'ธรรมะชูใจสร้างอินทรีย์ 5' โดย 'พระครูธีรธรรมปราโมทย์' เจ้าอาวาสวัดดอยเทพนิมิต เชียงราย
“พระครูธีรธรรมปราโมทย์” หรือ หลวงพ่อสําเริง สุวรรณละม้าย เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และ ประธาน "โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล" ปรารภธรรมในประโยคที่ว่า "ก้าวทุกก้าวมีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ" ซึ่งเป็นหลักธรรมที่หลวงพ่อสำเริงได้เมตตาให้แก่พระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดากว่า 80 รูป ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์ชาวลาวและชาวไทยเข้าร่วมโครงการ
"ก้าวทุกก้าวมีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ" หาดถอดรหัสออกมาก็คือ มีพุทโธอยู่ในใจทุกย่างก้าวแห่งการเดินเท้าจาริกธรรม ซึ่งการภาวนาพุทโธในใจนั้น มีกำลังมาก มีอานิสงส์มาก โดยเฉพาะสามารถทำให้ไม่ท้อถอยในการจาริกธรรมไปยังประเทศอินเดียและเนปาล ด้วยการเดินเท้าถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา และสังฆบูชา
วันนี้ "แนวหน้า ออนไลน์" จะพาทุกท่านไปรู้จักประวัติของ "หลวงพ่อสำเริง" ว่า เป็นมาอย่างไร ท่านจึงเดินทางมาสู่การเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของคณะสงฆ์ทั้งชาวลาวและชาวไทยในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา
"หลวงพ่อสำเริง" เป็นชาวอําเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับการอุปสมบท (บวช) ในมหานิกาย ซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิม หรือ นิกายใหญ่ในวัดที่ จ.สุพรรณบุรี และในพรรษาที่ 2 คาบเกี่ยวพรรษาที่ 3 ในช่วงฤดูแล้งได้ออกเดินทางแสวงหาครูบาอาจารย์ด้วยการธุดงค์เพียงองค์เดียว โดยการเดินเท้าจาก จ.สุพรรณบุรี ถึง จ.เชียงราย จนกระทั่งมาพบกับงานปริวาสกรรมของวัดถํ้าผาจม ต.เวียงพางคํา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีโอกาสพบกับพระครูเกษมวรกิจ หรือ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย จึงเกิดความศรัทธาในองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย และประทับใจสถานที่ที่วัดถํ้าผาจม จึงอยู่จําพรรษาที่วัดถํ้าผาจม 2 พรรษา และได้เพียรไปประพฤติปฏิบัติที่วัดถํ้าผาจมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ
ต่อมาได้ออกธุดงค์ไปทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พบกับพ่อแม่ครูอาจารย์องค์สําคัญอีกองค์หนึ่ง คือ หลวงปู่ฉลวย สุธมฺโม พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบ้านวไลย (วัดป่าวิทยาลัย) ตําบลหนองพลับ อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทําให้หลวงพ่อสําเริง เกิดความศรัทธาในข้อวัตรปฏิปทา จึงได้หยุดพักธุดงค์และอยู่จําพรรษาที่วัดป่าบ้านวไลยเป็นเวลา 1 พรรษา
เมื่อหลวงพ่อสําเริงได้ศึกษาข้อวัตรปฏิปทาของหลวงปู่ฉลวยแล้ว จึงมุ่งหน้าธุดงค์ป่าช้า โดยสมาทานอยู่ป่าช้าเป็นข้อวัตร และ ปฏิบัติอยู่ป่าช้าบริเวณทางภาคเหนือเป็นหลัก โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, ลําปาง และ แพร่ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ที่หลวงพ่อสําเริงอุทิศกายและใจในการเร่งความเพียรด้วยการสมาทานธุดงค์อยู่ป่าช้าเป็นข้อวัตร และ ออกธุดงค์เพียงองค์เดียว
ต่อมาในพรรษาที่ 11 "หลวงพ่อสําเริง" จําพรรษาที่เมืองตีสุรี ประเทศเนปาล และมีโอกาสไปสังเวชนียสถานในอินเดีย ซึ่งสร้างความปิติใจอย่างมาก จนกระทั่งในพรรษาที่ 20 จึงเริ่มนําศรัทธาญาติโยมออกบวชที่ประเทศอินเดีย นํามาสู่โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ซึ่งเน้นการจาริกธรรม เดินเท้าตามรอยบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะไม่ใช่การธุดงค์ที่ต้องเน้นข้อวัตรธุดงค์ด้วยการเดินในป่าแต่เพียงผู้เดียว
สำหรับเส้นทางการเดินเท้า "โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ปีที่ 11" เริ่มเดินเท้าในประเทศไทย โดยพระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมฯ รวมกันที่วัดดอยเทพนิมิต จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567 และเริ่มเดินเท้า ไป จ.ลําปาง และเดินย้อนกลับมายังวัดดอยเทพนิมิต จ.เชียงราย ในการทำกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในเทศกาลปีใหม่ และตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2568 พระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมฯ ได้ไปรวมตัวกันที่ จ.สุพรรณบุรี และเริ่มเดินเท้าจาก จ.สุพรรณบุรี เขัากรุงเทพมหานคร โดยแวะปักหลักใน จ.ปทุมธานี โดยเน้นจำวัดอยู่ที่วัดพุทธวิชยาราม คลอง 6 จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นวัดของพระครูเกษมวรกิจ หรือ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย อดีตเจ้าอาวาส วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังประเทศอินเดีย-เนปาล
ส่วนระยะเวลาในการเดินเท้าจาริกธรรมในประเทศอินเดีย-เนปาล เริ่มต้นในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคม พ.ศ.2568 รวมระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน หรือ เพียง 1 เดือนเศษ ในการเดินเท้าจาริกธรรมในดินแดนพุทธภูมิ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2568 รายการลายกนก โดยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ท๊อปส์นิวส์ และ ทีมงานได้สัมภาษณ์พิเศษ "หลวงพ่อสำเริง" ที่วัดกลาง จ.สุพรรณบุรี และ เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2568 ชาวนาถะ นำโดยผู้บริหารโรงแรมดุสิตธานี ร่วมบุญมหาทานด้วยการถวายกุฏิน้อยเคลื่อนที่ หรือ เต็นท์สำหรับพระสงฆ์ใช้พักระหว่างเดินจาริกธรรมในดินแดนพุทธภูมิ ที่วัดพุทธวิชยาราม คลอง 6 จ.ปทุมธานี รวมทั้งในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2568 นี้ ชาวนาถะยังได้นัดรวมตัวกันเพื่อตักบาตรแด่พระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ครั้งที่ 11 ณ วัดใหม่คลองเจ็ด จ.ปทุมธานี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี