ความหมายและคุณค่าของเทศกาลตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีน หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Chinese New Year" เป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวจีนทั่วโลก ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวัง ความโชคดี และความเจริญรุ่งเรือง เทศกาลนี้จัดขึ้นในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน และมักมีระยะเวลาเฉลิมฉลองต่อเนื่องถึง 15 วัน โดยวันสุดท้ายคือเทศกาลโคมไฟ
เทศกาลตรุษจีนแฝงไปด้วยคุณค่าทางจิตใจและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง เช่น การแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผ่านการไหว้และเซ่นไหว้ การส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนผ่านการรวมญาติ รวมถึงการตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของเทศกาล เช่น โคมแดง ประทัด อั่งเปา และอาหารมงคล ล้วนสื่อถึงความปรารถนาให้ปีใหม่เต็มไปด้วยสิ่งดี ๆ และความสมหวัง
เอกลักษณ์และความหลากหลายของตรุษจีน
หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของตรุษจีนคือ "ความหลากหลาย" ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวจีนในแต่ละภูมิภาค ตัวอย่างเช่น การเชิดสิงโตและมังกรที่แสดงถึงพลัง ความกล้าหาญ และโชคลาภ การรับประทานอาหารที่มีความหมาย เช่น เกี๊ยว (ความมั่งคั่ง) ปลา (ความอุดมสมบูรณ์) และขนมเข่ง (ความสามัคคี) รวมถึงการประดับตกแต่งบ้านด้วยสีแดงและคำอวยพรที่เขียนด้วยพู่กันจีนซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองและความสุข
การขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติกับยูเนสโก (UNESCO)
ในปี 2024 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเทศกาลตรุษจีนของจีนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เนื่องด้วยมีพิธีกรรมและองค์ประกอบทางวัฒนธรรมเฉพาะตัวอันเกี่ยวพันกับทั้งสังคมจีน
การขึ้นทะเบียนเทศกาลตรุษจีนไม่เพียงเป็นการยอมรับความสำคัญทางวัฒนธรรมของตรุษจีน แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ประเพณีและศิลปะที่เกี่ยวข้องอย่างยั่งยืน โดยยูเนสโกชี้ให้เห็นว่าตรุษจีนเป็นตัวอย่างของ "วัฒนธรรมที่มีชีวิต" ซึ่งมีบทบาทในการหล่อหลอมอัตลักษณ์ของชุมชนและการสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตามการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาตินี้ ยังมีผลกระทบเชิงบวกในหลายด้าน เช่น การสนับสนุนการศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน การส่งเสริมการวิจัยด้านมรดกทางวัฒนธรรม และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิม
ตรุษจีนในประเทศไทย
สำหรับเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เฉลิมฉลองตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ย่านเยาวราช หรือ "ไชน่าทาวน์" ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างอลังการทุกปี งานตรุษจีนในประเทศไทยประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ขบวนพาเหรดเชิดสิงโตและมังกร การแสดงศิลปะวัฒนธรรมจีน เช่น ระบำพื้นบ้านและการแสดงดนตรี การประดับโคมไฟสีแดงทั่วทั้งย่าน และการจัดตลาดนัดอาหารที่มีทั้งอาหารจีนดั้งเดิมและอาหารไทยผสมผสาน
ตรุษจีนในประเทศไทยยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทยได้อย่างลงตัว เช่น การใช้ภาษาไทยและจีนในกิจกรรม การเพิ่มเมนูอาหารไทยในเทศกาล และการออกแบบงานประเพณีที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ เทศกาลตรุษจีนไม่ได้เป็นเพียงงานเฉลิมฉลอง แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศไทย งานเทศกาลนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดรายได้ในภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และการจำหน่ายสินค้า ธุรกิจการท่องเที่ยววัฒนธรรมนี้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและเพิ่มความสนใจในมรดกวัฒนธรรมไทย-จีน
ผู้เขียนเห็นว่าเทศกาลตรุษจีนนั้นเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมายทั้งในเชิงวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ และถือเป็นมรดกวัฒนธรรมที่มีชีวิต การขึ้นทะเบียนเทศกาลตรุษจีนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติโดยยูเนสโก ยิ่งช่วยเพิ่มความสำคัญของเทศกาลนี้ในระดับสากล อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ชุมชนต่าง ๆ เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิม และในบริบทของประเทศไทย ตรุษจีนไม่เพียงสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือและการผสมผสานที่สร้างสรรค์ระหว่างวัฒนธรรมที่หลากหลาย
เรียบเรียงโดย ดร.กฤตติกา เศวตอมรกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร / รองคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี