เปิดงานบวงสรวงโองมู้บรรพบุรุษชาวไทแสก ผู้ว่าฯนครพนมโชว์สเต็ปแสกเต้นสาก ยกย่องเมี่ยงตาสวด เป็นเมนูอัตลักษณ์ท้องถิ่น
วันที่ 30 ม.ค.68 เมื่อเวลา 09.39 น. ที่ศาลเจ้าเด่นหวั่วโองมู้ ริมแม่น้ำโขง บ้านอาจสามารถ หมู่ที่ 5 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และ กลุ่มชาติพันธุ์ไทแสก ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ชนเผ่าที่มีถิ่นฐานอยู่ใน จ.นครพนม ร่วมเปิดงาน "วันรวมใจไทแสก" ประจำปี 2568 เพื่อรำลึกถึงโองมู้ นักรบกล้าบรรพบุรุษของชาวไทแสก โดยนายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม กล่าวรายงานว่า "วันรวมใจไทแสก" เป็นวันที่ชาวไทแสกทุกคนต้องมารวมกัน ณ ศาลเจ้า"เดนหวั่วโองมู้" แห่งนี้ ทุกวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเคารพ และนับถือซึ่งดวงวิญญาณบรรพบุรุษ คือ โองผู้ ที่ชาวไทแสกให้ความเคารพสักการะ
โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้กล่าวไว้ในหนังสือเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวไทแสกเอาไว้ว่า ถิ่นเดิมของชาวไทแสกอาศัยอยู่แถบเมืองวินท์ เมืองรอง ซึ่งอยู่ระหว่างชายแดนประเทศจีนและเวียดนาม ชนเผ่าไทแสกรักสงบไม่ชอบการรุกราน เมื่อถูกรุกรานจากชนผ่าอื่น จึงได้รวบสมัครพรรคพวกหาที่อยู่ใหม่ โดยอพยพมาตามลำแม่น้ำโขง บางส่วนได้ไปตั้งถิ่นฐานอยู่แถบแคว้นสิบสองปันนา บางกลุ่มตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านโพธิ์ค้ำ บ้านตอกท่าแค เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว และบางส่วนได้ข้ามแม่น้ำโขงมาอยู่ฝั่งประเทศไทย ในราวสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยมีโองมู้เป็นผู้นำในการอพยพในครั้งนั้น
ทางด้านนายสุรจิตร จันทรสาขา ได้กล่าวไว้ว่า พระสุนทรราชวงษา (ฝ้าย) ให้ชาวไทแสก ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ป่าหายโศก ทรงเห็นว่าชาวไทแสกมีนิสัยรักสงบ ทรงแต่งตั้งให้เป็นกองอาทมาต ทำหน้าที่คอยลาดตระเวนตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า แต่งตั้งชุมชนเผ่าไทแสกให้เป็นเมืองอาทมาต ขึ้นกับเมืองนครพนม โดยให้ท้าวฆาน บุตดี เป็นหลวงเอกอาษา ทำหน้าที่เป็นเจ้าเมือง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเมืองจากเมืองอาทมาต เป็นเมืองอาจสามารถ เอกสารจดหมายเหตุ ร.3 จ.ศ.1191 เลขที่ 3 หอสมุดแห่งชาติมีข้อความกล่าวถึง ประวัติการตั้งเมืองอาจสามารถว่า ประเทศไทยได้มีการปฏิรูปการปกครองส่วนภูมิภาคให้เป็นแบบเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ให้ยกเลิกการปกครองแบบโบราณของเมืองต่าง ๆ ในภาคอีสาน ซึ่งเคยปกครองแบบมีเจ้าเมืองอุปฮาต ราชวงศ์ และราชบุตรทั้งหมด ให้เปลี่ยนเป็นตำแหน่ง"ผู้ว่าราชการเมือง" ปลัดเมือง ยกบัตรเมือง
โดยเมืองนครพนมมีพระยาพนมนครานุรักษ์ เป็นผู้ว่าราชการเมือง แบ่งการปกครองออกเป็น 6 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครพนม อำเภออาจสามารถ อำเภออากาศอำนวย อำเภอกุสุมาลย์ และมณฑลอำเภอโพธิไพศาล ปัจจุบัน อำเภออากาศอำนวย อำเภอกุสุมาลย์ และมณฑลอำเภอโพธิไพศาล ขึ้นกับจังหวัดสกลนคร ส่วนอำเภออาจสามารถได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น ตำบลอาจสามารถจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเขตอำเภอเมืองและอำเภออาจสามารถมีพื้นที่ติดกัน
กลุ่มชนเผ่าไทแสกส่วนมากอาศัยอยู่ ที่บ้านอาจสามารถ และบ้านไผ่ล้อม ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม และมีบางส่วนแยกไปอยู่บ้านบะหว้า อ.นาหว้า บ้านดอนสมอ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ส่วนการกินเตรดเดน ชาวไทแสกเชื่อว่าเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญเป็นการสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น ก่อให้เกิดความผูกพัน สร้างจิตสำนึกให้แก่ชาวไทแสกเกิดความรักและความหวงแหนในวัฒนธรรมของตน มุ่งสอนให้ผู้น้อยให้ความเคารพนับถือผู้ใหญ่กว่า มีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และเป็นการพบปะสังสรรค์กันทุกครัวเรือน
กิจกรรมในงานครั้งนี้ ประกอบด้วย ขบวนแห่ของชนเผ่าไทแสก พิธีกินเตรดเดน ณ ศาลเจ้าเดนหวั่วโองมู้ การแสดงรำบวงสรวงโองมู้ การจำลองวิถีชีวิตของชนเผ่าไทแสก ประกวดซุ้มซอยซึ่งจัดมาเป็นประจำทุกปี ประกวดธิดาไทแสก ประกวดแม่ฮ้างมหาเสน่ห์ การแข่งขันชกมวยโบรา และรำวงย้อนยุค
งานวันรวมใจไทแสก มีเอกลักษณ์สำคัญคือ การแสดงรำแสกเต้นสาก ที่คล้ายการเล่นรำกระทบไม้ ซึ่งมีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลก โดยนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม ได้ลองเล่นรำแสกเต้นสากร่วมกับชาวไทแสก แม้อาจจะต้องได้รับบาดเจ็บจากการถูกไม้ที่ยาวเกือบ 2 วากระทบที่เท้าก็ตาม แต่ด้วยสปิริตจึงขอเล่นดู โดยให้นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม นำร่องไปก่อน เรียกเสียงปรบมือจากชาวไทแสกเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีเมี่ยงตาสวด หรือเมี่ยงตาเหลือก เมนูอาหารที่ผ่านการคัดเลือก ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ... ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับนายกเหล่ากาชาดจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด บูรณาการร่วมกันเพื่อค้นหาเมนูที่เสี่ยงใกล้สูญหาย มีประโยชน์ทางโภชนาการ และเป็นเมนูประจำแสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งเมี่ยงตาสวดได้รับการโหวตผ่านเกณฑ์คัดเลือก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี