2 กุมภาพันธ์ 2568 ธรรมะวันอาทิตย์ ฟังพระธรรมเทศนากับเจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ด้านทิศตะวันตก ถนนอรุณประเสริฐ(อำนาจเจริญ –ยโสธร) ประมาณ 19 กิโลเมตร ถึงสี่แยกไฟแดง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายรอง(น้ำปลีก – หัวตะพาน) ประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านน้ำปลีก และเป็นที่ตั้งวัดกลางบ้านน้ำปลีก มีเนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลายรูป พระสงฆ์ 5 รูป ถือว่าเป็นวัดขนาดเล็ก สังกัดมหานิกาย
เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ รูปปัจจุบัน ได้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อค้นคว้าศึกษาพระธรรมวินัย ระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำแห่งหนึ่งบริเวณรอยต่อประเทศพม่า กับ จ.กาญจนบุรี ประเทศไทย ต่อมาพุทธศาสนิกชนชาวบ้านน้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ นิมนต์กลับมาวัดกลางบ้านน้ำปลีก ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ไม่มีพระจำพรรษา ก็เลยเดินทางมาอยู่ที่วัดกลางน้ำปลีก แรกๆไม่มีอะไรเลย จึงได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งทุกวันนี้ เป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งวัดกลางบ้านน้ำปลีกถือว่า เป็นศูนย์รวมทางจิตใจที่ยึดเหนี่ยวทางใจของชาวน้ำปลีกและใกล้เคียงรวมถึงยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญอีกด้วย
ต่อมา เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก นิมิตว่า ได้ปรากฏเห็นภาพเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยเหนืออุโบสถ จึงนำเรื่องราวความฝันไปปรึกษากับกรรมการวัดและพุทธศาสนิกชนบ้านน้ำปลีก ตกลงว่า ให้ก่อสร้างพุทธมหาเจดีย์สิตตฉัตรมหามงคล แบบพุทธคยาประยุคกับเจดีย์ในปัจจุบัน จึงปรากฏเป็นรูปร่างเจดีย์อย่างที่เห็น โดยใช้เงินงบประมาณจากพุทธศาสนิกชนบ้านน้ำปลีกและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค จำนวน 35 ล้านบาท มีความสูงจากพื้นถึงยอด ประมาณ 47 เมตร ฐานกว้าง 108 เมตร วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.46 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีต่อมา ซึ่งมีการจัดงานพิธีพุทธาภิเษกเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 19 ม.ค.58 ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก สมโภชพุทธมหาเจดีย์สิตตฉัตรมหามงคล ขึ้น ช่วงกลางคืน ระหว่างพิธีพุทธาภิเษก มีพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานรายหนึ่งได้บักทึกภาพไว้ เป็นภาพพญานาค ลอยมาจากท้องฟ้าพาดรอบเจดีย์ พร้อมมีภาพสีรุ้งหลากหลายพาดเป็นแนวยาวจากฟ้าสู่เจดีย์ที่กำลังทำพิธีพุทธาภิเษก เชื่อว่า เป็นเหล่าเทพเทวดาบนสรวงสวรรค์และญาณพญานาคมาเข้าร่วมพิธีมหามงคลครั้งนี้
ก่อนเดินทางกลับ เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก เทศนาว่า วิบากกรรมของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันไป บางคนป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนตกงานบ่อย บางคนลำบากมาก หากินไม่คล่อง บางคนลูกเกเร วิบากกรรมนี้ ตามหาหลายภพหลายชาติ ซึ่งมีส่วนทำให้เราเกิดมาแตกต่างกัน แต่อย่าสิ้นหวัง หนทางในการบรรเทาวิบากกรรมนั้นมี ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น เวลาที่เราทำบุญหรือทำความดีทุกครั้ง นอกจากบุญที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น การใส่บาตร การถือศีล ฯลฯ แล้ว การพูดคุย ช่วยให้ผู้อื่นสบายใจ การสนทนาธรรม การให้ธรรมทาน การร่วมบริจาคหนังสือธรรมะ การชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิตให้กับผู้สิ้นหวัง การทำความสะอาดห้องพระ การถวายน้ำเปล่าเพียง 1 แก้ว การร่วมอนุโมทนากับการทำความดีของผู้อื่น โดยการใช้จิตน้อมไปทางบุญคุณ การกวาดใบไม้ ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือของส่วนรวม การดูแลคนแก่ เด็ก การที่เรามีจิตใจดีหรือตั้งใจดี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นกุศล และเป็นบุญทั้งสิ้น...
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี