน้าที่ฯ ดับเพลิงรีบเข้าไปดับเพลิงเพราะกลัวจะลามไปบ้านเรือนชาวบ้านเนื่องจากอากาศหนาวและลมแรงโชคดีที่ดับไว้ทัน จากการสอบถามนายตั้ม หัวหน้า รปภ.แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่าบริเวณแห่งนี้ถูกไฟไหม้เป็นประจำเป็นที่พักพิงของชายเร่ร่อนทั้งแถบ เคยได้รับแจ้งว่าเวลาเมาก็จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ
'บางวันเมาแล้วก็ทะเลาะกันปาขวดแก้วลงกลางถนนเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา จู่ๆ ก็เห็นไฟไหม้ที่พักของคนเร่ร่อนรีบมาดูแล้วแจ้งรถดับเพลิง ส่วนเจ้าของคือนายมด อายุ 41 ปีเจ้าของเพิงพักไม่หนีไปไหนตอนแรกอ้างตัวเองไม่ได้เผาแต่สุดท้ายยอมรับเผาเองเพราะทะเลาะกับเมีย โกรธให้เมียไม่ยอมกลับบ้านหลังเลิกงาน และยอมรับเสพยาไป 1 เม็ดมี ส่วนเมียที่เพิ่งกลับจากทำงานเห็นที่หลับนอนวอดไปกับกองเพลิง ด่าผัวนายมดไม่รู้จะด่าอย่างไร ด่าจนตับไตไส้พุงผัวเละหมดแล้ว เมียก็ร่ำไห้ ไม่รู้จากนี้จะไปนอนที่ไหนช่วงนี้อากาศหนาวด้วย'
ส่วนชาวบ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า น่าเบื่อหน่ายและเอือมระอากับชายเร่ร่อนกลุ่มนี้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประจำจุดบริเวณดังกล่าวถูกไฟเผามาแล้ว 3-4 ครั้งแต่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี