วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คุณหมออารมณ์ดีเจ้าของเพจ “หมอเจด” ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับ 5วิธี หายจากไขมันพอกตับ ฉบับหมอเจด
โดยระบุว่า ไขมันพอกตับ หรือ NAFLD (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease) คือภาวะที่มีไขมันสะสมในตับมากเกินไป ซึ่งคนไทยเป็นเยอะมากนะ ผมก็เคยเป็น 1 คนที่เป็น ผมเคยหนัก 110 กก. ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่มีวันนึงได้ตรวจตับก็เจอว่าตัวเองเป็นไขมันพอกตับ ตอนนั้นก็เครียดนะ เพราะลูกก็ยังเล็ก แล้วไขมันพอกตับมันทำให้เกิดเรื่องของการอักเสบและทำให้ตับแข็งได้ หรือลุกลามไปเป็นมะเร็งตับได้ ซึ่งตอนนั้นเป็นระยะที่ 3 ยังสามารถกลับมาเป็นปกติได้ ถ้าเจอเร็วและปรับพฤติกรรมให้ดี ผมจะมาแชร์ 5 วิธีง่าย ๆ ที่ผมทำและตับกลับมาเป็นปกติ มีอะไรบ้างมาดูกันครับ
1.ลดน้ำหนักให้เหมาะสม
การลดน้ำหนักเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดไขมันพอกตับ งานวิจัยพบว่าหากคุณลดน้ำหนักได้ 10-15% ของน้ำหนักตัว ไขมันในตับจะลดลงและอาการอักเสบก็ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนั้นผมหนัก110 กก. ควรลดลงอย่างน้อย 11-16.5 กก.และต้องลดลงอย่างน้อยเหลือ 99 กก. การลดน้ำหนักต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป (0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์) และอย่าลืมออกกกำลังกายให้คราบ 150 นาทีต่อสัปดาห์ด้วยนะครับ
2.ลดแป้งและน้ำตาล
ไขมันพอกตับไม่ได้เกิดจากไขมัน หรือแอลกอฮอล์อย่างเดียวนะครับ แต่การกินแป้งและน้ำตาลมากเกินไป โดยเฉพาะพวกแป้งขัดขาว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำอัดลม และขนมหวานต่าง ๆ
ก็กระตุ้นไขมันพอกตับได้เหมือนกัน
แนะนำว่าควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่ดี เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ ควินัว และผักที่มีไฟเบอร์สูง รวมถึงควรจะลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง ก็จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดการสะสมของไขมันในตับ และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
3.เลือกไขมันดีแทนไขมันไม่ดี
ถึงแม้คุณจะมีไขมันพอกตับ แต่ก็ยังสามารถกินไขมันได้ แต่ต้องเป็นไขมันที่ดี เช่น
•ปลาแซลมอน ทูน่า ซึ่งเป็นแหล่งของโอเมก้า-3)
•น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
•อะโวคาโด
•ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ไขมันทรานส์ ไขมันจากอาหารทอด และน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจิเนชัน เพราะไขมันเหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบและทำให้ภาวะไขมันพอกตับแย่ลง ซึ่งการกินไขมันดี ก็จะไปช่วยไล่ไขมันเลวตามที่พูดไปนะครับ
4.ลองทำ Intermittent Fasting (IF)
Intermittent Fasting (IF) คือการกินอาหารเป็นช่วงเวลา เช่น 16:8 (อดอาหาร 16 ชั่วโมง กินได้ใน 8 ชั่วโมง) ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมในตับได้ดีขึ้น
วิธีง่าย ๆ ในการเริ่ม IF คือ งดมื้อดึก และเลื่อนมื้อเช้าออกไป เช่น กินเฉพาะช่วง 10:00 - 18:00 น. แล้วดื่มแค่น้ำเปล่า ชาเขียว หรือกาแฟดำระหว่างที่อดอาหาร
5.อาหารเสริมที่อาจช่วยให้ตับดีขึ้น
ถึงการปรับพฤติกรรมจะเป็นปัจจัยหลักในการลดไขมันพอกตับ แต่ก็มีอาหารเสริมบางตัวที่อาจช่วยได้ เช่น
•โคลีน (Choline) ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันดีขึ้น
•วิตามินอี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบของตับ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะต้องใช้ในปริมาณสูง
•ซิลิมาริน (Silymarin) สารสกัดจากมิลค์ทิสเซิล ช่วยปกป้องเซลล์ตับจากสารพิษ แต่ยังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. ไทยให้ใช้เป็นอาหารเสริม
อันนี้ก็เป็น 5 วิธีที่ผมใช้ ซึ่งไขมันพอกตับกลับมาปกติ และป้องกันได้ ถ้าคุณเริ่มปรับพฤติกรรมให้ดีตั้งแต่วันนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร เลือกไขมันที่ดี ลองทำ IF และถ้าจำเป็นก็เสริมด้วยวิตามินหรือสารอาหาร คนที่เป็นไขมันพอกตับไม่ต้องตกใจนะครับ แค่เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมตอนนี้ ตับของคุณจะค่อย ๆ ฟื้นตัวได้ เพราะตับเป็นอวัยวะที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ถ้าเราดูแลและถนอมมัน ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ใครเสี่ยงบ้าง! 'ไขมันพอกตับ'คนผอมก็ไม่รอด ระวังก่อนเป็นมะเร็งตับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี