อัพเดตอาการ"เจ้าโอเลี้ยง"สุนัขรปภ.โรงเรียนที่อ.หนองหาน จงอุดรธานี ที่คอยเฝ้าโรงเรียนและเดินไปส่งนักเรียนเดินกลับบ้านถูกรถชนจนขาและกรามหัก ล่าสุดมีผู้ใจบุญทั่วประเทศแห่ช่วยเหลือสมทบการรักษาคนละเล็กคนละน้อย เป็นบุญของเจ้าโอเลี้ยงแท้ๆ ตอนนี้ถือมือหมอแล้ว ขณะที่เจ้าโอเลี้ยงสุดดีใจเหมือนรับรู้ได้ร้องกระดิกหางตอนอุ้มรถขึ้นไปหาหมอ ผลเอ็กซเรย์อาการหนักต้องเตรียมผ่าตัดใหญ่ แต่ยังขาดเลือดสำรอง สามารถบริจาคได้ที่รพ.สัตว์ประชารักษาอุดรธานี

วันนี้ (25 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคุณครูแอน ครูที่โรงเรียนบ้านหนองบ่อ ต.หนองหาน จ.อุดรธานี โพสต์ในโซเซียลเจ้าตูบชื่อโอเลี้ยง ซึ่งเป็นสุนัขเฝ้าโรงเรียนและแสนรู้เดินไปส่งนักเรียนกลับบ้านทุกเย็น แต่เคราะห์ร้ายถูกรถชนขาและกรามหักจนข้าวไม่ได้จนผอมโซมาเกือบ 2 อาทิตย์ วอนผู้ใจบุญช่วยรักษา ต่อมาหลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป ปรากฏว่าน้ำใจช่วยเจ้าโอเลี้ยงหลั่งไหลมาทั่วประเทศ บริจาคช่วยสมทบเป็นค่ารักษาพยาบาลเจ้าโอเลี้ยง โดยวันนี้ครูแอนได้พาเจ้าโอเลี้ยงไปหาหมอเพื่อทำการรักษาแล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อนช่วย'เจ้าโอเลี้ยง'หมาจรเฝ้าโรงเรียน ถูกรถชนขาหัก-ปากอ้าค้างกินข้าวไม่ได้ จนผอมโซ)

โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวและครูแอนได้เดินทางไปที่บ้านหนองบ่ออีกครั้ง เพื่อรับเจ้าโอเลี้ยงไปรักษาในตัวจ.อุดรธานี ปรากฏว่าเมื่อเจ้าโอเลี้ยงเห็นครูแอนได้วิ่งขากะเผลกมาแต่ไกล พร้อมร้องเอ๋งๆ และหางกระดิกเหมือนจะดีใจจะได้ไปรักษาอาการป่วยแล้ว ครูแอนพยายามให้กินนมและน้ำโดยใช้ไซลิงค์ฉีดเข้าไปที่ปากแต่ยังกินไม่ได้

คุณครูแอน เผยว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านจากทั่วประเทศที่โทรศัพท์มาสอบถามอาการเจ้าโอเลี้ยงและช่วยกันคนละเล็กละน้อยเพื่อช่วยรักษาค่าพยาบาล วันนี้จะพาโอเลี้ยงไปหาหมอ ค่าใช้จ่ายยังไม่นิ่งต้องรอฟังคุณหมออีกครั้ง ส่วนเงินบริจาคหลังจากเสร็จค่ารักษาพยาบาลหลังเหลือจะนำไปเป็นทุนซื้ออาหารให้กับสุนัขจรแถวโรงเรียนและเป็นเก็บค่าอาหารและดูแลเจ้าโอเลี้ยงในอนาคต ขอบคุณผู้เมตตาเจ้าโอเลี้ยงวันนี้เหมือนเขารับรู้ได้อ้าปากค้างยิ้มแฉ่งเหมือนดีใจจะได้ไปรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว

จากนั้นครูแอน จึงนำเจ้าโอเลี้ยงขึ้นรถไปรพ.ในตัวจ.อุดรธานี เมื่อไปถึงรพ.สัตว์ประชารักษา คุณหมอได้ทำการเอ๊กซเรย์อาการเบื้องต้น โดยน.สพ.อพิฑูรย์ เวียงอินทร์ หมอประจำรพ.สัตว์ประชารักษา บอกว่า ผลการจากเอ็กซเรย์ พบว่า น้องโอเลี้ยง กระดูกขาขวาหัก กระดูกเชิงกรานร้าว เบื้องต้นต้องปรับสภาพน้องโอเลี้ยงก่อน 2-3 วันเพื่อตรวจสุขภาพก่อนเตรียมการผ่าตัดต่อไป แต่ถ้ามีเลือดจางก็จะมีการให้เลือด  มีการวางยาสลบ จัดท่าแล้วเอ็กซเรย์ใหม่ ส่วนกรามหักทั้งสองข้างหักอาจจะมีการผ่าตัดกรามทั้งสองข้าง ต้องนอนแอดมิตน่าจะ 7-14 เพื่อรอดูอาการและเตรียมผ่าตัดต่อไป อาจจะต้องตัดกรามและใส่เหล็กทั้งสองข้าง แต่ก่อนผ่าตัดต้องตรวจร่างกายถ้าเลือดจางต้องให้เลือดเพื่อพร้อมสำหรับการผ่าตัดตอนนี้เจ้าโอเลี้ยงนอนแอ้ดมิตไปก่อน

ทางด้าน น.สพ.ณัฐพล อินทอง เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ประชารักษา เปิดเผยว่า จากการดูสภาพของโอเลี้ยงพบว่าเป็นสุนัขจรไม่มีประวัติให้วัคซีน ป้องกันเห็บหมักและถ่ายพยาธิ จากการดูผลเอ็กซเรย์พบว่ากระดูกที่หักคาดว่าจะหักมาแล้ว 7-14 วันแล้ว ในขั้นตอนการแรกรับของรพ. เราจะความสะอาดตัว กำจัดเห็บหมัด ตรวจพยาธิเม็ดเลือด แก้ไขภาวะขาดน้ำ ตรวจเลือดพื้นฐาน ตรวจล่าสุดถ้าไม่ได้มองจากกระดูกที่หักจากฟิล์มเอ็กซเรย์และกรามที่หักพบว่าน้องโอเลี้ยงมีภาวะโลหิตจาง 27%  ซึ่งภาวะโลหิตจางนี้หากไม่ได้มีการเสียเลือดออกจากร่างกายหรือเสียเลือดจากนี้ไป โอเลี้ยงอาจจะผ่าตัดได้โดยไม่ได้ให้เลือดเพิ่ม แต่โอเลี้ยงเป็นสุนัขจร มีโรคพยาธิเม็ดเลือดและเลือดที่จะออกอีก จึงต้องได้รับเลือดก่อนต้องหาเลือดมาให้ก่อน ซึ่งการให้เลือดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากกระบวนการรักษา ไม่ว่าภูมิตก หรือภาวะโรคที่เป็นอยู่และซ่อนเร้นอยู่เช่นพยาธิเม็ดเลือด ถ้าโอเลี้ยงได้เลือดถือว่าเป็นบันไดขั้นแรกในการรักษา สิ่งสำคัญคือตอนนี้อยากได้เลือดเพิ่ม โดยผู้รักสุนัขต้องการบริจาคเลือดให้โอเลี้ยงสามารถนำสุนัขมาที่รพ.สัตว์ประชา ถนนทหาร ตรงข้ามรพ.ประจักษ์ศิลปาคมได้ทันที

คุณหมอณัฐพล กล่าวต่อไปว่า หลังจากได้เลือดก็วางยาสลบให้อาหารทางสายยางเพื่อล้างปากกระดูกที่ติดเชื้อ พอเชื้อที่ดีขึ้นเพื่อแพลนผ่าตัดกระดูกซ่อมปาก โดยการล้างปากโดยการฆ่าเชื้อให้ถูกวิธี พอประเมินว่าแผลในช่องปากติดเชื้อน้อยแล้วก็เข้าซ่อมกรามโดยการตัดกระดูกแล้วต่อใหม่ ในระยะเวลานี้ก่อนผ่าตัด โอเลี้ยงต้องอยู่ 7-14 วันที่ต้องอยู่ที่รพ.เพื่อทำการรักษาและดูอาการเมื่อโอเลี้ยงเขามีโอกาสคุณหมอก็พร้อมรักษาเต็มที่

ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลของเจ้าโอเลี้ยงยังไม่นิ่งต้องรอฟังผลจากคุณหมอในช่วงแอดมิด ล่าสุด คุณปู เลขาของคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้บริหารมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ติดต่อมาขอรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเจ้าโอเลี้ยง ขณะที่ยังมีผู้ใจบุญติดต่อมาขอบริจาคสมทบทุนในการช่วยเหลือเจ้าโอเลี้ยงอยู่ตลอดทั้งวัน